|
|
วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคน ทั้งในการดำรงชีวิตประจำวันและในงานอาชีพต่าง ๆ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนผลผลิตต่าง ๆ เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน ล้วนเป็นผลของความรู้วิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่น ๆ วิทยาศาสตร์ทำให้มนุษย์พัฒนาวิธีการคิด ทั้งที่เป็นความคิดเหตุผลคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีความสามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นเทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้การศึกษาพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย เป็นการตอบสนองและส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก
ในการเรียนรู้โลกธรรมชาติรอบตัวและพัฒนาการทางด้านสติปัญญา ผ่านการลงมือปฏิบัติ การสำรวจ
การสังเกต การตั้งคำถามและการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ค้นพบ ดำเนินการสืบเสาะหาความรู้อย่างง่ายได้ด้วยตนเองอย่างอิสระและตามแบบที่กำหนดให้ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และค้นพบตัวเองมากที่สุดเด็กเป็นนักค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้โดยธรรมชาติ การหยิบจับ สัมผัสและการสังเกต เป็นวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์ พฤติกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็กคล้ายกับเรียนเหตุผลทางคณิตศาสตร์ เช่น การจำแนก
การเปรียบเทียบ การหาความสัมพันธ์ของวัตถุ การเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยจึงพัฒนาควบคู่กัน แต่การเรียนวิทยาศาสตร์จะเน้นการเรียนทักษะวิทยาศาสตร์และธรรมชาติรอบตัว ได้แก่ เรื่องพืช สัตว์ เวลา ฤดูกาล น้ำและอากาศร่วมด้วย การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะทางวิทยาศาสตร์อย่างสม่ำเสมอและใช้กระบวนการคิดที่ถูกต้องจะช่วยให้เด็กเกิดทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ดี ซึ่งสามารถนำมาสอดแทรกได้อยู่ในทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมที่จัดควรเปิดโอกาสให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ได้สังเกต สำรวจ และลงมือทำ ใช้ประสาทสัมผัสรับรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากพื้นฐานแนวคิดทางทฤษฎีการเรียนรู้ที่เน้นให้เห็นว่าเด็กปฐมวัยที่เรียนรู้จากประสบการณ์และสภาพแวดล้อมโดยตรง ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้นดังทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจย์ (Piaget) ที่ส่งเสริมการเรียนรู้โดยการลงมือทำ ให้โอกาสเด็กเป็นผู้คิดริเริ่มและตัดสินใจ ในการทำสิ่งต่าง ๆ ของเด็กวัย ๔ ๗ ปี ในการเล่นหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันตามแนวทฤษฎีของอีริกสัน (Erickson)ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีของไวก๊อตสกี้ (Vygotsky) ในเรื่องปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ก่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาการทางภาษา หรือแม้แต่ จอห์น ดิวอี้ (John Dewey) ที่เน้นในเรื่องของการเรียนรู้โดยการลงมือทำและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง ทำอย่างไรเราถึงจะได้น้ำกะทิจากมะพร้าว เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนหน่วย ต้นไม้ที่รัก เด็กๆได้ลงมือปฏิบัติทุกขั้นตอนด้วยตนเอง โดยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ เริ่มตั้งแต่การเข้าไปศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ต้นมะพร้าวรอบๆบริเวณโรงเรียน จากนั้นจึงเกิดข้อสงสัยและการตั้งคำถามจากเด็ก ๆ ว่า จะเอากะทิออกมาจากมะพร้าวได้อย่างไร ทำให้เด็ก ๆ และครูผู้สอนเกิดการตั้งสมมุติฐานต่าง ๆ ขึ้นมา นำไปสู่หาวิธีการต่าง ๆ เพื่อตอบข้อสงสัย และนำไปสู่การหาคำตอบซึ่งเป็นการฝึกทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
ด้วยเหตุผล แนวคิด หลักการ ดังกล่าวมาข้างต้นนี้ ทำให้ผู้จัดทำสนใจที่จะนำโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง น้ำกะทิออกมาจากลูกมะพร้าวได้อย่างไร มาใช้เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งผลการจัดทำโครงงานนี้จะเป็นแนวทางของการพัฒนาการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัยและเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาปฐมวัยต่อไป
|
โพสต์โดย ต้นกล้า : [12 ก.ค. 2567 (10:04 น.)] อ่าน [1009] ไอพี : 223.206.219.117
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 73,309 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,200 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,031 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,328 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,241 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,429 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,745 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,745 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,140 ครั้ง
| เปิดอ่าน 118,228 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,053 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,572 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,714 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,915 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,014 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 20,342 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,893 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,815 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,716 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,919 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|