ชื่อเรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนอนุบาลเชียงราย
ผู้วิจัย นายพิษณุ คามวาสี
คำสำคัญ รูปแบบ, การบริหารจัดการ, การจัดการเรียนรู้เชิงรุก, พัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2566-2567
บทคัดย่อ
การวิจัย ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบ สภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 3) ใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบ สภาพปัจจุบัน และสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยการวิเคราะห์เอกสาร และการสอบถามผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนอนุบาลเชียงราย จำนวน 191 คน ระยะที่ 2 สร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการประกอบด้วยรองผู้อำนวยการโรงเรียน 4 คน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ 4 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 คน ตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 5 คน และผู้วิจัย รวมทั้งสิ้น 22 คน และตรวจสอบร่างรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) จากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 ท่าน ระยะที่ 3 จัดทำคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และนำไปใช้จริง และประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนอนุบาลเชียงราย ระยะที่ 4 ประเมินรับรองรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยการสอบถามผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่าน
ผลการวิจัย พบว่า
1. การบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งองค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ (μ =3.34) และผลการศึกษาสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการ พบว่า สภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกองค์ประกอบ ซึ่งองค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การจัดการเรียนรู้ (μ = 4.86) และเมื่อพิจารณาตามค่าความต้องการจำเป็น พบว่า องค์ประกอบที่มีความต้องการจำเป็นมากที่สุด คือ การจัดการเรียนรู้ (PNI_modified = 0.59)
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่าประกอบด้วยองค์ประกอบและตัวชี้วัด ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 ด้านการปฏิบัติงานตามภาระงานที่ ก.ค.ศ. กำหนด องค์ประกอบที่ 2 การจัดการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 3 การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 4 ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ และองค์ประกอบที่ 5 การจัดทำประเด็นท้าทายเพื่อพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ โดยในแต่ละองค์ประกอบและตัวชี้วัดได้มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของคณะผู้บริหารและคณะครูในการดำเนินงานไว้อย่างชัดเจน
ความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 ท่าน พบว่า มีค่าความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅bar = 4.66) โดยองค์ประกอบ/ตัวบ่งชี้ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือองค์ประกอบที่ 2 การจัดการเรียนรู้ (x ̅bar = 4.69)
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่า คณะผู้บริหารได้ทำหน้าที่ในการส่งเสริม และคณะครูได้ดำเนินการตามรูปแบบครบถ้วนในทุกองค์ประกอบและตัวชี้วัด ส่งผลให้ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ สามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ผู้เรียนสำเร็จการศึกษาได้ร้อยละ 100
ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่า ระดับความเหมาะสมของคู่มือ โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( x ̅ bar= 4.60) โดยการจัดรูปแบบข้อความเนื้อหาในเล่มของคู่มือถูกต้องตามหลักวิชาการมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x ̅bar = 5.00) และระดับความพึงพอใจของของครูต่อรูปแบบการบริหารจัดการ โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( μ = 4.65) โดยรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก นี้ช่วยให้ครูและบุคลากรสามารถปฏิบัติงานได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( μ = 4.94)
4. ผลการประเมินรับรองรูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยผู้ทรงคุณวุฒิพบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน มีความเห็นว่า รูปแบบการบริหารจัดการที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x ̅bar= 4.78)