ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะ การเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะ

การเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้รายงาน นายเกษม สุทธิสาร

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์

อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

ปีที่วิจัย 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเพื่อการพัฒนารูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

เป็นการวิจัยโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ซึ่งแบ่งขั้นตอนการวิจัยออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย คือ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาฟุตบอล ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระยะที่ 4 ประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบ

การสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนอุ่มเหม้าประชาสรรค์ ตำบลอุ่มเหม้า อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 35 คน ได้มาด้วยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เพื่อให้สะดวกในการจัดการเรียนรู้ และตรงตามตารางเรียนของโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ

ผลการวิจัยพบว่า

ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนการสอน รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการเรียนรายวิชาฟุตบอล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ด้วยสถานการณ์เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 อย่างรุนแรง ทำให้การจัดเรียนการสอนที่ผ่านมา เป็นการสอนเน้นเนื้อหารูปแบบ Online มากกว่าการปฏิบัติจริง ผู้เรียนยังมีปัญหาเรื่องทักษะการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง ไม่สามารถนำทักษะมาเชื่อมโยงในการเรียนรายวิชาพลศึกษาหรือพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลและเพิ่มขีดความสามารถของผู้เรียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ ขาดการฝึกพื้นฐานทักษะการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องต่อเนื่อง นักเรียน

มีสมรรถภาพทางกายที่ต่ำลง ทั้งในด้านความเร็ว ด้านความคล่องแคล่ว ว่องไว ผู้เรียนมีความเบื่อหน่ายในรูปแบบการสอน ครูขาดเทคนิคการสอนใหม่ๆ ไม่มีความท้าทาย ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนการสอนที่ขาดสื่อนวัตกรรมที่ทันสมัยและไม่มีแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม ให้เกิดประสบการณ์ ส่งผลให้มีปัญหา ไม่สามารถพัฒนาการเรียนรู้รายวิชาพลศึกษา กีฬาฟุตบอลให้สูงขึ้นกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล เป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบ Active Learning ให้มีความเข้มข้นขึ้นมาอีก โดยเน้นการเรียนแบบโค้ช (Coaching) นั้นคือ ครูนำหลักการวิทยาศาสตร์การฝึกสอนกีฬา (Science of coaching) มาใช้ในการวางแผน การออกแบบชุดฝึกทักษะ และการจัดรูปแบบกิจกรรม วิธีการสอน ตลอดจนการจัดขั้นตอนการฝึก เพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องให้กับผู้เรียนแต่ละบุคคลได้อย่างถูกต้อง และชุดฝึกทักษะนี้มีลักษณะใกล้เคียงหรือคล้ายคลึงสภาพที่ใช้จริง

ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากกระบวนการจัดทำรูปแบบการสอนโดยอาศัยกระบวนการวิจัยและพัฒนา ผู้วิจัยได้ศึกษาและทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบและวิธีการที่เหมาะสม จึงทำให้รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความเหมาะสม

ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า

นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นั่นคือ การจัดการเรียนการสอน รายวิชาฟุตบอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีการนำแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ

มาประกอบการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน ประสิทธิภาพของ รูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 94.05/86.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ และมีค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7012 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ซึ่งมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.12

ระยะที่ 4 ประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบโค้ช (COACHING) ประกอบแบบฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบ SAQ รายวิชาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในระดับพึงพอใจมากที่สุด

โพสต์โดย เกษม สุทธิสาร : [16 ก.ค. 2567 (15:31 น.)]
อ่าน [984] ไอพี : 101.51.18.122
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,811 ครั้ง
บทบาทผู้นำองค์กร 2020
บทบาทผู้นำองค์กร 2020

เปิดอ่าน 16,672 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง

เปิดอ่าน 8,646 ครั้ง
หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจ
หลากวิธีกำจัด จุดอ่อน ที่หัวใจ

เปิดอ่าน 2,851 ครั้ง
ความหมายดีๆ ของการตกแต่งต้นคริสต์มาส?
ความหมายดีๆ ของการตกแต่งต้นคริสต์มาส?

เปิดอ่าน 10,621 ครั้ง
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด

เปิดอ่าน 10,828 ครั้ง
4 วิธี สร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ
4 วิธี สร้างสมาธิแบบไม่น่าเชื่อ

เปิดอ่าน 25,716 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux
ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ - Linux

เปิดอ่าน 9,885 ครั้ง
เครื่องมือเทคโนโลยีขั้นสูง ตอบโจทย์การศึกษาโลกในอนาคต
เครื่องมือเทคโนโลยีขั้นสูง ตอบโจทย์การศึกษาโลกในอนาคต

เปิดอ่าน 10,698 ครั้ง
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก
ความลับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงอายุยืนที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 84,318 ครั้ง
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 16,084 ครั้ง
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 21,969 ครั้ง
ฟักทอง เต็มเปี่ยมด้วยประโยชน์
ฟักทอง เต็มเปี่ยมด้วยประโยชน์

เปิดอ่าน 41,888 ครั้ง
จักรวาลมีดาวทั้งหมด 300,000,000,000,000,000,000,000
จักรวาลมีดาวทั้งหมด 300,000,000,000,000,000,000,000

เปิดอ่าน 16,030 ครั้ง
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว
คลิปน้อง "ธนัช" เด็กไทยอัจฉริยะ ตอน 4 ขวบ เดี่ยวไวโอลิน ที่ยอดวิวตอนนี้ 22 ล้านแล้ว

เปิดอ่าน 70,731 ครั้ง
ประติมากรรม
ประติมากรรม

เปิดอ่าน 60,177 ครั้ง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
เปิดอ่าน 16,051 ครั้ง
4 ความผิดพลาดทางการเงิน ที่นักศึกษาพึงระวัง!!
4 ความผิดพลาดทางการเงิน ที่นักศึกษาพึงระวัง!!
เปิดอ่าน 17,161 ครั้ง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง
เปิดอ่าน 23,017 ครั้ง
เส้นทางสายไหม
เส้นทางสายไหม
เปิดอ่าน 15,013 ครั้ง
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน
"เมียนมาร์" "เบอร์มา" ชื่อนั้นสำคัญไฉน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ