ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การสร้างนวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผู้วิจัย นางกาญจนี กาญจนแก้ว

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (วิชาภาษาจีน)

สถานที่วิจัย โรงเรียนเทศบาล ๖ (อนุบาลในฝัน)

ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 (เดือนมกราคม-มีนาคม)

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการจดจำคำศัพท์ภาษาจีน โดยใช้

ชุดฝึก 一起读 (รู้ร่วมกัน) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) กำหนดเกณฑ์ 80/80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีน อีกทั้งศึกษาความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการนํารูปแบบการเรียนการสอนคําศัพทภาษาจีนโดยใช้นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีน ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๖ (อนุบาลในฝัน) จำนวน 100 คน ซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนในชั้นเรียนที่ผู้ศึกษาทำการสอน ในภาคเรียน 2 ปีการศึกษา 2566 โดยการสุ่มแบบกลุ่ม ที่มีคะแนนการทดสอบต่ำกว่าร้อยละ 60 จำนวน 23 คน ดำเนินการใช้นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีน เมื่อเรียนจบแล้วให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน แล้วจึงนำผลไปวิเคราะห์และทดสอบสมมติฐาน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

1. แบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน เป็นปรนัยชนิด 3 ตัวเลือก

2. นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีนจำนวน 2 เรื่อง คือ中文日常用语 (คำศัพท์ภาษาจีนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน) และ家庭 (ครอบครัว)

3. แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อในการใช้นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีน

สถิติที่ใช้ในการศึกษาคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที (t-test)

ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนที่เรียนโดยใช้นวัตกรรมแบบฝึก一起读 (รู้ร่วมกัน) เพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและจดจําคำศัพท์ภาษาจีนมีทักษะการอ่านและการจดจำคำศัพท์ภาษาจีนดีขึ้น ที่ีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.02 / 90.00 มีคะแนนการทดสอบหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีความพึงพอใจของผู้ปกครองในระดับ มากที่สุด ส่งผลให้นักเรียนมีภูมิใจ มั่นใจ และมีความสุขในการเรียนภาษาจีนมากขึ้นอีกด้วย

โพสต์โดย Gingyumyum : [27 มิ.ย. 2567 (17:38 น.)]
อ่าน [1235] ไอพี : 110.164.168.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,012 ครั้ง
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"
เทคนิค 6 ต. เพื่อสอบแอดมิชชั่นให้ "ติด"

เปิดอ่าน 17,420 ครั้ง
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน
รู้ก่อนสมัครงาน...!! คุณเหมาะกับการทำงานในองค์กรแบบไหน

เปิดอ่าน 13,432 ครั้ง
ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย
ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย

เปิดอ่าน 141,431 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : กาลิเลโอ กาลิเลอี
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : กาลิเลโอ กาลิเลอี

เปิดอ่าน 19,689 ครั้ง
แนะนำวิธีจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับครู
แนะนำวิธีจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับครู

เปิดอ่าน 46,720 ครั้ง
100 สุภาษิตกฎหมาย
100 สุภาษิตกฎหมาย

เปิดอ่าน 14,913 ครั้ง
ASEAN
ASEAN

เปิดอ่าน 212,877 ครั้ง
อย่าเลี้ยงลูกให้มีอำนาจ "เหนือพ่อแม่" By พญ.สาริณี
อย่าเลี้ยงลูกให้มีอำนาจ "เหนือพ่อแม่" By พญ.สาริณี

เปิดอ่าน 16,428 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย

เปิดอ่าน 14,111 ครั้ง
คลิป การจอดรถสุดเกรียน ชนิดเทพอยากเอามือปิดหน้า
คลิป การจอดรถสุดเกรียน ชนิดเทพอยากเอามือปิดหน้า

เปิดอ่าน 12,155 ครั้ง
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย
‘หมอธี’ เดินหน้าล้างบาง ‘กระทรวงครู’ ขจัด ‘เหลือบริ้นไร’ วงการศึกษาไทย

เปิดอ่าน 35,259 ครั้ง
ภาวะเด็กอ้วน น้ำหนักเกิน ภัยร้ายที่คุณไม่ควรประมาท
ภาวะเด็กอ้วน น้ำหนักเกิน ภัยร้ายที่คุณไม่ควรประมาท

เปิดอ่าน 15,826 ครั้ง
กว่าจะมาเป็น นพวรรณ เลิศชีวกานต์
กว่าจะมาเป็น นพวรรณ เลิศชีวกานต์

เปิดอ่าน 11,179 ครั้ง
คุณหมอขอบอก: วิธีคลายเครียดจากน้ำท่วม
คุณหมอขอบอก: วิธีคลายเครียดจากน้ำท่วม

เปิดอ่าน 18,621 ครั้ง
แจกฟรี powerpoint ฟิสิกส์ ม.ปลาย (บริษัท วิทยพัฒน์ จำกัด)
แจกฟรี powerpoint ฟิสิกส์ ม.ปลาย (บริษัท วิทยพัฒน์ จำกัด)

เปิดอ่าน 22,143 ครั้ง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
เปิดอ่าน 19,484 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
เปิดอ่าน 10,165 ครั้ง
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู
เปิดอ่าน 23,147 ครั้ง
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
แบ่งปันความสุข แบ่งเบาความทุกข์
เปิดอ่าน 12,541 ครั้ง
8 การออกกำลังดีที่สุด และแย่ที่สุดสำหรับหัวใจ
8 การออกกำลังดีที่สุด และแย่ที่สุดสำหรับหัวใจ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ