ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อพัฒนาระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบ อริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง

2. เพื่อศึกษาพัฒนาการการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง

สรุปผลการวิจัย

ผลการวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง สรุปได้ดังนี้

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณี ตัวอย่าง สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ซึ่งยอมรับสมมติฐานของการวิจัย โดยใช้กรณีตัวอย่างโดยภาพรวม อยู่ใน ระดับ มากที่สุด

การอภิปรายผล

รายงานการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง ผู้วิจัยได้นำผลมาอภิปราย ดังนี้

1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณี ตัวอย่าง คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งยอมรับสมมติฐานของการวิจัยข้อที่ 1 ทั้งนี้อาจเป็น เพราะว่า กระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง ได้พัฒนาขึ้น จากแนวคิด หลักการ ทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเป็นวิธีสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ พัฒนาทักษะการคิดที่หลากหลาย ตั้งแต่ทักษะการคิดระดับต่ำ ไปจนถึงทักษะการระดับสูง เช่น การ คิดแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ ซึ่งการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง เป็นการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีการวางแผนอย่างมี ขั้นตอนและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ผู้วิจัยได้จัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 บูรณาการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่างที่เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสังคม อีกทั้งการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนยังมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมกลุ่ม โดยร่วมกันทำงานและช่วยเหลือกันและกัน ในกลุ่ม ซึ่งนั้นเรียนทุกกลุ่มจะมีเป้าหมายเดียวกันโดยได้ร่วมกันเรียนรู้และฝึกปฏิบัติค้นหาสาเหตุของ ปัญหาที่ได้รับมอบหมาย ความสำเร็จของกลุ่มจะขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของแต่บุคคลในกลุ่ม อีกทั้งวิธีการสอนแบบนี้จะช่วยให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น ภูมิใจในตนเองตระหนักถึงความ รับผิดชอบ และช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดของ สาโรช บัวศรี (2526 : 6) ที่กล่าวไว้ว่า วิธีการสอนแบบอริยสัจ 4 เป็นวิธีการสอนที่ก่อให้เกิดความสะดวกในการ ปฏิบัติเป็นการประยุกต์ จากกิจหรือข้อปฏิบัติในขั้นต่างๆของอริยสัจ สอดคล้องกับแนวคิดของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2554: 2) ที่กล่าวว่า คุณค่าและ ประโยชน์ของการสอนแบบอริยสัจไว้ว่า อริยสัจเป็นการศึกษาเรียนรู้ที่มุ่งค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง อย่างเป็นระบบ

2. ผลการการศึกษาพัฒนาการการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง พบว่า คะแนนที่ได้จากการวัดการคิดวิเคราะห์สูงขึ้น และ คะแนนที่ได้จากการวัดการคิดวิเคราะห์รวมทุกด้านของนักเรียนมีการคิดวิเคราะห์อยู่ใน ระดับ ดีมาก ซึ่งการที่ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการลงมือ ปฏิบัติทำให้ผู้เรียนเกิดการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในการหาทางออกของปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง และนำไปสู่การเกิดการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล โดยนำเอา ลำดับขั้นทั้ง 4 ของอริยสัจในศาสนาพุทธมาใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาของตนเอง ซึ่งประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค โดยเทคนิควิธีการสอนนี้สามารถส่งเสริมพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ของผู้เรียน และเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า เสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองสอดคล้องกับ ทิศนา แขมมณี (2558: 364) ที่ได้กล่าวถึงข้อดีของการจัดการเรียนรู้แบบกรณีตัวอย่างไว้ ว่าเป็นวิธี สอนที่ช่วยให้นักเรียนได้เผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นในสถานการณ์จริง เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้นักเรียนมีส่วน ร่วมในการเรียนสูง ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนด้วยกันและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างกัน เป็นวิธีสอนที่ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกและพัฒนาการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณและเป็นวิธีสอนที่ให้ผลสำหรับกลุ่มนักเรียนที่มีความรู้และประสบการณ์หลากหลาย เนื่องจากการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง เป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถสร้างความรู้ ความเข้าใจด้วย ตนเองได้ ทำให้เกิดการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ที่เป็นลักษณะของทักษะการคิดขั้นสูง ที่ สามารถช่วยในการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและสามารถนำวีการเรียนรู้ไปบูรณาการกับวิชาอื่นๆได้ สอดคล้องกับแนวคิดของ สุวิทย์ มูลคำ (2550: 96) และทิศนา แขมมณี (2558: 364) ที่กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้กรณีตัวอย่าง จะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และเผชิญปัญหาจากสถานการณ์ที่ เกิดขึ้นจริงในสังคม ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกและพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี วิจารณญาณ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี ลำดับที่ 3 คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด โดยนักเรียนมีระดับความ คิดเห็นภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ซึ่งการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่นักเรียนเห็นว่ามีเนื้อหาที่เหมาะสม มีการแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ ชัดเจน มีการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่ด้วยลักษณะของเนื้อหาสาระการ เรียนรู้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมคำสอน ซึ่งมีเนื้อหาจำนวนมากจึงทำให้ผู้เรียน มีความสนใจที่จะเรียนรู้น้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับพรรณมา ดวงบุตร (2559: 53) ได้กล่าวว่า การจัด กระบวนการเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาที่ผ่านมา นักเรียนต้องเรียนเนื้อหาสาระมากมาย ซ้ำซ้อน โดยเฉพาะเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตการถ่ายทอด คุณธรรม เป็นเรื่องนามธรรม ยากต่อความเข้าใจสำหรับนักเรียน ไม่สามารถส่งเสริมให้นักเรียน เชื่อมโยงความรู้และสร้างความคิดรวบยอด นักเรียนขาดการคิดวิเคราะห์ ไม่สามารถสร้างความ ตระหนัก ให้เห็นความสำคัญและประโยชน์ต่อการเรียนได้ จึงเกิดความเบื่อหน่ายต่อการเรียนรู้

11. ข้อเสนอแนะ

การวิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ ต่อไปนี้ ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ จากการค้นพบในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอน แบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง ไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ดังนี้

1.จากการวิจัย พบว่า ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้ด้วยการ สอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้ และ สามารถพัฒนาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนได้ ซึ่งการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดย ใช้กรณีตัวอย่าง เป็นการจัดกิจกรรมที่ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมค่อนข้างมาก โดยต้องนำสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในสังคมมาให้นักเรียนได้วิเคราะห์ ดังนั้นจึงควรมีเวลาให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมแต่ละ ขั้นตอนอย่างเพียงพอ เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกการคิดวิเคราะห์อย่างเต็มที่และมีประสิทธิที่เหมาะสมดังนี้ 1) ขั้นทุกข์หรือขั้นกำหนดปัญหา คือ การระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไข ครูผู้สอนควรนำเสนอ กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงในสังคม โดยพยายามอธิบายให้นักเรียนเกิดความเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจและตระหนักว่ากรณีตัวอย่างที่ครูผู้สอนนำเสนอนั้น เป็นปัญหาที่ต้อง แก้ไขหรือหาทางออกร่วมกัน โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นหรือยกตัวอย่าง เหตุการณ์ สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องหรือตนเองเคยพบเจอมาอยากหลากหลาย 2) ขั้นสมุทัยหรือขั้นตั้งสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา เป็นขั้นตอนที่ ครูผู้สอนควรให้นักเรียนได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยการวิเคราะห์ สังเคราะห์หาสาเหตุของการ เกิดปัญหาจากกรณีตัวอย่างที่ครูผู้สอนนำเสนอ ซึ่งครูผู้สอนสามารถใช้คำถามกระตุ้นให้นักเรียนได้ แสดงความคิดเห็นร่วมกันได้ 3) ขั้นนิโรธหรือขั้นทดลองและเก็บข้อมูล คือ การกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการทดลอง เพื่อพิสูจน์สมมติฐานหรือวิธีการแก้ปัญหาและเก็บรวบรวมข้อมูล ครูผู้สอนควรให้นักเรียนกำหนด วัตถุประสงค์ของการแก้ปัญหาและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาร่วมกันโดยใช้หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้อง อาจใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มและให้แต่ละกลุ่มได้ระดมความคิดเห็น โดยมี การจดบันทึกข้อมูลของสมาชิกแต่ละกลุ่มที่ร่วมกันเสนอเพื่อให้ได้แนวทางที่หลากหลาย 4) ขั้นมรรคหรือขั้นวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลของการแก้ปัญหา คือ สรุปแนวทางการ แก้ปัญหาและผลการดำเนินการแก้ปัญหาที่เกิดขั้นหรือเป็นแนวทางปฏิบัติและให้ลงมือ กระทำหรือ ปฏิบัติอย่างเต็มที่ตามแนวทางนั้น หลังจากที่นักเรียนออกแบบวิธีการแก้ปัญหาร่วมกันแล้ว ครูผู้สอน ควรให้นักเรียน สรุปแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติร่วมกัน โดยให้แต่ละกลุ่มได้เสนอ แนวคิดของกลุ่มตนเองหรือเปิดโอกาสให้นักเรียนนำเสนอแนวคิดเพิ่มเติมได้

2.จากการวิจัย พบว่า ผลการการศึกษาพัฒนาการการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ด้วยการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง มีคะแนนที่ได้จากการวัดการคิด วิเคราะห์สูงขึ้น และคะแนนที่ได้จากการวัดการคิดวิเคราะห์รวมทุกด้านของนักเรียนมีการคิดวิเคราะห์ อยู่ใน ระดับ ดีมาก แสดงให้เห็นว่าการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่างสามารถส่งเสริม พัฒนาการการคิดวิเคราะห์ได้ ดังนั้น การจัดการเรียนรู้ควรมุ่งพัฒนากระบวนการทางความคิดของผู้เรียน โดยผู้สอนจะป้อนคำถาม สถานการณ์ เหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เหมาะสม ในลักษณะต่าง ๆ ที่ สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาความคิด ใช้ความคิดเชิงเหตุผล และวิเคราะห์ สังเคราะห์สิ่งต่างๆ ได้อย่างมีหลักการ 3. จากการวิจัย พบว่า ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ที่มีต่อการการสอนแบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง โดยภาพรวมนักเรียนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนควรส่งเสริมให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกทางความคิด การมีส่วนร่วมในการทำงาน จึงเป็นวิธีการที่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูผู้สอนจึงควรจัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วย

12. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรมีการวิจัยเกี่ยวกับตัวแปรอื่นๆที่มีความสัมพันธ์กับการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบ อริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การคิดแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น

2. ควรมีการศึกษาวิจัยเพื่อเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์โดยการจัดการเรียนรู้ด้วยการสอน แบบอริยสัจ 4 โดยใช้กรณีตัวอย่าง ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบอื่นๆ เช่น การจัดการเรียนรู้โดย ใช้ปัญหาเป็นฐาน การจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL การ จัดการเรียนรู้แบบค้นพบ (Discovery Method) และการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ (Inquiry Process) เป็นต้น

โพสต์โดย ภู : [11 ก.ค. 2567 (12:13 น.)]
อ่าน [57] ไอพี : 1.0.217.100
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 39,205 ครั้ง
การคิดเลขในใจ
การคิดเลขในใจ

เปิดอ่าน 9,443 ครั้ง
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน

เปิดอ่าน 23,400 ครั้ง
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ

เปิดอ่าน 292,226 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่

เปิดอ่าน 11,035 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว

เปิดอ่าน 15,805 ครั้ง
"เนยรักโลก" วลีเด็ดสุดฮิต ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้
"เนยรักโลก" วลีเด็ดสุดฮิต ที่ฮอตที่สุดในขณะนี้

เปิดอ่าน 7,957 ครั้ง
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน

เปิดอ่าน 19,912 ครั้ง
เรียนรู้จากนิราศ
เรียนรู้จากนิราศ

เปิดอ่าน 146,154 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู
บัญชีเงินเดือนข้าราชการครู

เปิดอ่าน 47,863 ครั้ง
สักวา
สักวา

เปิดอ่าน 17,531 ครั้ง
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ

เปิดอ่าน 20,163 ครั้ง
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?

เปิดอ่าน 18,985 ครั้ง
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย
กินหวานอย่างไรไม่อันตราย

เปิดอ่าน 62,512 ครั้ง
การบอกคุณภาพของน้ำ โดยใช้ปริมาณออกซิเจนเป็นเกณฑ์
การบอกคุณภาพของน้ำ โดยใช้ปริมาณออกซิเจนเป็นเกณฑ์

เปิดอ่าน 29,199 ครั้ง
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?
ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ?

เปิดอ่าน 5,730 ครั้ง
รู้จัก The Big Five Domains เพื่อรู้จักวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น
รู้จัก The Big Five Domains เพื่อรู้จักวัยเรียนให้ดียิ่งขึ้น
เปิดอ่าน 9,996 ครั้ง
มื้อเล็ก ๆ ช่วยลดน้ำหนัก
มื้อเล็ก ๆ ช่วยลดน้ำหนัก
เปิดอ่าน 20,909 ครั้ง
เจ๋งอ่ะ! 20 วิธีลดน้ำหนัก ผลาญ 500 แคลอรี่ต่อวัน
เจ๋งอ่ะ! 20 วิธีลดน้ำหนัก ผลาญ 500 แคลอรี่ต่อวัน
เปิดอ่าน 9,658 ครั้ง
อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง
เปิดอ่าน 12,076 ครั้ง
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ