ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM ร่วมกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี วิชาเครื่องขยายเสียง เรื่อง Bluetooth Speaker จากวัสดุเหลือใช้ใ

หัวข้อการศึกษา การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM ร่วมกับทฤษฎีการ

สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทาง

เทคโนโลยี วิชาเครื่องขยายเสียง เรื่อง Bluetooth Speaker จากวัสดุ

เหลือใช้ในท้องถิ่น สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้ศึกษา นายกรพิสิษฐ์ พุดแดง

ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ

ปีการศึกษา 2566

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน

2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ และ

4) เพื่อประเมินผลประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา

(Research and Development: R&D) โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed

Methods Research) แบ่งขั้นตอนการวิจัยเป็น 4 ขั้นตอนดังนี้ 1) Research (R1) ศึกษาและ

วิเคราะห์แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวกับการสอน วิธีเรียนรู้ ความคิดเห็น การประเมินผล

2) Development (D1) ออกแบบและพัฒนารูปแบบ คู่มือการใช้รูปแบบ หน่วยและแผนการจัดการ

เรียนรู้แบบบันทึกการสร้างนวัตกรรม แบบประเมินทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรม และแบบสอบถาม

ความคิดเห็น ประเมินประสิทธิภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยสนทนา

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Focus Group Discussion : FGD) 3) Research (R2) การนารูปแบบไปทดลองใช้

(Implementation) และ 4) Development (D2) นารูปแบบการเรียนรู้ไปใช้จริงและประเมินผล

ประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้กับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จานวน 24 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random

Sampling) ใช้ระยะในการทดลองสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ รวมทั้งสิ้น 40 ชั่วโมง เครื่องมือ

ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบประเมินทักษะ

การสร้างสรรค์นวัตกรรม และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ จานวน

30 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที

แบบกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระ ค่าดัชนีประสิทธิผล และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ การสนทนากลุ่ม

พบว่า มีสาเหตุมาจาก 3 ประการดังนี้ 1) ด้านบุคลากรครูได้รับการพัฒนาเพื่อให้เกิดความรู้และ

ทักษะงานอาชีพในระดับน้อย 2) ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน พบว่าในหลักสูตรรายวิชา

เพิ่มเติมที่ส่งเสริมทักษะงานอาชีพต่างๆ ยังไม่ต่อเนื่องและไม่มีประสิทธิภาพ 3) ด้านนักเรียนไม่

สามารถนาสิ่งที่เรียนรู้ในหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมไปพัฒนาสร้างนวัตกรรมนาไปใช้สร้างอาชีพได้จริง

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ พบว่า 2.1) ได้รูปแบบการเรียนรู้บูรณา

การแบบ STEAM ร่วมกับทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์

นวัตกรรมทางเทคโนโลยี วิชาเครื่องขยายเสียง เรื่อง Bluetooth Speaker จากวัสดุเหลือใช้ใน

ท้องถิ่น สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีองค์ประกอบประกอบด้วย องค์ประกอบ 3

องค์ประกอบ คือองค์ประกอบด้านหลักการและวัตถุประสงค์องค์ประกอบด้านกระบวนการและ

องค์ประกอบด้านเงื่อนไข และได้กระบวนการขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้น

กระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นสารวจและค้นหา 3) ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป 4) ขั้นสร้างสรรค์ผลผลิต

ของความเข้าใจ และ 5) ขั้นสะท้อนผลผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ และ 2.2) ผลการพัฒนารูปแบบการ

เรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM พบว่า การทดลองแบบรายบุคคล มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ

90.56/85.56 การทดลองแบบกลุ่มเล็กมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 89.72/72.78 และการทดลองแบบ

ภาคสนาม มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 90.88/84.44

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM ร่วมกับทฤษฎีการสร้าง

องค์ความรู้ด้วยตนเองเพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี วิชาเครื่องขยายเสียง

เรื่อง Bluetooth Speaker จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น พบว่า 3.1) รูปแบบการเรียนรู้จากการ

ทดลองกับกลุ่มตัวอย่างมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.10/83.89 3.2) ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบ

การเรียนรู้ มีค่าเท่ากับ 0.68 ซึ่งหมายความว่านักเรียนที่ได้เรียนรู้ด้วยรูปแบบ มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น

0.68 หรือ คิดเป็นร้อยละ 68.00

4. ผลการประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM ร่วมกับทฤษฎีการสร้าง

องค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี วิชาเครื่องขยาย

เสียง เรื่อง Bluetooth Speaker จากวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น พบว่า 4.1) หลังใช้รูปแบบนักเรียนมี

ทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี วิชาเครื่องขยายเสียง เรื่อง Bluetooth Speaker จาก

วัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4.2)

นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการเรียนรู้บูรณาการแบบ STEAM ร่วมกับทฤษฎีการสร้าง

องค์ความรู้ด้วยตนเอง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูกร : [6 มิ.ย. 2567 (20:36 น.)]
อ่าน [1364] ไอพี : 182.52.51.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,908 ครั้ง
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต

เปิดอ่าน 14,335 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

เปิดอ่าน 8,987 ครั้ง
มิวสิควิดีโอเพลง ดีใจได้เรียนฟรี ลุงตู่จัดให้ [Official MV]
มิวสิควิดีโอเพลง ดีใจได้เรียนฟรี ลุงตู่จัดให้ [Official MV]

เปิดอ่าน 45,749 ครั้ง
อารยธรรมกรีกโบราณ
อารยธรรมกรีกโบราณ

เปิดอ่าน 104,180 ครั้ง
กรีฑา (Athletics)
กรีฑา (Athletics)

เปิดอ่าน 26,243 ครั้ง
"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย" จากสไลด์ประกอบการประชุมมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย" จากสไลด์ประกอบการประชุมมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 19,488 ครั้ง
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562
แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา โดย คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา พฤษภาคม 2562

เปิดอ่าน 14,366 ครั้ง
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี
คนแบบไหนที่ต้องการวิตามินซี

เปิดอ่าน 12,363 ครั้ง
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ
การศึกษาไทยหลายเรื่องคงต้องพึ่ง ม. 44 จริงๆ

เปิดอ่าน 11,823 ครั้ง
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า
"Li-Fi" เน็ตไร้สายเร็วกว่าไว-ไฟ100เท่า

เปิดอ่าน 21,592 ครั้ง
วิธีจำแบบใหม่ ใน 1 นาที
วิธีจำแบบใหม่ ใน 1 นาที

เปิดอ่าน 16,945 ครั้ง
วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม
วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม

เปิดอ่าน 21,220 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ

เปิดอ่าน 10,994 ครั้ง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง

เปิดอ่าน 20,401 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

เปิดอ่าน 42,419 ครั้ง
มาดูซิว่า คนญี่ปุ่นฝึกเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพ มีมารยาทและระเบียบวินัยได้อย่างไร?
มาดูซิว่า คนญี่ปุ่นฝึกเด็กให้เป็นคนมีคุณภาพ มีมารยาทและระเบียบวินัยได้อย่างไร?
เปิดอ่าน 34,760 ครั้ง
วิธีทำกระทง
วิธีทำกระทง
เปิดอ่าน 9,684 ครั้ง
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร
เปิดอ่าน 14,627 ครั้ง
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี
ทาครีมบำรุงอย่างไร ให้ถูกวิธี
เปิดอ่าน 11,409 ครั้ง
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ