ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับหลักการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้วิจัย ศิริมาศ จันทรมาศ

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/6 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2565โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราชจำนวน 1 ห้องเรียน รวมนักเรียน40 คนที่ได้โดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่มสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่นักเรียนต้องการ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

2. การพัฒนารูปแบบการสอนที่ผู้วิจัยสังเคราะห์ขึ้นใช้ชื่อเรียกว่า “SNJAC Model” มีองค์ประกอบของรูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ 5 ขั้นตอนได้แก่ 1) ขั้นจุดประกายความคิดสะกิดความรู้เดิม (S : Spark ideas) 2) ขั้นเพิ่มเติมความรู้ใหม่(N : New knowledge)

3) ขั้นใส่ใจร่วมปฏิบัติ(J : Join in action) 4) ขั้นพัฒนานำไปใช้ (A : Application) และ 5) ขั้นได้ผลสรุป(C : Conclusion)ผลจากการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คนด้านคณิตศาสตร์ ผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต้องการให้พัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ผลการพัฒนารูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ69.57/70.00 ค่าประสิทธิภาพ E1 / E2แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ78.07/79.26และค่าประสิทธิภาพ E1 / E2จากการทดลองภาคสนาม มีค่าเท่ากับ 81.84/82.78ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้

แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/6 กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 40คนได้ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 85.54/86.67และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการทดสอบความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้แบบทดสอบ

วัดความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบและใช้เกณฑ์ประเมินความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ผลปรากฏว่านักเรียน มีความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบในภาพรวม ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.38อยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก

5. ผลการประเมินรูปแบบการสอนโจทย์ปัญหาการบวกและการลบโดยใช้หลักการเรียนรู้

แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนโดยใช้หลักการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อพัฒนาความสามารถในการ

แก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ญาสุมินท์ สิริทัตนนท์ : [8 ก.ค. 2567 (22:32 น.)]
อ่าน [76] ไอพี : 171.97.142.106
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,299 ครั้ง
เราจะรู้อายุของโลกและสิ่งมีชีวิตต่างๆได้อย่างไร
เราจะรู้อายุของโลกและสิ่งมีชีวิตต่างๆได้อย่างไร

เปิดอ่าน 17,614 ครั้ง
5 วิธีทำให้รวยเร็ว
5 วิธีทำให้รวยเร็ว

เปิดอ่าน 169,883 ครั้ง
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน
15 ต้นไม้ริมรั้ว ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน

เปิดอ่าน 22,940 ครั้ง
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!

เปิดอ่าน 4,155 ครั้ง
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ
ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ

เปิดอ่าน 13,975 ครั้ง
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด

เปิดอ่าน 14,292 ครั้ง
จัดตารางทานอาหาร ช่วยควบคุมน้ำหนัก
จัดตารางทานอาหาร ช่วยควบคุมน้ำหนัก

เปิดอ่าน 14,131 ครั้ง
สมการและการแก้สมการ
สมการและการแก้สมการ

เปิดอ่าน 22,919 ครั้ง
ไอเดีย..โครงสร้างศธ.รูปแบบใหม่สลาย5แท่งหวนสู่ "กรม"!
ไอเดีย..โครงสร้างศธ.รูปแบบใหม่สลาย5แท่งหวนสู่ "กรม"!

เปิดอ่าน 113,598 ครั้ง
การทำเทียนหอมกันยุง
การทำเทียนหอมกันยุง

เปิดอ่าน 9,924 ครั้ง
วิลล่า เมดิคา พาอัพเดท ดูแลสุขภาพแนวใหม่
วิลล่า เมดิคา พาอัพเดท ดูแลสุขภาพแนวใหม่

เปิดอ่าน 58,602 ครั้ง
การวัดความชื้นในบรรยากาศ
การวัดความชื้นในบรรยากาศ

เปิดอ่าน 4,433 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร

เปิดอ่าน 11,145 ครั้ง
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น

เปิดอ่าน 19,625 ครั้ง
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 13,373 ครั้ง
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
เปิดอ่าน 17,810 ครั้ง
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
เปิดอ่าน 9,081 ครั้ง
เชื้อโควิดอยู่ในร่างกายได้กี่วัน หายป่วยแล้วยังแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่
เชื้อโควิดอยู่ในร่างกายได้กี่วัน หายป่วยแล้วยังแพร่เชื้อได้อีกหรือไม่
เปิดอ่าน 988 ครั้ง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง
ปีชง 2567 มีปีนักษัตรใดบ้าง
เปิดอ่าน 24,826 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ