ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์หลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

2.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับมากขึ้นไป

ผลการวิจัย

การศึกษาค้นคว้าแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปรากฏผลดังนี้

1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้นได้คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.40, S.D. = 0.80)

อภิปรายผล

1.ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้นได้คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งผลการศึกษาครั้งนี้สอดคล้องกับงานวิจัยของ ทักษิณ เวียงยา (2553 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หลังเรียนเพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ประเทือง บุญพรม (2553 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณและ การหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนโดยมีคะแนนก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 9.94 ค่าเฉลี่ยร้อยละเท่ากับ 49.70 และคะแนนหลังเรียนเฉลี่ยร้อยละเท่ากับ 14.94 ค่าเฉลี่ยร้อยละเท่ากับ 74.70 ซึ่งค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 25.00 กรวิกา กาติ๊บ (2554 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 เรื่อง การคูณ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละหลังเรียนเท่ากับ 83.21 สูงกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ คือ ร้อยละ 75 พุทธทรง พนมมิตร (2554 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 รวงทอง บางจั่น (2544 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 และศิริพร สีเทา (2554 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนหลังเรียนแบบฝึกทักษะการบวก เรื่องการบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ ต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ มีค่าเฉลี่ย 4.40 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.80 แสดงว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับ ทักษิณ เวียงยา (2553 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมาก กรวิกา กาติ๊บ (2554 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง การคูณ มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดทุกข้อ และโดยภาพรวมมี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด พุทธทรง พนมมิตร (2554 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สาหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีระดับความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด รวงทอง บางจั่น (2544 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านห้วยลึก ปีการศึกษา 2554 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( = 3.73, S.D. = 0.95) และศิริพร สีเทา (2554 : บทคัดย่อ) ที่พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2554 มีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะการบวก เรื่อง การบวกจำนวนสองจำนวนที่มีผลบวกไม่เกิน 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก (4.46)

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะเพื่อการศึกษาครั้งต่อไป

1 ควรมีการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะ ที่มีประสิทธิภาพในเนื้อหาวิชาอื่นๆ และชั้นอื่นๆ

2 ควรมีการเปรียบเทียบนำแบบฝึกทักษะที่พัฒนาขึ้นไปสอนเปรียบเทียบกับวิธีสอนอื่นๆ เช่น วิธีสอนแบบวิทยาศาสตร์ แบบร่วมมือ แบบอุปนัย ในเนื้อหาเดียวกันและชั้นเดียวกัน เพื่อจะได้เป็นการส่งเสริมและการหาแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย ขวัญ : [5 ก.ค. 2567 (15:13 น.)]
อ่าน [979] ไอพี : 1.0.217.100
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,909 ครั้ง
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
อาการของมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ

เปิดอ่าน 18,508 ครั้ง
อาหารบำรุงผม
อาหารบำรุงผม

เปิดอ่าน 15,897 ครั้ง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง
ไขมันพืช (น้ำมันปาล์ม) สาเหตุหนึ่งของอาการป่วยทางสมอง

เปิดอ่าน 21,931 ครั้ง
ผิวหน้าสวยด้วยแอปเปิ้ล
ผิวหน้าสวยด้วยแอปเปิ้ล

เปิดอ่าน 12,481 ครั้ง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง
ครีมหอยทาก คืออะไร ทำไมสาว ๆ ฮิตกันจัง

เปิดอ่าน 12,280 ครั้ง
7 วิธี ช่วยคุณจัดสรรเวลา
7 วิธี ช่วยคุณจัดสรรเวลา

เปิดอ่าน 9,889 ครั้ง
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย

เปิดอ่าน 26,228 ครั้ง
ความต่างของ วิวัฒนาการ vs พัฒนาการ ว่ามันต่างกันยังไง !!
ความต่างของ วิวัฒนาการ vs พัฒนาการ ว่ามันต่างกันยังไง !!

เปิดอ่าน 17,672 ครั้ง
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี

เปิดอ่าน 15,935 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ

เปิดอ่าน 15,722 ครั้ง
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม

เปิดอ่าน 15,038 ครั้ง
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ
21 ตุลาคม วันรักต้นไม้แห่งชาติ

เปิดอ่าน 16,557 ครั้ง
สุดยอดอาหารช่วยให้ผอมเร็วขึ้น แถมยังช่วยล้างพิษด้วย
สุดยอดอาหารช่วยให้ผอมเร็วขึ้น แถมยังช่วยล้างพิษด้วย

เปิดอ่าน 10,124 ครั้ง
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)
มองโลกแบบวิกรม ตอน เจาะลึก การศึกษาไต้หวัน (1)

เปิดอ่าน 14,926 ครั้ง
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??
ม.44 "มาสเตอร์คีย์ผ่าทางตัน"ปฏิรูปการศึกษา??

เปิดอ่าน 11,493 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 39,518 ครั้ง
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
3 วิธีแกะกล่องพัสดุให้ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19
เปิดอ่าน 20,419 ครั้ง
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว
รู้หรือยัง? วันนี้ (1 ก.ค.58) ประเทศไทยเปลี่ยนเวลาให้ช้าลง 1 วินาที อย่างเป็นทางการแล้ว
เปิดอ่าน 80,608 ครั้ง
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
เปิดอ่าน 15,323 ครั้ง
สรุปผลการวิจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเอกชนทางการศึกษาของนักเรียนไทย
สรุปผลการวิจัยเรื่องค่าใช้จ่ายเอกชนทางการศึกษาของนักเรียนไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ