|
|
1. ความเป็นมาและความสำคัญ
พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ได้แถลงนโยบาย การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ จะอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งนำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อน เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษาเต็มกำลังความสามารถอย่างเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ภายใต้แนวทางการทำงาน จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน และเรียนดี มีความสุข เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งการเรียนการสอนจำเป็นต้องเริ่มจากความสุขทั้งผู้เรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง เมื่อมีความสุขจะส่งผลให้การเรียนดีขึ้น เมื่อการเรียนดีขึ้นจะส่งผลกลับไปทำให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงอยากให้เกิดความร่วมมือกันทั้งผู้บริหาร ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองและชุมชน จะสามารถขับเคลื่อนผลักดันในเรื่องการศึกษาให้เจริญรุดหน้ายิ่งขึ้นไป ซึ่งแนวคิดในการจัดการศึกษาแบ่งเป็น 2 ข้อหลัก คือ การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต มีนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการ : ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง 6 ด้าน 1.เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทำ ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางมีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ, 2567, น. 29-30)
นวัตกรรมเป็นเครื่องมือการสร้างความแตกต่าง และความได้เปรียบในการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจและโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาที่มีการปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบาย และมาตรฐานการศึกษาให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ.2561-2580 และแผนปฏิรูปประเทศ โดยในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 แผนแม่บทประเด็นที่ (12) การพัฒนาการเรียนรู้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียนรู้และมีใจ ใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา มีการออกแบบระบบการเรียนรู้ใหม่ การเปลี่ยนบทบาทครูการเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษา และการพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต การวางพื้นฐานระบบ รองรับการเรียนรู้โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และการสร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2563, น. 12) มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561 จึงถูกกำหนดผ่านกรอบผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการศึกษา(Desired Outcomes of Education) หรือคุณลักษณะของคนไทย 4.0 ให้เหมาะสมตามช่วงวัยตั้งแต่ระดับการศึกษาปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษา
โรงเรียนบ้านห้วยโป้เป็นโรงเรียนขยายโอกาสขนาดกลาง ปีการศึกษา 2567 มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 165 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 16 คน มีสภาพปัญหาสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะปัญหาด้านงบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอในการจัดหาสื่อ ครูสอนไม่ตรงวิชาเอก ครูผู้สอนไม่มีความรู้การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ขาดความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้สื่อการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องเหมาะสมกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ครูขาดความรู้ ความเข้าใจในหลักการและเป้าหมายของการนำสื่อในระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลไปบูรณาการกับวิชาอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถพัฒนาทักษะ และกระบวนการคิดของผู้เรียนตามเป้าหมายได้ ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยโป้ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่สามารถเข้าถึงการใช้งานเนื้อหาต่าง ๆ สำหรับการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในห้องเรียนหรือเรียนรู้จากที่บ้านด้วยการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการศึกษาทุกระดับการศึกษา ดังนั้นเพื่อให้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดังกล่าวเป็นการขับเคลื่อนในทุกมิติ ให้สามารถนำสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์มการเรียนรู้นี้ ไปใช้พัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน
|
โพสต์โดย lucky : [16 ก.ค. 2567 (20:27 น.)] อ่าน [993] ไอพี : 49.230.248.37
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 20,606 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,532 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,881 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,057 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,940 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,150 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,832 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,870 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,618 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,319 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,488 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,763 ครั้ง
| เปิดอ่าน 62,057 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,985 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,805 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 12,631 ครั้ง
| เปิดอ่าน 31,197 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,886 ครั้ง
| เปิดอ่าน 42,562 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,254 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|