เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open - Approach)
เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางกัลยาวีร์ อาจสาลี
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียน การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open Approach) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยมีวัตถุประสงค์ย่อยดังนี้ 3.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open Approach) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3.2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open Approach) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open Approach) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4.1)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open Approach) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยผู้วิจัยใช้เนื้อหา เรื่อง เซต ในการวิจัย กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา จำนวน 19 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open - Approach) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลการประเมินโดยรวม เฉลี่ย 4.71 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.51 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เซต ชนิดปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.33 0.77 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (B) ตั้งแต่ 0.37 -0.76 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (rcc) เท่ากับ 0.91 แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบอัตนัย 5 ข้อ มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 1.00 มีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.31 0.56 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (D) ตั้งแต่ 0.44 0.85 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α) เท่ากับ 0.81 และแบบสอบถามความพึงพอใจเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งเป็น 4 ด้าน รวม 20 ข้อ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) นำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่า
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การสอนโดยวิธีการแบบเปิด (Open Approach) ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ในการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนยังขาดการสนับสนุนและเปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิดอย่างอิสระ หลากหลายแนวทาง ครูส่วนใหญ่จะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามเนื้อหาในหนังสือเรียน ขาดแนวทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนกล้าคิด กล้าแสดงออกและส่วนมากยังไม่ให้ความสำคัญในการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และนักเรียนส่วนมากยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้เรียนรู้ ตามกรอบแนวทางการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์อย่างสร้างสรรค์ที่มีประสิทธิภาพ ครูไม่ได้สนับสนุนให้คิดหาแนวทางหรือแบบแผนการค้นหาคำตอบที่แตกต่างหลากหลายด้วยวิธีการแบบใหม่ จึงส่งผลให้นักเรียนต้องการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นอีก ครูผู้สอนจึงจำเป็นที่จะต้องจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้นักเรียนกล้าคิด คิดเป็นระบบ อยากเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่
ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ซึ่งมีองค์ประกอบดังนี้ 1) แนวคิดพื้นฐาน 2) หลักการ 3) วัตถุประสงค์ 4) เนื้อหา 5) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนเตรียมความพร้อม (Preparation : P) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนเรียนรู้แบบเปิดและนำเสนอบทเรียน (Learning and Presentation : L) ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนฝึกปฏิบัติ (Action : A) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนสะท้อนความรู้ (Reflective : R) ขั้นตอนที่ 5 ขั้นตอนสรุปผลและประเมินผล (Conclusion and Evaluation : E) 6) การวัดและประเมินผล โดยประยุกต์ใช้แนวคิดทฤษฎีสนับสนุนได้แก่ ทฤษฎีสรรค์สร้างความรู้ (Constructivist Theory) ร่วมกับวิธีการแบบเปิด และประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (E1/E2) หาแบบกลุ่มใหญ่ (Filed Tryour) ประสิทธิภาพผลลัพธ์คำนวณจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน พบว่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เท่ากับ 76.21/78.89 และประสิทธิภาพคำนวณจากการทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หลังเรียน ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เท่ากับ 76.21/77.73
ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open - Approach) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้นหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีคะแนนความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
ขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบเป็นการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการรู้โดยประยุกต์วิธีการแบบเปิด (Open Approach) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย = 4.55, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.61)