ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

ผู้วิจัย : นายอำพล โทอรัญ

วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษโรงเรียนชุมชนบ้านโป่ง

ปีการศึกษา : 2566

การวิจัยเรื่อง การพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods) กำหนดวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพ ปัญหาและแนวทางการพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 2) พัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 3) นำกลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนไปสู่การปฏิบัติจริง และ (4) ศึกษาผลการใช้กลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยมีขั้นตอนการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพ ปัญหาและแนวทางการพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ขั้นตอนที่ 3 นำกลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนไปสู่การปฏิบัติจริง และขั้นตอนที่ 4 ศึกษาผลการใช้กลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยครูโรงเรียนชุมชนบ้านโป่ง จำนวน 14 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 136 คน และนักเรียน จำนวน 88 คน ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

สรุปผล

การสรุปผลการพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังต่อไปนี้

1. ศึกษาสภาพ ปัญหาและแนวทางการพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

1.1 ศึกษาสภาพ ปัญหาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่ง ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสภาพระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่ง ซึ่งประกอบด้วย แผนปฏิบัติการ แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และรายงานการประเมินตนเอง (SAR) และปัญหาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่ง ด้านการรู้จักนักเรียนรายบุคคล พบปัญหา ได้แก่ ครูโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งอาจไม่ได้รับความสะดวกในการเยี่ยมบ้าน ทำให้ไม่ได้ข้อมูลนักเรียนที่ชัดเจนตามสภาพความเป็นจริง ด้านการคัดกรองนักเรียน พบปัญหา ได้แก่ ครูไม่ได้จบการศึกษาทางด้านการแนะแนวโดยตรง และยังขาดความรู้ประสบการณ์ในการให้คำปรึกษา ด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน พบปัญหา ได้แก่ การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมนักเรียนนั้นมีข้อจำกัดคือโรงเรียนไม่ได้ดำเนินงานการจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนานักเรียนอย่างต่อเนื่อง ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา พบปัญหา ได้แก่ มีบุคลากรโยกย้ายบ่อย ครูที่บรรจุใหม่ยังขาดประสบการณ์และเทคนิคในการให้คำปรึกษาแก่นักเรียน และด้านการส่งต่อ พบปัญหา ได้แก่ ครูมีเวลาให้นักเรียนน้อยบางครั้งไม่มีการติดตามแก้ไขหรือดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ทำให้การแก้ไขพฤติกรรมนักเรียนไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

1.2 แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนจากโรงเรียนที่มีการปฏิบัติเป็นเลิศ (Best Practice) ได้แก่ 1) โรงเรียนชุมชนบ้านสันจำปา และ2) โรงเรียนเจดีย์หลวงพิทยาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 พบว่า 1) แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล พบว่า โรงเรียนมีการกำหนดวิสัยทัศน์และนโยบายที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นรายบุคลมีโครงการเยี่ยมบ้านที่พักอาศัยของนักเรียน มีการใช้แบบประเมินพฤติกรรมเด็ก (SDQ) กับนักเรียนและใช้แบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) กับนักเรียน 2) แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการคัดกรองนักเรียน พบว่า โรงเรียนส่งเสริมให้ผู้ปกครองทุกคนได้มีโอกาสจัดทำการเรียนการสอนนักเรียนเองโดยมีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ 3) แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน พบว่า โรงเรียนมีวิธีการปลูกจิตสำนึกให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของตนเอง โดยโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบที่หลากหลายตามความแตกต่างของผู้เรียน 4) แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา พบว่า โรงเรียนประสานผู้ปกครองในการพบปะกับผู้ปกครองเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยครูโดยให้กลุ่มงานแนะแนวช่วยดูแลตรงนี้ และมีการจัดคลาสรูมมิทติ้งทุกๆ ภาคเรียน ระหว่างผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองได้พบปะพูดคุยกัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลปรึกษาหารือร่วมกัน ผู้ปกครองและชุมชนร่วมกับโรงเรียนในการจัดกิจกรรมของโรงเรียน และ 5) แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการส่งต่อ พบว่า โรงเรียนได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการส่งต่อนักเรียนในกรณีที่โรงเรียนไม่สามารถดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ และมีนโยบายให้ครูที่ปรึกษาทุกคนได้ดูแลช่วยเหลือนักเรียนเบื้องต้นอย่างเต็มความสามารถก่อนเป็นอันดับแรก

2. ผลการพัฒนากลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน พบว่า

2.1 วิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรคหรือภาวะคุกคามของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

พบว่า การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล จุดแข็ง นักเรียนแต่ละคนมีพื้นฐานความเป็นมาของชีวิตที่ไม่เหมือนกัน การรู้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับตัวนักเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ครูมีความเข้าใจนักเรียนมากขึ้น สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อการคัดกรองนักเรียน เป็นประโยชน์ในการสิ่งเสริมพัฒนาการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือนักเรียนได้อย่างถูกทาง ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์มิใช่การใช้ความรู้สึกหรือการคาดเดา โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหานักเรียน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดต่อการช่วยเหลือนักเรียนหรือเกิดได้น้อยที่สุด นักเรียนแต่ละคนมีพื้นฐานความเป็นมาของชีวิตที่ไม่เหมือนกัน การรู้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับตัวนักเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ครูมีความเข้าใจนักเรียนมากขึ้น สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อการคัดกรองนักเรียน เป็นประโยชน์ในการสิ่งเสริมพัฒนาการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือนักเรียนได้อย่างถูกทาง ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์มิใช่การใช้ความรู้สึกหรือการคาดเดา โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหานักเรียน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดต่อการช่วยเหลือนักเรียนหรือเกิดได้น้อยที่สุด จุดอ่อน โรงเรียนมีการคัดกรองนักเรียนทุกคนโดยบันทึกข้อมูลลงในแบบคัดกรองนักเรียนรายบุคคล มีการวางแผนและจัดทำปฏิทินการดำเนินงานด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลที่ชัดเจน มีการนิเทศ ติดตามผลเกี่ยวกับการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างสม่ำเสมอ และครูมีการศึกษาข้อมูลนักเรียนรายบุคคลที่ครอบคลุมทุก ๆ ด้านเช่น ด้านการเรียน ด้านสุขภาพ ด้านพฤติกรรม เป็นต้น โอกาส โรงเรียนมีโครงการ/กิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อประสานและส่งผ่าน ข้อมูลนักเรียนรายบุคคลระหว่างครูที่ปรึกษากับผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้การสนับสนุนการดำเนินงานด้านการรู้จัก นักเรียนเป็นรายบุคคล และ ผู้ปกครองรับทราบข้อมูลต่าง ๆ ของนักเรียนและให้ความร่วมมือในการ ดำเนินงานด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล อุปสรรคหรือภาวะคุกคามหน่วยงานต้นสังกัดมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรในสถานศึกษาด้านการ รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียนของสถานศึกษาด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล และโรงเรียนมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานด้านการรู้จักนักเรียน รายบุคคล การคัดกรองนักเรียน จุดแข็ง การคัดกรองนักเรียน เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลแล้วนำผลที่ได้ มาจำแนกตามเกณฑ์การคัดกรองที่สถานศึกษา ได้จัดทำขึ้น จุดอ่อน โรงเรียนมีการวางแผนและกำหนดปฏิทินดำเนินงานด้านการคัดกรองนักเรียนไว้อย่างชัดเจน มีการสรุปและรายงานผลการคัดกรองนักเรียนเป็นรายชั้นและภาพรวมของสถานศึกษา และมีการคัดกรองนักเรียนทุกคนโดยบันทึกข้อมูลลงในแบบคัดกรองนักเรียนรายบุคคล โอกาส คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานด้านการคัดกรองนักเรียน ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการคัดกรองนักเรียน โรงเรียนมีการประชุมครู คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกำหนดเกณฑ์การคัดกรองนักเรียนที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และมีการทำความเข้าใจและแจ้งวัตถุประสงค์ของการคัดกรองให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับทราบ อุปสรรคหรือภาวะคุกคาม หน่วยงานต้นสังกัดมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรในสถานศึกษาด้านการ คัดกรองนักเรียน มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนการ ดำเนินงานในด้านการคัดกรองนักเรียนของสถานศึกษาโรงเรียนมีการนำเทคโนโลยี หรือโปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้ในการคัดกรองนักเรียน และมีการประสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการจัดทำเครื่องมือ และให้ความรู้ในการคัดกรองนักเรียนแก่ครูและผู้เกี่ยวข้อง การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน จุดแข็ง การส่งเสริมและพัฒนานักเรียน เป็นการสนับสนุนให้นักเรียนทุกคนที่อยู่ในความดูแลของครูที่ปรึกษา ให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีความภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งจะช่วยป้องกันมิให้นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มปกติ กลายเป็นนักเรียนกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มมีปัญหา และเป็นการช่วยให้นักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหากลับมามีพฤติกรรมที่ดีขึ้น ตามที่สถานศึกษาหรือชุมชนคาดหวัง จุดอ่อน โรงเรียนมีการวางแผน และกำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน มีการประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนอย่างสม่ำเสมอทุกภาคเรียน และมีการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนในรูปแบบของกิจกรรมโครงงานในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ตามความสนใจของนักเรียน โอกาส โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน (Classroom meeting) เป็นประจำทุกภาคเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีส่วนร่วมและให้การส่งเสริมสนับสนุนด้านการ ส่งเสริมและพัฒนานักเรียน

ผู้ปกครองให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการส่งเสริม และพัฒนานักเรียน และเครือข่ายผู้ปกครองแต่ละชั้นเรียนให้การส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาด้านการ ส่งเสริมและพัฒนานักเรียน อุปสรรคหรือภาวะคุกคาม โรงเรียนมีการส่งเสริมสนับสนุนการนำสื่อและเทคโนโลยีมาใช้ในการจัด กิจกรรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนานักเรียน และหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานภายนอกมีส่วนช่วยสนับสนุนการดำเนินงาน ในด้านการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนของสถานศึกษา

การป้องกันและแก้ไขปัญหา จุดแข็ง การดูแลช่วยเหลือนักเรียนครูควรให้ความเอาใจใส่กับนักเรียนทุกคนเท่าเทียมกัน แต่สำหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหานั้น จำเป็นอย่างมากที่ต้องให้ความดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและหาวิธีการช่วยเหลือ ทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหา โดยไม่ปล่อยปละละเลยนักเรียนจนกลายเป็นปัญหาของสังคมการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กับนักเรียนมีหลายเทคนิค วิธีการ จุดอ่อนโรงเรียนมีการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขนักเรียนทุกภาคเรียน มีการศึกษาเด็กเป็นรายกรณี (Case Study) เพื่อการป้องกันและแก้ปัญหานักเรียน และมีการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างทักษะการดำรงชีวิต เช่นกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมแสดงความสามารถของนักเรียน เป็นต้น โอกาส โรงเรียนมีการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองในการช่วยเหลือป้องกัน และแก้ไขปัญหานักเรียนอย่างสม่ำเสมอ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน และ ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน อุปสรรคหรือภาวะคุกคาม โรงเรียนมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างสื่อหรือเครื่องมือเพื่อใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน และหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานภายนอกมีส่วนช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนของสถานศึกษา การส่งต่อ จุดแข็ง การป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียน โดยครูที่ปรึกษา ตามกระบวนการป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนนั้น ในกรณีที่มีปัญหายากต่อการช่วยเหลือหรือช่วยเหลือแล้วนักเรียนมาพฤติกรรมไม่ดีขึ้น ก็ควรส่งต่อผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กรณีที่มีเด็กมีความสามารถพิเศษหรือเด็กอัจฉริยะ เด็กที่มีความต้องการพิเศษ เด็กด้อยโอกาส ก็ควรส่งต่อผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาและช่วยเหลืออย่างถูกทางและรวดเร็วขึ้นการส่งต่อ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การส่งต่อภายใน และการส่งต่อภายนอก จุดอ่อน โรงเรียนมีแผนการดำเนินงานด้านการส่งต่อภายในและการส่งต่อภายนอกตามขั้นตอนของการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีการบันทึก รายงานผลการส่งต่อและดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา มีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบตาม ขั้นตอนการส่งต่อทั้งภายในและภายนอกที่ชัดเจน และมีการติดตาม ประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงานด้านการส่งต่อนักเรียนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอทุกภาคเรียนโอกาส โรงเรียนมีเครือข่ายสนับสนุนการดำเนิน งานด้านการส่งต่อทั้งภายในและภายนอก ครูที่ปรึกษามีการชี้แจงให้นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทราบถึงความจำเป็นในการส่งต่อนักเรียนไปยังผู้ให้การช่วยเหลือทุกครั้งคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้ความร่วมมือและส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานด้านการส่งต่อนักเรียนผู้ปกครองให้ความสำคัญและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการส่งต่อนักเรียน และโรงเรียนมีการติดตาม ประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงานด้านการส่งต่อนักเรียนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอทุกภาคเรียน อุปสรรคหรือภาวะคุกคามหน่วยงานภายนอกให้ความสำคัญและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการส่งต่อภายนอกของโรงเรียน หน่วยงานต้นสังกัดเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการส่งต่อของสถานศึกษา โรงเรียนมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานด้านการส่งต่ออย่างเหมาะสม

2.2 การยกร่างกลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน มีองค์ประกอบของกลยุทธ์ ได้แก่ 1) วิสัยทัศน์ (Vision) 2) เป้าประสงค์ (Goal) 3) กลยุทธ์ (Strategy) 4) พันธกิจ (Mission) 5) กลไกสู่การปฏิบัติและ 6) ตัวชี้วัด (Key Performance Indicator) และผลการตรวจสอบความเหมาะสมร่างกลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

3. ผลการนำกลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนไปสู่การปฏิบัติจริง พบว่า ความพึงพอใจของครูโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งที่มีต่อผลการนำกลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนไปสู่การปฏิบัติจริง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และความพึงพอใจของนักเรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

4. ผลการศึกษาผลการใช้กลยุทธ์ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน พบว่า ผลการสอบถามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และการพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านโป่งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย m.sumitra : [18 มิ.ย. 2567 (15:56 น.)]
อ่าน [137] ไอพี : 1.20.191.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 71,884 ครั้ง
การวาดภาพนกเบื้องต้น
การวาดภาพนกเบื้องต้น

เปิดอ่าน 11,881 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"

เปิดอ่าน 15,416 ครั้ง
คู่มือการเลือกผู้แทน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการเลือกผู้แทน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 16,845 ครั้ง
วิธีลดต้นขาง่าย ๆ สำหรับคุณสาว ๆ ต้นขาใหญ่
วิธีลดต้นขาง่าย ๆ สำหรับคุณสาว ๆ ต้นขาใหญ่

เปิดอ่าน 13,011 ครั้ง
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ
เจ๋งมั๊ยล่ะ ไอเดียอะไรนะ? ของเด็กไทยที่ถูกเลือกไปทดลองในอวกาศ

เปิดอ่าน 55,237 ครั้ง
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร

เปิดอ่าน 13,211 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 936 ครั้ง
ภาวะหมดไฟในการทำงาน ภัยเงียบที่หลายคนมักมองข้าม
ภาวะหมดไฟในการทำงาน ภัยเงียบที่หลายคนมักมองข้าม

เปิดอ่าน 28,597 ครั้ง
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก
"หินถ่วงบวบ"ไอเดียปลูกบวม ได้ผลใหญ่ สวย และยาวมาก

เปิดอ่าน 16,859 ครั้ง
"รางวัลให้ครู"
"รางวัลให้ครู"

เปิดอ่าน 8,771 ครั้ง
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 27,375 ครั้ง
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

เปิดอ่าน 16,828 ครั้ง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง
น้ำเปล่า ช่วยให้คุณสวยได้ยังไง

เปิดอ่าน 17,508 ครั้ง
ร่ม ประโยชน์ที่มากกว่าการกันฝน
ร่ม ประโยชน์ที่มากกว่าการกันฝน

เปิดอ่าน 13,168 ครั้ง
วิทยาศาสตร์น่าทึ่ง ทำเองได้ที่บ้าน
วิทยาศาสตร์น่าทึ่ง ทำเองได้ที่บ้าน

เปิดอ่าน 4,119 ครั้ง
เงินเฟ้อ คืออะไร
เงินเฟ้อ คืออะไร
เปิดอ่าน 11,823 ครั้ง
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
แบคทีเรียกินเนื้อคน แพทย์แนะล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที หากถูกก้างปลาตำ
เปิดอ่าน 13,107 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
เปิดอ่าน 9,995 ครั้ง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
เปิดอ่าน 15,553 ครั้ง
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา
คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ