ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
กะศิษย์เกษตร ปลูกต้นกล้าความดี ด้วยวิถีพอเพียง โดยใช้รูปแบบการบริหาร PAJEE+ Model

2. ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม

กระแสการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ ทำให้สังคมไทยต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้านที่เกิดจากปัญหาด้านจิตใจของคนในสังคมที่เสื่อมลงทั้งทางด้านศีลธรรม วัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกิจและสังคมก่อให้เกิดปัญหาที่สำคัญ โดยเฉพาะปัญหาคอรัปชั่น ที่มีสาเหตุมาจากปัญหาด้าน คุณธรรมจริยธรรมที่สั่งสม มาโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่วัยเยาว์ จึงทำให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการศึกษาได้ให้ความสำคัญ ในการพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรคุณธรรม โดยต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้ผู้เรียนเป็น “คนดี” เพราะถ้าผู้เรียนเป็นคนดีตั้งแต่เด็ก เขาก็จะคิดดี ทำดี สร้างประโยชน์ให้ สังคม และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข พระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ว่า “ช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมือง” และพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรในหลวงรัชกาล ที่ 10 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ที่ว่า “เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชน ชาวไทยทั้งปวง” ทรงรับสั่งให้ดำเนินการตาม แนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยการให้ทุกคนทำการเพื่อบ้านเมืองและประชาชน โดยมีพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีกระแสรับสั่งให้ จัดการศึกษาโดยต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ ผู้เรียนใน 4 เรื่อง คือ 1. ทัศนคติที่ถูกต้อง ๒. พื้นฐานชีวิตที่มั่นคงแข็งแรง 3. มีอาชีพ มีงานทำและ 4. เป็นพลเมืองดี ดังนั้นหน่วยงานทางการศึกษา จึงได้กำหนดนโยบาย แผนและหลักสูตร ล้วนมุ่งที่จะเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

“ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็ก ๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดี มีประโยชน์และมีชีวิตที่สะอาดที่เจริญมั่นคง” ความตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2531 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่ 1“สร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต” ได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญในกระบวนการ ปรับสภาพสังคมให้เกิดภาวะที่ “ไม่ทนต่อการทุจริต” โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม ในทุกระดับช่วงวัยตั้งแต่ปฐมวัย เพื่อสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต้านทุจริต เป็นการดำเนินการผ่านสถาบันหรือกลุ่มตัวแทนที่ทำหน้าที่ในการกล่อมเกลาสังคม ให้มีความเป็นพลเมืองที่ดี มีจิตสาธารณะ เสียสละเพื่อส่วนรวมและเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและต่อต้าน การทุจริตในทุกรูปแบบ จึงเป็นที่มาของการดำเนินงานตามโครงการ “กะศิษย์เกษตร ปลูกต้นกล้าความดี ด้วยวิถีพอเพียง” โดยมุ่งหวังให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีความภาคภูมิใจในวิถีชีวิต วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคม รู้เท่าทันและสามารถพิจารณาเลือกรับ หรือปฏิเสธกระแสเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้อย่างชาญฉลาด

โรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา “ป้องกันการทุจริต” ภายใต้ชื่อ “โรงเรียนสุจริต ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเป็นผู้นำแห่งการเรียนรู้ มีระบบวิถีพอเพียง มีความซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบและปราศจากอบายมุข บนฐานการเรียนรู้ที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเน้นถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต คือ ทักษะกระบวนการคิด มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต อยู่อย่างพอเพียง และมีจิตสาธารณะ โดยได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน มุ่งพัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โครงการกะศิษย์เกษตร ที่มีคุณลักษณะ และการจัดการที่สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ พอประมาณกับศักยภาพของนักเรียน พอประมาณกับภูมิสังคมของโรงเรียนและชุมชนที่ตั้ง มีการส่งเสริมให้ใช้ความรู้อย่างรอบคอบ ระมัดระวัง ฝึกให้เด็กคิดเป็น ทำเป็นอย่างมีเหตุผล ไม่เอารัด เอาเปรียบผู้อื่น มีวินัย มีสัมมาคารวะ ปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม สืบสานวัฒนธรรมไทยและวิถีชุมชน กล่าวคือ สอนให้ผู้เรียนยึดมั่นในหลักศีลธรรม พัฒนาให้เขารู้จักทำประโยชน์ให้กับสังคม และช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และโครงการกะศิษย์เกษตรต้องยั่งยืน ในการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา มุ่งพัฒนาที่ตัวครูก่อนเป็นอันดับแรก เพราะครูถือว่าเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สามารถถ่ายทอด ความรู้และปลูกฝังสิ่งต่าง ๆ ในแก่ผู้เรียน โดยมีเป้าหมายสำคัญของการขับเคลื่อน คือ การทำให้ผู้เรียนรู้จักความพอเพียง ปลูกฝัง อบรม บ่มเพาะให้ผู้เรียนมีความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยสอดแทรกแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรสาระเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อสอนให้นักเรียนรู้จักการใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ รู้จักอยู่ร่วมกับผู้อื่น รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน มีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมและค่านิยมความเป็นไทย วิถีชีวิตของชุมชน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น สำคัญ คือ ครูจะต้องรู้จักบูรณาการการเรียนการสอนให้ผู้เรียนเห็นถึงความเชื่อมโยงในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจ ความเป็นองค์รวมเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ครูต้องใช้ความรู้และคุณธรรมเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 - 2570 โดยมีวิสัยทัศน์ขององค์กรคือ “2 ลด 2ปรับ 2 เพิ่ม 2 เสริม 2 สร้าง 2 มุ่ง” และเพื่อเป็นการต่อยอดพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็น"องค์กรคุณภาพ สร้างคนดี มีความสุข ด้วยนวัตกรรม สู่ความยั่งยืน" ทั้งนี้ ได้นำสู่การดำเนินการโดยกำหนดทิศทางการพัฒนาไว้ในกลยุทธ์ ที่ 5 พัฒนาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาให้เป็นบุคคลและองค์กรแห่งการเรียนรู้ก้าวสู่องค์กรแห่งนวัตกรรม โดยได้จัดทำโครงการพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียนที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่ 21 เพื่อสนองตามวิสัยทัศน์ขององค์กรและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคนในสังกัดพัฒนา คิดค้นแนวทางหรือกระบวนการในการพัฒนาการจัดการศึกษา การบริหารจัดการ หรือการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมและมีคุณภาพ โดยคำนึงถึงบริบทเชิงพื้นที่ ความแตกต่างหลากหลายของผู้เรียน รวมถึงความสอดคล้องในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และได้กำหนดจัดกิจกรรมมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อเป็นเวทีวิชาการในการนำเสนอผลงานของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนที่ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่องสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2

จากความสำคัญดังกล่าวข้างต้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรองรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น โรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 จึงริเริ่มพัฒนารูปแบบการบริหาร PAJEE+ Model ของสถานศึกษา สร้างนวัตกรรมการศึกษาขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ตามตามแนวทางการจัดทำและนำเสนอนวัตกรรมการศึกษาโครงการ The Best Education Innovation CME2 ปีงบประมาณ 2567 และโรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่นับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงและสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นและ ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นปัญหาลำดับต้น ๆ ที่ขัดขวางการพัฒนาประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ทางโรงเรียนจึงมีการขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) จึงได้ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู ผู้ปกครองนักเรียนร่วมกันกำหนดนโยบายใน การขับเคลื่อน และถอดบทเรียน Best Practice กะศิษย์เกษตร ปลูกต้นกล้าความดี ด้วยวิถีพอเพียง โดยใช้รูปแบบการบริหาร PAJEE+ Model เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต สืบไป

3. วัตถุประสงค์การพัฒนานวัตกรรมกรอบแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรม

3.1 วัตถุประสงค์

1) เพื่อพัฒนาให้นักเรียนโรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา เกิดคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต จากโครงการกะศิษย์เกษตร ปลูกต้นกล้าความดี ด้วยวิถีพอเพียง โดยใช้รูปแบบการบริหาร PAJEE+ Model

2) เพื่อถอดบทเรียน สรุปองค์ความรู้นวัตกรรมที่เป็น Best Practice และเผยแพร่สู่สาธารณชน และเชิดชูให้เป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ของผู้สนใจ

3) เพื่อให้ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน เกิดความตระหนัก ในการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน

3.2 เป้าหมาย

เป้าหมายเชิงปริมาณ

1) นักเรียนโรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา จำนวน 236 คน เกิดคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม และเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม

2) โรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา มีการถอดบทเรียน สรุปองค์ความรู้นวัตกรรมที่เป็น Best Practice เผยแพร่สู่

สาธารณชน

3) ผู้บริหาร จำนวน 2 คน คณะครู บุคลากรทางการศึกษา จำนวน 14 คน และนักเรียนจำนวน 236 คน ให้ความร่วมมือและร่วมน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

1. นักเรียนโรงเรียนป่าจี้วังแดงวิทยา เกิดคุณลักษณะ 5 ประการของโรงเรียนสุจริต มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม และเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมจนเกิดเป็นวิถีปฏิบัติที่ดีงาม

2. สถานศึกษามีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ Best Practice เป็นแบบอย่างให้กับสถานศึกษาและหน่วยงานทั่วไปจนได้รับ การยอมรับจากชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง

3. ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และภาคีเครือข่ายเกิดความตระหนักรู้ เข้าใจ ในการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติได้อย่างเข้าใจ ต่อยอดและยั่งยืน

โพสต์โดย ใหญ๋ : [1 ก.ค. 2567 (16:37 น.)]
อ่าน [60] ไอพี : 119.42.99.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 38,085 ครั้ง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง

เปิดอ่าน 20,894 ครั้ง
จิตรกรรม
จิตรกรรม

เปิดอ่าน 20,137 ครั้ง
น้ำอาร์ซี
น้ำอาร์ซี

เปิดอ่าน 11,645 ครั้ง
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น

เปิดอ่าน 11,495 ครั้ง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง
10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง

เปิดอ่าน 11,313 ครั้ง
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)

เปิดอ่าน 11,745 ครั้ง
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี
โรคทางใจที่ควรรู้ไว้พิจารณา >> ว.วชิรเมธี

เปิดอ่าน 10,612 ครั้ง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง

เปิดอ่าน 341,278 ครั้ง
ความสำคัญของภาษาไทย
ความสำคัญของภาษาไทย

เปิดอ่าน 24,828 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ BBL กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ BBL กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 19,452 ครั้ง
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก
ไม่อยากแก่ เรามีเคล็ดลับมาบอก

เปิดอ่าน 90,328 ครั้ง
สมุนไพรกำจัดแมลง
สมุนไพรกำจัดแมลง

เปิดอ่าน 12,396 ครั้ง
11 ก.พ.นี้ ห้ามสูบบุหรี่ใน "ผับ-เธค-สวนอาหาร-จตุจักร"
11 ก.พ.นี้ ห้ามสูบบุหรี่ใน "ผับ-เธค-สวนอาหาร-จตุจักร"

เปิดอ่าน 8,242 ครั้ง
วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็วจนใคร ๆ ก็ต้องทัก
วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน เห็นผลเร็วจนใคร ๆ ก็ต้องทัก

เปิดอ่าน 13,985 ครั้ง
คลิปรายการ "เจาะข่าวเด่น" ดร.ชินภัทร ชี้แจงกรณี "ลดการบ้านนักเรียน"
คลิปรายการ "เจาะข่าวเด่น" ดร.ชินภัทร ชี้แจงกรณี "ลดการบ้านนักเรียน"

เปิดอ่าน 31,770 ครั้ง
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้
เปิดอ่าน 13,437 ครั้ง
"โกสน" ช่วยดูดพิษในอากาศ
"โกสน" ช่วยดูดพิษในอากาศ
เปิดอ่าน 17,441 ครั้ง
งานประเพณีรับบัว 2552
งานประเพณีรับบัว 2552
เปิดอ่าน 80,455 ครั้ง
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
เปิดอ่าน 21,917 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ