|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือและการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการทำงาน
เป็นกลุ่ม กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกะลาพอ
ผู้วิจัย นายสิทธิพงษ์ ส้มเกิด ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
ปีที่วิจัย 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัญหา และแนวทางในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และเพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ดำเนินการวิจัยเป็น 4 ระยะ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกะลาพอ อำเภอสายบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 26 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเหมาะสม แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบประเมินมาตรฐาน 4 ด้าน การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Nonparametric Test แบบ Wilcoxon Signed Rank Test
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน พบว่า สภาพปัญหาในการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ การขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ สื่อในการจัดการเรียนรู้ อีกทั้งครูส่วนใหญ่ยังขาดทักษะการจัดการเรียนการสอน จากการสอบถาม สภาพปัจจุบันในการจัดการเรียนการสอน อยู่ในระดับมากที่สุด และความต้องการในการจัดการเรียนการสอน อยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอนมีความเหมาะสมในระดับมาก มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนการสอน และการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ 3) ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอน พบว่า ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนการสอน เท่ากับ 86.55/84.62 ทักษะการทำงานเป็นกลุ่มของนักเรียน อยู่ในระดับดี มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอน อยู่ในระดับมากที่สุด 4) ผลประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอน พบว่า รูปแบบมีมาตรฐานด้านความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความถูกต้อง ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย พง : [25 มิ.ย. 2567 (09:26 น.)] อ่าน [1044] ไอพี : 171.97.73.245
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 17,430 ครั้ง
| เปิดอ่าน 51,205 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,857 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,216 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,979 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,271 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,590 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,577 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,417 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,052 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,784 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,727 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,215 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,723 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,244 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 23,304 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,367 ครั้ง
| เปิดอ่าน 94,852 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,206 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,123 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|