ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ผลของการฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยที่มีต่อการพัฒนาความคล่องตัว ของนักกีฬากาบัดดี้

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1. เพื่อศึกษาผลของการฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยที่มีผลกับการพัฒนาความคล่องตัวของนักกีฬา กาบัดดี้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา

2 .เพื่อเปรียบเทียบผลของการฝึกความคล่องตัวระหว่างกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติกับการฝึก โดยใช้น้ำหนักช่วย

ขั้นตอนการวิจัย

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยที่มีต่อการพัฒนา ความคล่องตัวของนักกีฬากาบัดดี้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา และเพื่อเปรียบเทียบผลของการฝึกการ เคลื่อนไหวระหว่างกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติกับการฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วย ซึ่งผู้วิจัยได้เสนอขั้นตอน ในการวิจัยดังต่อไปนี้

แบ่งขั้นตอนการวิจัยออกเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้

1. ขั้นตอนการสร้างโปรแกรมการฝึกความคล่องตัว ซึ่งประกอบด้วยโปรแกรมการฝึกความ คล่องตัวแบบการใช้น้้าหนัก โดยมีการประเมินความตรงเชิงเนื้อหา (validity) ด้วยการพิจารณาจาก ผู้ทรงคุณวุฒิจ้านวน 3 ท่าน เพื่อหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (item objective congruence: IOC)

2. ขั้นตอนการนำโปรแกรมการฝึกความคล่องตัว แบบการใช้น้ำหนักและแบบทั่วไป ไปใช้ และเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้จ้านวน 3 กลุ่มตัวอย่างกลุ่มละ 12 คน รวม 36 คน ค้านวณขนาดของกลุ่มตัวอย่าง โดยการใช้การวิเคราะห์ค่ากำลังทดสอบ (power analysis) สำหรับการวิเคราะห์ความถดถอยสัมพันธ์เชิงซ้อนของ Cohen (1988) โดยใช้การเปิดตารางได้ค่า Power 0.80 ได้ Effectsize .60 ได้กลุ่มตัวอย่างจ้านวน 10 คน แต่เพื่อป้องกันการหลุดหายของกลุ่ม ตัวอย่าง ในช่วงขณะท้าการทดลองจึงใช้จ้านวนกลุ่มตัวอย่างจ้านวน 15 คน โดยวิธีการสุ่มแบบ กำหนด (randomized assignment) โดยเรียงสลับตามความคล่องตัวทั่วไป จากการทดสอบก่อน การทดลอง เพื่อจัดกลุ่มและรูปแบบการฝึกดังนี้ กลุ่มทดลองที่ 1 ทำการฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกความคล่องตัวแบบทั่วไปและฝึกซ้อมทักษะ การตีท้าแต้มของกีฬากาบัดดี้ตามปกติ

กลุ่มทดลองที่ 2 ทำการฝึกด้วยโปรแกรมการฝึกความคล่องตัวแบบใช้น้ำหนักช่วยและ ฝึกซ้อมทักษะการตีท้าแต้มของกีฬากาบัดดี้ตามปกติ ในการฝึกทุกครั้งใช้สถานที่ และช่วงเวลาเดียวกัน อุปกรณ์และสถานที่ฝึกมีมาตรฐานและอยู่ ในสภาพใกล้เคียงกัน โดยแบ่งพื้นที่บริเวณสนามบาสเก็ตบอลเป็น 3 ส่วน

ในการฝึก ผู้ควบคุมการฝึก ประกอบไปด้วย ผู้วิจัย โดยดูแลควบคุมการฝึกซ้อมตามโปรแกรมการฝึก มีการทดสอบความคล่องตัวทั่วไปโดยแบบทดสอบความคล่องตัวของอิลลินอยส์(illinois test run-agility) ความเร็ว (speed) โดยใช้แบบทดสอบวิ่ง 50 เมตร ความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อ (flexibility) โดยใช้เครื่องวัดความอ่อนตัวแบบนั่งงอตัว (sit and reach test) และความแข็งแรงของ กล้ามเนื้อ (muscular strength) โดยใช้เครื่องวัดแรงเหยียดขา (leg dynamometer test) ก่อนการ ทดลอง หลังการทดลอง 4 สัปดาห์ และหลังการทดลอง 8 สัปดาห์ ผลการวิจัย

ผลการวิจัย

1. ผลการเปรียบเทียบการลุก-นั่ง 60 วินาที ของกลุ่มควบคุมแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึก แบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติแตกต่างกับกลุ่ม โปรแกรมฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2. ผลการเปรียบเทียบการดันพื้น 30 วินาที (push-ups 30 seconds) หลังการฝึกของกลุ่ม ควบคุมแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่ม โปรแกรมฝึกแบบปกติแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01

3. ผลการเปรียบเทียบการยืนกระโดดไกล (standing broad jump) หลังการฝึกของกลุ่ม ควบคุมแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการเปรียบเทียบการนั่งงอตัวไปข้างหน้า (sit and reach) หลังการฝึกของกลุ่ม ควบคุมแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่ม โปรแกรมฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกโดยไม่ใช้น้ำหนักช่วย อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01

5. ผลการเปรียบเทียบการวิ่งอ้อมหลัก (zig zag run) หลังการฝึกของกลุ่มควบคุมแตกต่าง กับกลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่กลุ่มโปรแกรมฝึกโดยใช้ น้ำหนักช่วยกับกลุ่มโปรแกรมฝึกโดยไม่ใช้น้ำหนักช่วยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 6. ผลการเปรียบเทียบการวิ่งระยะไกล (distance Run) หลังการฝึกของกลุ่มควบคุมแตกต่าง กับกลุ่มกลุ่มโปรแกรมการฝึกแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่มโปรแกรมฝึก โดยใช้น้ำหนักช่วยแตกต่างกับกลุ่มโปรแกรมฝึกโดยไม่ใช้น้ำหนักช่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ

อภิปรายผล

จากสมมุติฐานที่ว่าการฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยมีผลต่อการพัฒนาความคล่องตัวของนักกีฬา กาบัดดี้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา ได้ดีกว่ากลุ่มโปรแกรมฝึกแบบปกติ สามารถสรุปและอภิปรายได้ ดังนี้ การฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยมีผลต่อการพัฒนาความคล่องตัวของนักกีฬากาบัดดี้ ได้ดีกว่ากลุ่มโปรแกรมการฝึกแบบปกติ หลังจากทำการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างและมีการ ทดสอบก่อน-หลังพบว่า หลังการทดลองกลุ่มตัวอย่างมีความคล่องตัวที่ดีขึ้นที่ดีขึ้น จึงเป็นไปตาม สมมุติฐาน แสดงให้เห็นว่าการฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยมีผลต่อการพัฒนาความคล่องตัวของนักกีฬากาบัดดี้ เป็นโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายได้ ซึ่ง ในการทดลอง กลุ่มตัวอย่างมีเกณฑ์สมรรถภาพทางร่างกายดีขึ้น ซึ่งตรงกับศิริรัตน์ หิรัญรัตน์ (2539) และพิชิต ภูติจันทร์ (2535) กล่าวว่า การฝึกด้วยน้ำหนัก (weight training) เป็นการฝึกเพื่อ เสริมสร้างความแข็งแรง โดยให้กล้ามเนื้อออกแรงต้านทานกับแรงต้านทานอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับฝึก นำหนัก ได้แก่ บาร์เบลล์ ดรัมเบลล์การฝึกด้วยน้ำหนัก (weight training) เป็นการฝึกกล้ามเนื้อให้ ทำงานต่อต้านกับแรงต้านทานที่สูงกว่าปกติที่กล้ามเนื้อมัดนั้นเคยท้าการฝึกซึ่งช่วยเสริมสร้างความ แข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอดทนของกล้ามเนื้อ และยังสามารถฝึกเพื่อเสริมสร้างพลังกล้ามเนื้อได้ โดยใช้น้ำหนักเป็นแรงต้าน ซึ่งในโปรแกรมการฝึกแบบสถานีโดยใช้น้ำหนักถ่วง ร่วมด้วยใช้น้ำหนักถ่วงครั้งนี้ เป็นการในรูปแบบของการฝึกแบบสถานีซึ่ง Hofstetter (2012) ได้ ศึกษาผลของการฝึกแบบสถานีกลางแจ้งเป็นเวลา 7 สัปดาห์ที่มีผลต่อสมรรถภาพทางกายของพล ทหารชาวสวิส วัตถุประสงค์ของการวิจัยเป็นการทดลองออกกำลังกายสถานีกลางแจ้งที่เพิ่มจากการ ฝึกตามปกติที่มีผลต่อสมรรถภาพทางกายและอาการบาดเจ็บของพลทหารในกองทัพสวิส โดยให้กลุ่ม ทดลองออกกำลังกายสถานีกลางแจ้งเพิ่มเติมจากการฝึกแบบปกติ เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ผลวิจัย พบว่า กลุ่มทดลองมีสมรรถภาพทางร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 แต่อาการบาดเจ็บ ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม จากงานวิจัยนี้จึงสรุปได้ว่า การฝึกโดยใช้น้ำหนักช่วยสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และความคล่องแคล่วได้เป็นอย่างดี

ข้อเสนอแนะ

1. การวิจัยในครั้งนี้ควรเน้นย้ำ เรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนการฝึกในแต่ละวัน เช่น ต้องรับประทานอาหารก่อนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง

2. ต้องทำการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและหลังการฝึกซ้อมตามโปรแกรม

3. สามารถทำโปรแกรมการฝึกที่ไปใช้ทดลองกับนักกีฬาประเภทต่อสู้หรือทีมได้ตามความ เหมาะสม ข้อเสนอแนะงานวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรน้ำไปประยุกต์ใช้กับนักกีฬาประเภททีมอื่น ๆ

โพสต์โดย มี้ : [5 ก.ค. 2567 (11:07 น.)]
อ่าน [988] ไอพี : 1.0.217.100
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,399 ครั้ง
นางสงกรานต์ ปี 2559 "มณฑาเทวี" ทำนายฝนตกไม่ทั่วเมือง ข้าวพัง-ของแพง
นางสงกรานต์ ปี 2559 "มณฑาเทวี" ทำนายฝนตกไม่ทั่วเมือง ข้าวพัง-ของแพง

เปิดอ่าน 8,973 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์

เปิดอ่าน 14,784 ครั้ง
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน
เชื้อรา และผื่นเรื่องต้องระวังเมื่อถึงหน้าร้อน

เปิดอ่าน 12,010 ครั้ง
"พิกุล" สรรพคุณดีกว่าที่คิด
"พิกุล" สรรพคุณดีกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 98,577 ครั้ง
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ป.ตรี 5 ปี กับ ป.ตรี 4 ปี ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ครั้งที่ 1/2560
เปรียบเทียบข้อแตกต่าง ป.ตรี 5 ปี กับ ป.ตรี 4 ปี ในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ครั้งที่ 1/2560

เปิดอ่าน 3,706 ครั้ง
พิกเซล (Pixel)
พิกเซล (Pixel)

เปิดอ่าน 3,719 ครั้ง
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ

เปิดอ่าน 13,589 ครั้ง
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว
แนะเด็กกินผักสด สู้หวัดหน้าหนาว

เปิดอ่าน 53,019 ครั้ง
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน

เปิดอ่าน 15,889 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!

เปิดอ่าน 25,731 ครั้ง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง
ลายมือคนที่บั้นปลายของชีวิตมีเงินทอง มีหลักฐานมั่นคง

เปิดอ่าน 21,587 ครั้ง
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!

เปิดอ่าน 46,379 ครั้ง
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย
การหาพื้นที่ผิวของร่างกาย

เปิดอ่าน 19,440 ครั้ง
เรื่องของกลิ่นปาก
เรื่องของกลิ่นปาก

เปิดอ่าน 56,100 ครั้ง
"โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
"โรงเรียนแบบไหนที่สร้างเด็กให้ฉลาด" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เปิดอ่าน 44,373 ครั้ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา  สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง
เจาะลึกความสำเร็จการบริหารโรงเรียนตามแนวทาง SLC ของร.ร.พุทธจักรวิทยา สร้างฐานการเรียนรู้ที่เข้มแข็งให้นักเรียน ดันคะแนนเฉลี่ยโอเน็ตปี’62 พุ่ง
เปิดอ่าน 10,561 ครั้ง
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
เปิดอ่าน 22,294 ครั้ง
ปรากฏการณ์ดาวศุกร์โคจรตัดหน้าดวงอาทิตย์
ปรากฏการณ์ดาวศุกร์โคจรตัดหน้าดวงอาทิตย์
เปิดอ่าน 90,377 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
เปิดอ่าน 22,802 ครั้ง
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ