ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning
ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center
ผู้เสนอผลงาน นางสาวณิชา อิกำเหนิด
ตำแหน่ง ครู
หน่วยงาน โรงเรียนวัดจำปา อำเภออุทัย
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1
ประเภทผลงาน ผู้ใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล
ความเป็นมาและความสำคัญ
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหา และสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ทำให้สามารถคาดการณ์ วางแผนตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการศึกษา วิทยาศาตร์และเทคโนโลยีตลอดจนศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังช่วยพัฒนามนุษย์ ให้สมบูรณ์ มีความสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และอารมณ์ สามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข(สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2556: 1)
คณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษาเป็นเหมือนส่วนพื้นฐานของการเรียนคณิตศาสตร์ จึงคาดหวังเป็น อย่างยิ่งว่าการจัดหลักสูตรให้นักเรียนได้เรียนรู้แนวคิดหลักการคณิตศาสตร์ที่จำเป็น ให้นักเรียนได้เข้าใจ อย่างลึกซึ้งมากกว่าการท่องจำพัฒนาความรู้สึกทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญต่างๆ เช่น ความรู้สึกเชิงจำนวน การนึกภาพ นักเรียนได้มีโอกาสที่จะคิด ได้พัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่ปรับเปลี่ยน สอดคล้องกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นพื้นฐานความเข้าใจในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น (เหมือนฝัน เยาวิวัฒน์, 2556 : 18)
ในยุคดิจิทัล สื่อเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้ครูจัดการเรียนการสอน รวมไปถึงเป็นการพัฒนาผู้เรียนให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเด็กๆ มีความรู้ ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น อีกทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับการเรียนรู้ของนักเรียนค่อนข้างหลากหลาย และเพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดสมรรถนะต่างๆ การนำเทคโนโลยีมาบูรณาการร่วมกับการจัดการเรียนการสอนจึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเปิดโอกาสให้ผู้เรียน ได้ใช้ความสามารถของตนเองในการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังกระตุ้นความสนใจในการเรียนได้มากขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีในการสร้างสื่อให้มีความหลากหลาย และยังเป็นการเตรียมความพร้อมของนักเรียนเพื่อเข้าสู่สังคมยุคใหม่ ดังนั้น เทคโนโลยีจึงเป็นทางเลือกในการเรียน เพื่อตอบสนองการเรียนรู้ที่แตกต่างของนักเรียนได้
จากการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในรายวิชาคณิตศาสตร์ พบว่า นักเรียนแสดงวิธีทําหาผลลัพธ์ผิดเป็นจํานวนมาก มีการบวกเลขผิดหลัก คํานวณเลขช้า ไม่สามารถอธิบายวิธีการคํานวณได้ ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนไม่ฝึกคิดเอง ขาดการฝึกฝนอยางต่อเนื่อง จนทําให้นักเรียนคิดว่าเนื้อหาที่เรียนยากจนเกิดการเบื่อหน่ายในวิชาคณิตศาสตร์ จึงส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์แย่ลง เป็นผลกระทบโดยตรงต่อการเรียนในระดับที่สูงขึ้น และเป็นอุปสรรค์ต่อการพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์
เพื่อแก้ปัญหาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในฐานะที่เป็นผู้สอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในกระบวนการจัดการเรียนการสอน โดยใช้เว็บไซต์ OBEC Content Center โดยออกแบบวิธีการสอนที่เหมาะสมเข้าไปในกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเรียน ซึ่งวิธีสอนตามแนวการสอนที่นํามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ เป็นวิธีการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถใช้ทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ต้องอาศัยทักษะและวิธีการที่ซับซ้อนในการส่งเสริม ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ควรเริ่มต้นตั้งแต่ระดับอนุบาลและระดับประถมศึกษาเพราะเด็กวัยนี้มีความ อยากรู้ อยากลองแสวงหาคำตอบ ชอบความท้าทาย การผจญภัย การทดลอง การเรียนด้วยการลงมือ ปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับหลักการของจอห์น ดิวอี้ (John Dewey) เรื่องการเรียนรู้จากการลงมือทำ (Learning by doing) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของบรูเนอร์ (Bruner) เกี่ยวกับการเรียนรู้ว่า ผู้เรียน ทุกระดับชั้นมีพัฒนาการสามารถเรียนรู้เนื้อหาใดก็ได้ถ้ามีแรงจูงใจและมีการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนให้ตรงกับความสามารถและจัดเนื้อหาให้เรียงลำดับตามความยากง่ายของเนื้อหาก็จะทำให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ได้ตาม
ที่ต้องการ และถ้าหากเราได้จัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจนเกิด การเรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ จนกลายเป็นความชำนาญเป็นทักษะที่แต่ละบุคคลจะมีติดตัวผู้เรียนไป ตลอดชีวิตซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Montessori ที่ว่าเด็กทุกคนมีจิตซึมซับ คือถ้าเด็กได้ลงมือทำ อะไรหรือมีประสบการณ์หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างไรเขาก็จะซึมซับสิ่งนั้นติดตัวไปและจะเป็นการ เตรียมการที่ดีถ้าหากเราได้ฝึกให้นักเรียนได้ฝึกกระบวน
การทางคณิตศาสตร์ให้ติดเป็นนิสัยทำจนเกิด ความชำนาญเป็นทักษะและเมื่อมีมโนทัศน์ (concept) ที่ถูกต้องชัดเจนร่วมกับทักษะและ กระบวนการที่ถูกต้องก็จะส่งผลให้นักเรียนนั้นมีจิตคณิตศาสตร์ที่แข็งแกร่งต่อไป
จากการศึกษาหลักการและเหตุผลดังกล่าว จึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะด้านการคำนวณ เรื่องการหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยดำเนินการจัดการเรียนรู้ Active learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถทักษะการคิดให้มากขึ้น เกิดความรู้ความเข้าใจ รวมทั้ง เกิดความชํานาญในทักษะการคิดคํานวณมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000
2. เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน
3. เพื่อสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1. เป้าหมาย
1.1 กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 26 คน
1.2 เชิงปริมาณ
1) นักเรียนร้อยละ 80 สามารถพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ได้ อยู่ในระดับดี
2) นักเรียนร้อยละ 80 มีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน อยู่ในระดับดี
3) นักเรียนร้อยละ 80 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
1.3 เชิงคุณภาพ
1) นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ เรื่องการหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000ได้
2) นักเรียน มีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการ
3) นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
2 กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้าพเจ้าการพัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center โดยมีขั้นตอนและกระบวนการที่สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
กิจกรรมการเรียนรู้ แผนที่ 2 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning
1. ขั้นกระตุ้นความสนใจ
-นักเรียนเล่นเกมการชูนิ้ว โดยแต่ละนิ้วจะกำหนดท่า ตั้งแต่ 1-10 นิ้ว เพื่อเป็นการทบทวนเตรียมพร้อมสำหรับการบวก
2. ขั้นสำรวจและค้นหา
-นักเรียนชมวิดิโอการสอน ของนางสาวอัสม๊ะ สอแอหลี เรื่อง การบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 (ไม่มีการทด) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จาก สื่อการสอนในระบบ OBEC Content Center
-ครูกำหนดสถานการณ์การบวก ให้นักเรียนหาผลบวกและสุ่มนักเรียนออกมาแสดงวิธีหาผลบวกบนกระดาน โดยใช้การตั้งบวก และครูคอยตั้งคำถามว่าการบวกควรทำอย่างไร และแนะนำว่าการหาผลบวกโดยการตั้งบวก ทำได้โดยเขียนเลขโดดในหลักเดียวกันให้ตรงกัน และนำจำนวนในหลักเดียวกันมาบวกกัน โดยเริ่มบวกจากหลักหน่วยหรือทางด้านขวามือ จากนั้นบวกต่อเป็น หลักสิบ หลักร้อย และหลักพันตามลำดับไปทางซ้ายมือ
3. ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป
-ครููให้นักเรียนหาผลบวกโดยการตั้งบวกไม่มีการทดของจำนวนนับไม่เกิน 100,000 หนังสือเรียน เรื่อง การหาผลบวกโดยการตั้งบวกไม่มีการทด ที่มีผลบวกไม่เกิน 100,00 ของนางสาวจันทร์จิรา หมันเร๊ะ จาก สื่อการสอนในระบบ OBEC Content Center ลงในสมุด จำนวน 4 ข้อ
-ครูให้ตัวแทนออกมาทำบนกระดาน และร่วมอภิปรายและช่วยกันตรวจสอบคำตอบโจทย์ปัญหาทั้ง 4 ข้อ
-ครููให้นักเรียนหาผลบวกโดยการตั้งบวกไม่มีการทดของจำนวนนับไม่เกิน 100,000 มัลติมีเดีย สวนสนุกคณิตศาสตร์ การบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ชั้น ป.3 ของครูศิริลักษณ์ เมืองแก้ว จาก สื่อการสอนในระบบ OBEC Content Center
4. ขั้นสร้างผลงานของความเข้าใจ
-นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การบวกโดยการตั้งบวกไม่มีการทดของจำนวนนับไม่เกิน 100,00 โดยให้นักเรียนทำกิจกรรมรายบุคคล เพื่อให้นักเรียนได้นำความรู้ในเนื้อหาที่เรียนมา แก้ปัญหาหรือสถานการณ์เป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักการคิดและแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้คอยชี้แนะแนวทาง และคอยกระตุ้นความคิดให้กับนักเรียน
5. ขั้นสะท้อนผลงาน
-จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรม พร้อมทั้งโชว์ผลงานและนำไปติดในห้องเรียน
-ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหาผลบวกของจำนวนสองจำนวนโดยการตั้งบวก ต้องเขียนเลขโดดในหลักเดียวกันให้ตรงกัน แล้วจึงนำจำนวนที่อยู่ในหลักเดียวกันมาบวกกัน โดยเริ่มจากหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน และหลักหมื่นตามลำดับ
4. ผลการดำเนินงาน
ข้าพเจ้าได้พัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนการสอน Active Learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center ให้กับนักเรียนพบว่า สามารถพัฒนาทักษะการคิดคำนวณของนักเรียนได้ปรากฎตามวัตถุประสงต่อไปนี้
4.1 เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 พบว่า นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ได้อยู่ในระดับ ดีขึ้นไป จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 96.15 ซึ่งบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
4.2 เพื่อให้นักเรียนมีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน พบว่า นักเรียนมีความใฝ่รู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน อยู่ในระดับ ดีขึ้นไป จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 88.46 ซึ่งบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
การพัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center สามารถทำให้นักเรียนบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ ดังนี้
1) ด้านผู้เรียน ผลจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียน
ใฝ่เรียนรู้มากยิ่งขึ้น เกิดความมุ่งมั่นในการทำงานให้สำเร็จ และนำผลงานของตนเองไปแสดงให้เพื่อนในชั้นเรียนยอมรับ ส่งผลให้นักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง
2) ด้านครู ทำให้ครูเกิดทักษะในการจัดการเรียนการสอน และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เพื่อนครูนำวิธีการและแนวทางปฏิบัติกิจกรรมไปประยุกต์ใช้ในห้องเรียนของตนเองได้ ผ่านการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
) ด้านสถานศึกษา โรงเรียนได้มีคลังสื่อที่มีประสิทธิภาพ สำหรับให้ครูได้ใช้เป็นสื่อการสอนในรายวิชาอื่นๆ รวมทั้งสามารถสร้างห้องเรียนออนไลน์ ผลิตสื่อออนไลน์ที่มีคุณภาพและน่าสนใจ ได้รับการยอมรับจากผู้ปกครองและชุมชน ทำให้ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเป็นอย่างดี
4) ด้านชุมชน ผู้ปกครองเกิดความไว้วางใจในการจัดการเรียนการสอน มีเจตคติที่ดีต่อครูผู้สอนและโรงเรียน ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่งผลให้เกิดเยาวชนที่มีคุณภาพ มีความคิดกล้าแสดงออก สามารถเผยแพร่ความรู้ให้กับสังคม พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนา ชุมชน และประเทศชาติต่อไป
5. บทเรียนที่ได้รับ
การจัดกิจกรรมการพัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center ทำให้เกิดประสบการณ์ในการจัดการเรียนสอนที่ดี ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง กล้าคิดกล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำผลงานมากขึ้น
ข้อสังเกต ครูต้องจัดหาวิธีสอน กระตุ้นความสนใจ ให้ผู้เรียนสนใจ เห็นความสำคัญในการเรียน นั่นคือ ครูต้องปรับวิธีเรียน และเปลี่ยนวิธีสอน เพื่อให้นักเรียนเข้าถึงการพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพของนักเรียน
ข้อควรระวัง ในการจัดกิจกรรมนี้ ควรอธิบายการทำงานให้แก่นักเรียนได้เข้าใจตรงกัน เพื่อไม้ให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน
ข้อเสนอแนะ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ควรจัดให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับระยะเวลา ควรเผื่อเวลาในการซักถามของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนซักถามนักเรียน นักเรียนซักถามครู และครูซักถามนักเรียน เพื่อให้การดำเนินการสอนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งได้ไว้
แนวทางในการพัฒนา การพัฒนาทักษะการคำนวณสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้อื่นๆ ในรายวิชาคณิตศาสตร์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถศึกษาร่วมกับการพัฒนาวิธีการสอบแบบอื่นๆ ได้ เช่น การพัฒนาทักษะการคำนวณการบวก ลบ คูณ หาร ร่วมกับการเรียนรู้โดยใช้เกมเป็นฐาน เป็นต้น
6. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในครั้งสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยได้รับความอนุเคราะห์และสนับสนุนจากท่านยุวดี พันธ์สุจรติ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดจำปา คณะครูโรงเรียนวัดจำปาทุกท่าน และนักเรียนโรงเรียนวัดจำปา นอกจากนี้การพัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center เป็นวิธีที่ช่วยให้การจัดการเรียนการสอนประสบความสำเร็จ
7. การเผยแพร่
เผยแพร่ผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practice) ชื่อผลงาน พัฒนาทักษะการคิดคำนวณวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกจำนวนนับไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Active Learning ผ่านระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล OBEC Content Center บนเว็บไซต์......