วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและเกิดทักษะในการเขียนสะกดคำที่ถูกต้องตามหลักการใช้ภาษาไทยมากขึ้น
2. เพื่อให้ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่านการเขียน
3. เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญ เล็งเห็นถึงประโยชน์และมีเจตคติที่ดีต่อการอ่านและเขียน สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและสอดแทรกนิสัยรักการอ่านในกิจกรรมอื่นๆ
วิธีการดำเนินการ
1. ศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับความรู้ขั้นพื้นฐาน โดยการใช้แบบทดสอบก่อนเรียน
2. นักเรียนอ่านและฝึกเขียนคำในแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำ
3. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
4. สรุปผลการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่
1) แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน
2) แบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
สรุปผลการวิจัย
จากการวิจัยเรื่อง การแก้ปัญหาการเขียนสะกดคำไม่คล่องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านตาปรก จำนวน 2 คน พบว่าการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ในการเขียนสะกดคำภายหลังการทดลองสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ในการเขียนสะกดคำก่อนทดลอง ร้อยละ 100 ซึ่งเพิ่มขึ้นการทดสอบก่อนเรียน ร้อยละ 15 ซึ่งนักเรียนกลุ่มตัวอย่างแต่ละคนมีคะแนนหลังเรียนสูงขึ้น ดังนี้
1. เด็กชายวิวิศน์ ผการัตน์ ผลคะแนนหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 100 ระดับคุณภาพ ดีมาก
2. เด็กหญิงธนิดา แถบหอม ผลคะแนนหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 100 ระดับคุณภาพ ดีมาก
ซึ่งผลการวิจัยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ ทำให้นักเรียนมีความสามารถในการเขียนสะกดคำสูงขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย
7.1 นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะด้านการเขียนสะกดคำได้ดี
7.2 นักเรียนสามารถเขียนคำได้ถูกต้องและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป