ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Cente

ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center

ผู้เสนอผลงาน นางสาววิรัญดา มงคลทรัพย์

ตำแหน่ง ครู

สถานศึกษา โรงเรียนวัดจำปา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1

ผลงานประเภท

ครูผู้ใช้สื่อเทคโนโลยีระบบ OBEC Content Center

๑. ความเป็นมาและความสำคัญ

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาให้นักเรียนทุกคนเป็นมนุษย์ที่มีความ สมดุลทั้งทางด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตส านึกในความเป็นพลเมืองไทย และเป็นพลโลก มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งมีเจตคติที่จ าเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นสำคัญ บนพื้นฐานความเชื่อว่าทุกคนสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551, น. 4)

ในการจัดการเรียนการสอนต้องเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล มีการจัดการเรียนรู้ที่ต้องสอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง เน้นคุณธรรมและจริยธรรม มีความเป็นปัจเจกบุคคล ซึ่งการเป็นปัจเจกบุคคล ย่อมอาศัยการพัฒนาในทุกด้านไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ คุณธรรม รวมไปถึงความมีสุนทรียภาพ ดังนั้นหลักสูตรแกนกลางจึงก าหนดให้นักเรียนเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เป็นกลุ่มสาระที่สามารถช่วยพัฒนาให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะนั้นจะช่วยพัฒนานักเรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ สังคม ตลอดจนสามารถนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง อันเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อ หรือประกอบอาชีพได้(กระทรวงศึกษาธิการ, 2551, น.182) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ แบ่งออกเป็น 3 สาระ ได้แก่ สาระทัศนศิลป์ สาระนี้มุ่งเน้นให้นักเรียนมีความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบศิลป์ สามารถท างานทางทัศนศิลป์เห็นคุณค่าในงานศิลปะที่เป็นมรดกวัฒนธรรมของไทย สาระดนตรีมุ่งเน้นให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในองค์ประกอบดนตรี สามารถแสดงออกทางดนตรีได้อย่างสร้างสรรค์ และสาระนาฏศิลป์ มุ่งเน้นให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ และแสดงออกทางนาฏศิลป์ ได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้ง 3 สาระในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ล้วนแล้วแต่เป็นศาสตร์ที่จะท าให้นักเรียนสามารถแสดงออกทางด้านศิลปะได้อย่างสร้างสรรค์ เน้นให้นักเรียนเข้าใจ องค์ประกอบของแต่ละศาสตร์ สามารถแสดงออกได้อย่างถูกต้องและพัฒนางานศิลป์

ดนตรีไทย เป็นศิลปะประจำชาติแขนงหนึ่งของคนไทย มีบทบาทต่อชีวิตของคนไทยเป็น อย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่สามารถตอบสนองความต้องการในการประเทืองอารมณ์ และ กระตุ้นความรู้สึกนึกคิด ถ้าขาดเสียงเพลงและเสียงดนตรีแล้ว จะทำให้มนุษย์อยู่อย่างแห้งแล้ง ไร้อารมณ์ความรู้สึก ไม่มีเครื่องประเทืองจิตใจ ไม่ละเอียดอ่อน และไม่เกิดความสุขสนุกสนาน ดังนั้นดนตรีไทยจึงมีความประณีต ละเอียดอ่อน สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามในจิตใจของมนุษย์ ดนตรีไทยจึงถือได้ว่าเป็นมรดกอันทรงคุณค่าประจ าชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองทาง อารยธรรมที่มีการสืบทอดต่อกันมา ทั้งด้านสังคมและภูมิปัญญาของไทย

ในปัจจุบันการเรียนการสอนดนตรีไทยในสถานศึกษา จัดให้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบัติ ครูผู้สอนจะน าตัวชี้วัดที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ก าหนดไว้ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เน้นให้นักเรียนได้น าความรู้ภาคทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ใน ภาคปฏิบัติ ไม่ว่าจะความรู้เกี่ยวกับเครื่องดนตรี การดูแลรักษาเครื่องดนตรี วงดนตรี การอ่านโน้ต ดนตรี ฯลฯ ซึ่งวิธีการเรียนรู้การทักษะหรือการปฏิบัติเครื่องดนตรีต่าง ๆ จะมีหลักการเรียนรู้ คล้าย ๆ กัน วิธีแรกคือการที่นักเรียนจะเรียนจากการเลียนแบบ ครูเป็นแบบอย่างให้กับนักเรียน แล้วให้นักเรียนปฏิบัติตาม ต่อมาคือการซึ่งเป็นวิธีการในการฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ให้เกิดความ ชำนาญ และเมื่อเกิดความช านาญในทักษะดังกล่าวแล้ว จึงมีการต่อยอดพัฒนาและสร้างสรรค์ให้ เกิดเป็นบทเพลงหรือองค์ความรู้ใหม่ ๆ ขึ้น ซึ่งวิธีการที่ได้กล่าวมาทั้งหมด มีความสอดคล้องกับ ทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสุนทรียภาพ ของรองศาสตราจารย์ดร.สุกรี เจริญสุข ที่แบ่งการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสุนทรียภาพออกเป็น 3 หลัก คือ 1. หลักความเหมือน ได้แก่ การเลียนแบบ และการ 2. หลักความแตกต่าง ได้แก่ การแหกคอก และทางเทวดา 3. หลักความเป็นฉัน ดังนั้น ในการเรียนรู้ทักษะทางดนตรี ควรมีการเรียนรู้ตามหลักการนี้ โดยเรียงตั้งแต่หลักความเหมือน หลักความแตกต่าง และหลักความเป็นฉัน ตามล าดับ ดังนั้นถ้าการเรียนการสอนปฏิบัติดนตรี หรือ ทักษะอื่น ๆ ได้นำทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสุนทรียภาพมาประยุกต์ใช้ ย่อมท าให้การเรียนรู้ใน ทักษะนั้น ๆ มีการเรียนรู้แบบเป็นล าดับขั้นตอน นักเรียนสามารถค่อย ๆ เรียนรู้ไปตั้งแต่หลักความ เหมือน คือการเลียนแบบให้เหมือนแม่แบบ หรือปฏิบัติบ่อย ๆ ให้เกิดความช านาญ และ ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ จนสามารถคิดต่างหรือคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ได้ ก็จะตรงกับหลักความแตกต่าง และสุดท้ายปฏิบัติจนสามารถแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาได้ ก็จะเกิดเป็นการเรียนรู้ใน หลักความ เป็น ฉัน ทฤษฎี การเรียนรู้เพื่อ พัฒนาสุนทรียภาพ ของรองศาสต ราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข จึงเป็นทฤษฎีที่ท าให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ทักษะดนตรีและเกิดความเข้าใจเป็น อย่างดี

จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว การสอนร่วมกับนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center รูปแบบสื่อภาพ และใบงาน เป็นการจัดการเรียนรู้วิธีหนึ่งที่จะช่วย พัฒนาทักษะทางการเรียน เรื่องประเภทเครื่องดนตรีไทย ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นครูผู้สอนจึงมีความสนใจที่จะใช้นวัตกรรมดังกล่าวมาพัฒนานักเรียนต่อไป

2. วัตถุประสงค์

1. เพื่อพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center

2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาศิลปะ(ดนตรี) เรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนและหลังใช้สื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center

3. เป้าหมาย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 28 คน ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนวัดจำปา อำเภออุทัย

4. ขั้นตอนการดำเนินงาน

1. ครูผู้สอนศึกษา เรียนรู้ และเข้ารับการอบรมการใช้ระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) จากเว็บไซต์ระบบ OBEC Content Center

2. วางแผน เพื่อกำหนดเนื้อหาในเรื่องที่ต้องการฝึกฝนทักษะให้กับนักเรียน สำหรับเนื้อหาที่ต้องการให้นักเรียนเกิดทักษะ คือ การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center

3. ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และใช้สื่อผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center)

4. นักเรียนเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติตามแผนการสอนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center

5. สร้างและใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน หลังเสร็จสิ้นการเรียนรู้การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center บันทึกและสรุปผล การจัดการเรียนรู้พร้อมทั้งระบุปัญหา และอุปสรรค นำผลที่ได้ มาวิเคราะห์ และแก้ปัญหาที่พบระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนรู้

6. เผยแพร่ผลงานการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center บนเว็บไซต์

ผลการดำเนินงาน

• ผลที่เกิดขึ้นบรรลุตามกิจกรรม

ผลที่เกิดกับนักเรียน

1. นักเรียนเกิดการพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center คิดเป็นร้อยละ 90 ของนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

2. นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ให้เกิดประโยชน์กับการเรียนของตนเอง

3. นำผลการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการพัฒนายกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาศิลปะ(ดนตรี) ต่อไปในอนาคต

4. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรายวิชาศิลปะ(ดนตรี) มีความชอบและสนใจในการเรียนมากยิ่งขึ้นการเรียนแบบเดิม

• ประโยชน์ที่ได้รับ

1. นักเรียน ได้รับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล จนเกิดการพัฒนาทักษะทางการเรียน เรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center ได้ตลอดเวลา

2. ครูมีคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน

รายวิชาอื่นๆต่อไป ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ

3. นักเรียนได้รับความรู้ จากการทํากิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน โดยใช้นวัตกรรมการสอนผ่านระบบ OBEC Content Center

บทเรียนที่ได้รับ

1. นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้รวดเร็ว กระชับ ประหยัดเวลาและเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย น่าสนใจ น่าค้นหา

2. นักเรียนเกิดความสนใจ ตื่นเต้น สนุกสนาน กระตือรือร้น ในกิจกรรมการเรียนการสอนที่ใช้สื่อ การสอนจากระบบ OBEC Content Center

3.ครูเลือกใช้สื่อการสอนได้เหมาะสมและสอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนและตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับบทเรียน

4. ครูได้พัฒนาศักยภาพตนเองและเรียนรู้ในการสร้างสื่อ หรือ การนําสื่อการเรียนการสอนมาใช้จากแหล่งสืบค้นเพียงแห่งเดียว ทําให้ง่ายต่อการจัดกระบวนการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center โรงเรียนวัดจำปา อำเภออุทัย เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เวลา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ร่วมกับนวัตกรรมการสอนผ่านระบบ OBEC Content Cente เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งกลุ่มส่งเสริม และพัฒนาการจัดการศึกษา สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ได้ขับเคลื่อนโดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การใช้งานระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล (OBEC Content Center) และส่งเสริมพัฒนาให้มีการประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในทุกรูปแบบ ขอขอบพระคุณ นางสาวยุวดี พันธ์สุจริต ผู้อํานวยการโรงเรียนวัดจำปา และคณะครูทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริม นิเทศ กํากับ ติดตาม จนทําให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

การเผยแพร่

เผยแพร่ผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะทางการเรียนเรื่อง ประเภทเครื่องดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผ่านสื่อนวัตกรรมการสอนระบบ OBEC Content Center บนเว็บไซต์

โพสต์โดย ครูเอ็ม : [15 ก.ค. 2567 (19:54 น.)]
อ่าน [37] ไอพี : 49.237.22.91
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 26,585 ครั้ง
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก

เปิดอ่าน 17,306 ครั้ง
นักฟิสิกส์อินเดีย ชี้มีวิธีค้นหา ‘รูหนอน’
นักฟิสิกส์อินเดีย ชี้มีวิธีค้นหา ‘รูหนอน’

เปิดอ่าน 10,728 ครั้ง
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี
จัดการผมยุ่งเหยิงยามเช้าตรู่อย่างไรดี

เปิดอ่าน 11,224 ครั้ง
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ
เล่น... พัฒนาอัจฉริยภาพ

เปิดอ่าน 13,471 ครั้ง
นางสงกรานต์ ปี 2552
นางสงกรานต์ ปี 2552

เปิดอ่าน 48,703 ครั้ง
"อยู่ไกลเขา แต่รู้ทันเขา" ภาพยนตร์สั้น วันครู ครั้งที่ 65 ประจำปี 2564
"อยู่ไกลเขา แต่รู้ทันเขา" ภาพยนตร์สั้น วันครู ครั้งที่ 65 ประจำปี 2564

เปิดอ่าน 19,841 ครั้ง
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร
"ตังกุย" คืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร

เปิดอ่าน 5,429 ครั้ง
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เบื้องต้นที่จำเป็นต่อคนรุ่นใหม่ในการต่อยอดความรู้ด้านธุรกิจ

เปิดอ่าน 18,279 ครั้ง
เทคนิคเจ๋งๆที่โรงเรียนไม่เคยสอน
เทคนิคเจ๋งๆที่โรงเรียนไม่เคยสอน

เปิดอ่าน 7,418 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)

เปิดอ่าน 303,165 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ 30 ประโยคคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 20,652 ครั้ง
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน
เสริมดวงชะตาให้ดี ด้วยการเสริมฮวงจุ้ยประตูบ้าน

เปิดอ่าน 10,502 ครั้ง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน...ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 14,245 ครั้ง
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี

เปิดอ่าน 96,784 ครั้ง
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)

เปิดอ่าน 14,537 ครั้ง
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!
"5 บ่วงอันตราย" เตือนคนทำงานมือใหม่ อย่าตกหล่ม !!
เปิดอ่าน 17,341 ครั้ง
เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด
เตือนภัย ระวังไวรัสบน Facebook กำลังระบาด
เปิดอ่าน 22,271 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์
ปฏิรูปการศึกษาส่วนภูมิภาค 6 เดือน กศจ.ไปต่ออย่างไร? โดย อดิศร เนาวนนท์
เปิดอ่าน 8,814 ครั้ง
ใช้ร้านเน็ตให้ปลอดภัย
ใช้ร้านเน็ตให้ปลอดภัย
เปิดอ่าน 24,771 ครั้ง

'ฟ้าทะลายโจร' สุดยอดสมุนไพรแห่งปี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ