บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านตาปรก
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก สื่อ Sorting แรงลัพธ์ ใบงานเชิงสร้างสรรค์ และเกมกระดานหาแรงลัพธ์พาผึ้งกลับรัง โดยนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมเชิงรุกเพื่อเรียนรู้เรื่องแรงลัพธ์ หลังจากจบการเรียนการสอนสรุปความรู้ด้วยการใช้ผัง Sorting และทดสอบความรู้ความเข้าใจด้วยการตอบคำถามในเกมหาแรงลัพธ์พาผึ้งกลับรัง จากนั้นผู้วิจัยจึงประเมินวิเคราะห์ความเหมาะสมของการจัดการเรียนรู้ และประเมินวิเคราะห์ความรู้ความเข้าใจของผู้เรียน
ผลการวิจัยปรากฏว่า หลังการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แล้ว ผู้วิจัยพบว่าการใช้กระบวนการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ดังงานวิจัยนี้มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดี และควรปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้จากบันทึกหลังสอนต่อไป ส่วนความรู้ความเข้าใจนั้นผู้วิจัยพบว่าหลังการจัดการเรียนรู้และประเมินผลการตอบคำถามจากเกมหาแรงลัพธ์พาผึ้งกลับรัง ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับที่ดีมาก สามารถตอบคำถามได้ถูกต้องร้อยละ 95
บทที่ 4
ผลการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โดยเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นลำดับ ในลักษณะตารางประกอบคำบรรยายดังนี้
1. การวิเคราะห์ผลการทำแบบฝึกหัด/ใบงาน
2. การวิเคราะห์ผลการใช้ผัง Sorting แรงลัพธ์
3. การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกมกระดานหาแรงลัพธ์ส่งผึ้งกลับรัง
4. การวิเคราะห์หาความเหมาะสมของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting จากบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้
1. การวิเคราะห์ผลการทำแบบฝึกหัด/ใบงาน
ในระหว่างการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ได้จัดให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ทำแบบฝึกหัด/ใบงาน ผลการประเมินระดับคุณภาพแสดงดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในการทำแบบฝึกหัด/ใบงาน
ผลการประเมินระดับคุณภาพ จำนวนนักเรียนที่ได้ (คน) คิดเป็นร้อยละ
ดีมาก 4 27
ดี 8 53
พอใช้ 3 20
จากตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในการทำแบบฝึกหัด/ใบงานของนักเรียนรายบุคคลนั้น พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน สามารถทำแบบฝึกหัด/ใบงานเรื่องแรงลัพธ์ มีระดับคุณภาพดีมาก ร้อยละ 27 คุณภาพดี ร้อยละ 53 และ คุณภาพพอใช้ ร้อยละ 20
2. การวิเคราะห์ผลการใช้ผัง Sorting
ในระหว่างการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ได้จัดให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ได้แบ่งนักเรียนทำกิจกรรม Sorting แรงลัพธ์ เป็น 3 กลุ่ม และสังเกตการทำกิจกรรมกลุ่ม ผลการประเมินระดับคุณภาพแสดงดังตารางที่ 2
ตารางที่ 2 แสดงการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในกิจกรรมผัง Sorting แรงลัพธ์
ผลการประเมินระดับคุณภาพ จำนวนกลุ่มที่ได้ (กลุ่ม) คิดเป็นร้อยละ
ดีมาก 1 33.33
ดี 2 66.67
พอใช้ - -
จากตารางที่ 2 ผลแสดงการวิเคราะห์ระดับคุณภาพในกิจกรรมผัง Sorting แรงลัพธ์ของนักเรียนรายกลุ่มนั้น พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 กลุ่ม สามารถทำกิจกรรมผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ มีระดับคุณภาพดีมาก ร้อยละ 33.33 คุณภาพดี ร้อยละ 66.67
3. การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกม
หลังการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรียน โดยการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกม เรื่องแรงลัพธ์ โดยแบบทดสอบผู้วิจัยสร้างขึ้นให้ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดในเรื่องแรงลัพธ์ นักเรียนจะต้องตอบคำถามผ่านการเล่นเกม ผลการทดสอบแสดงดังตารางที่ 3
ตารางที่ 3 แสดงผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกมเรื่องแรงลัพธ์
ผลการประเมินระดับคุณภาพ จำนวนนักเรียนที่ผ่าน (คน) คิดเป็นร้อยละ
ผ่าน 15 100
ไม่ผ่าน - -
จากตารางที่ 3 ผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการตอบคำถามผ่านเกมเรื่องแรงลัพธ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน สามารถเล่นเกมและตอบคำถามผ่าน คิดเป็นร้อยละ 100
4. การวิเคราะห์หาความเหมาะสมของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์จากบันทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้
หลังการจัดกระบวนการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ทำการบันทึกหลังการสอน โดยผลจากการสอนแสดงดังต่อไปนี้
ผลการสอน
นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับแรงลัพธ์ สามารถอธิบายความหมาย และหาแรงลัพธ์ได้ ตลอดจนสามารถเขียนแผนภาพแสดงแรงต่างๆได้
นักเรียนเกิดทักษะใดบ้าง ทำเครื่องหมาย  ในช่องว่างที่ตรงกับสิ่งที่ทำได้
 การสังเกต  การวัด  การใช้จำนวน  การจำแนกประเภท
 การหาความสัมพันธ์ระหว่าง สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา
 การจัดกระทำและการสื่อความหมายข้อมูล  การพยากรณ์
 การลงความเห็นจากข้อมูล  การตั้งสมมติฐาน  การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
 การกำหนดและควบคุมตัวแปร  การทดลอง  การตีความหมายและลงข้อสรุป
 การสร้างแบบจำลอง
นักเรียนเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบ้าง ทำเครื่องหมาย  ในช่องว่างที่ตรงกับทักษะที่เกิด
 การสร้างสรรค์  การคิดอย่างมีวิจารณญาณ  การแก้ปัญหา
 การสื่อสาร  ความร่วมมือ  การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปัญหาและอุปสรรค
นักเรียนชั้น ชั้น ป.5 จำนวน 4 คน (จิรวัฒน์ ,วีรพงค์,อนุชา, ปริยากร) เป็นเด็กที่เรียนรู้ช้า มีสมาธิในการเรียนน้อย ทำให้ไม่สามารถเขียนแผนภาพแรงได้ถูก
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ซ่อมเสริมนักเรียนทั้ง 4 คน นอกเวลา (ไม่จำกัดเวลาเหมือนการจัดการเรียนการสอนปกติ)
การวิจัยครั้งนี้มีคำถามการวิจัยสองข้อคือ ข้อที่หนึ่ง การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ที่เหมาะสมกับเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นอย่างไร ผู้วิจัยพบว่าหลังการจัดการเรียนรู้พบว่าการใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ดังงานวิจัยนี้มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดี และควรปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้จากบันทึกหลังสอนต่อไป จึงจักมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
และคำถามการวิจัยข้อที่สองคือ การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้หรือไม่อย่างไร ผู้วิจัยพบว่าหลังการจัดการเรียนรู้และประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน การทำกิจกรรม Sorting แรงลัพธ์ และการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านการเล่นเกม นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับที่ดีมาก
บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
วัตถุประสงค์ของงานวิจัย
1. เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์
2. เพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
คำถามการวิจัย
1. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ที่เหมาะสมกับเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นอย่างไร
2. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้หรือไม่อย่างไร
ขอบเขตการวิจัย
1. กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน ปีการศึกษา 2564 ในโรงเรียนบ้านตาปรก
2. เนื้อหาวิชาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงพุทธศักราช 2560) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องแรงลัพธ์
3. ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใช้เวลารวม 2 สัปดาห์
4. ตัวแปรที่ศึกษา
4.1 ตัวจัดกระทำ คือการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting
4.2 ตัวแปรที่ศึกษา คือ
4.2.1 การจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting
4.2.2 ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting
ด้านความรู้ความเข้าใจ
สรุปผลการวิจัย
จากการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์ กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านตาปรก จำนวน 15 คน ผลการวิจัยซึ่งได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏว่า
1. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting มีความเหมาะสมกับ เรื่องแรงลัพธ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เนื่องจากนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามจุดประสงค์ มีความรู้ความเข้าใจสามารถนำไปใช้ได้
2. การใช้กระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ โดยหลังจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด/ใบงาน , ทำกิจกรรม Sorting ได้ระดับดีมาก และทดสอบผลสัมฤทธิ์ผ่านคำถามจากเกม ร้อยละ 100
ดังนั้นสรุปได้ว่า การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์เหมาะสมกับวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียนได้
อภิปรายผล
จากผลที่ผู้วิจัยได้จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและเกมการศึกษา เรื่องแรงลัพธ์พบประเด็นที่สามารถนำมาอภิปรายผลได้ดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ออกมาได้ผลลัพธ์ที่สูงถึงร้อยละ 100 นั้น ทั้งนี้เพราะว่าในกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting ผู้วิจัยจัดการเรียนรู้โดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ อีกทั้งการปลูกจิตวิทยาศาสตร์ยังทำให้นักเรียนเกิดความสนใจและชอบในวิชาวิทยาศาสตร์ จนเกิดเป็นความเข้าใจดังผลการประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน และผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ ซึ่งผู้วิจัยได้พัฒนางานวิจัยมากจากวิจัยของผู้วิจัยเองเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเชิงรุก และการใช้เกมการศึกษา
ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงลัพธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านตาปรก ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในด้านต่างๆดังนี้
1. ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้
1.1 ประสิทธิภาพของการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการใช้ผัง Sorting เรื่องแรงลัพธ์นี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแผนการจัดการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับผู้สอนด้วย ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องเข้าใจเนื้อหาและวิธีการใช้สื่อประกอบการสอนเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทำได้โดย ครูผู้สอนจะต้องศึกษาคู่มือครูให้เข้าใจ และสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้
1.2 การจัดการเรียนรู้ในขั้นการสร้างความสนใจนั้น ควรเป็นเรื่องที่หาสิ่งเร้าความสนใจได้ง่าย ควรใช้เป็นสื่อที่ตื่นตาตื่นใจ
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป
ควรศึกษากระบวนการและเทคนิคการสอนในรูปแบบต่างๆ หรือนำนวัตกรรมที่เหมาะสมมาใช้เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ต่อไป