ผู้จัดทำ 1. นางสาววริศรากรณ์ ศรีโนนม่วง
2. นางสาวกรพิณ พิศนอก
3. นางสาวนิชกานต์ นครวงษ์
อาจารย์ที่ปรึกษา คุณครูอัจฉรีวรรณ ประดิษฐวงษ์ และ คุณครูสราลี จันทรศร
โครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ช่วงชั้นที่ 4 (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6)
โรงเรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านม่วง สังกัดเทศบาล ตำบลแก่งคอย 140 ถ.ถวิลวัฒนา
อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี 18110 โทรศัพท์ (036) 251918
บทคัดย่อ
ในวันที่ 6 ธันวาคม 2566 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียน สงกรานต์ในประเทศไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ที่จับต้องไม่ได้ อีกทั้งในปีพุทธศักราช 2567 รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณี
ทุกแขนง และสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์หรือ Soft Power ของประเทศ โดยส่งเสริมให้สงกรานต์
ของประเทศไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอันจะสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน
จากความสำคัญดังกล่าวทำให้พวกเราเกิดความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ โดยอาศัยการสอบถาม การสัมภาษณ์ สืบค้นข้อมูลบทเรียนทางประเพณีวัฒนธรรม สื่อการเรียนรู้ที่มีในชุมชน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์
คำว่าสงกรานต์ หมายถึง การโคจรของดวงอาทิตย์ หรือดาวนพเคราะห์จากราศีหนึ่งไปสู่อีกราศีหนึ่ง จะเห็นได้ว่าความหมายดั้งเดิมของคำว่าสงกรานต์ไม่ได้หมายถึงวันขึ้นปีใหม่แต่อย่างใด การกำหนดวันสงกรานต์
มีอยู่ 3 วัน ได้แก่ วันมหาสงกรานต์ วันเนา และวันเถลิงศก ตามลำดับ ในอดีตนั้นโหรต้องคำนวณวันสงกรานต์
เพื่อประกาศให้ประชาชนทราบ โดยประกาศเป็นวันข้างขึ้น ข้างแรมตามระบบปฏิทินจันทรคติ ในภายหลัง
ทางราชการเห็นว่าวันมหาสงกรานต์มักจะอยู่ในช่วงวันที่ 11-13 เมษายน จึงได้กำหนดให้วันที่ 13 เมษายน
เป็นวันสงกรานต์ เพื่อความสะดวกในการกำหนดวันหยุดราชการ สำหรับตำนานสงกรานต์ที่แพร่หลายอยู่
ในประเทศไทยนั้น พบว่าหลักฐานลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดคือจารึกเรื่องมหาสงกรานต์ ที่ประดับอยู่
ณ คอสองในประธานของศาลาล้อมพระมณฑปทิศเหนือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เนื้อหากล่าวถึงท้าวกบิลพรหมลงมาทายปริศนา 3 ข้อ แก่ธรรมบาลกุมารและธรรมบาลกุมารได้ยินนกสองผัวเมียสนทนาเกี่ยวกับปริศนาดังกล่าวและเฉลยว่า เวลาเช้าศรีอยู่ที่หน้าคนทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างหน้า เวลาเที่ยงศรีอยู่ที่อก คนทั้งหลายจึงเอาเครื่องหอมประพรมอก และเวลาเย็นศรีอยู่ที่เท้า คนทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้าก่อนเข้านอน จึงทำให้ท้าวกบิลพรหมต้องตัดศีรษะตนเองในที่สุด แต่ก่อนจะตัดศีรษะท้าวกบิลพรหมก็ได้เรียกนางธิดาทั้งเจ็ดของตนที่มาสั่งเสียว่าศีรษะตนนั้นหากตั้งไว้ในแผ่นดินไฟก็ไหม้ทั่วโลก หากทิ้งในอากาศฝนก็จะแล้ง ถ้าทิ้งในมหาสมุทรน้ำก็จะแห้ง ดังนั้นจึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับศีรษะที่ถูกตัดแล้วนำไปแห่รอบเขาพระสุเมรุ จากนั้นก็อัญเชิญไปประดิษฐานที่มณฑปถํ้าคันธุลีเขาไกรลาสครั้นถึง 365 วัน ซึ่งโลกสมมุติว่าเป็นปีหนึ่งเวียนมาถึงวันมหาสงกรานต์ เทพธิดาทั้งเจ็ด ก็จะทรงพาหนะต่าง ๆ ผลัดเวรกันมาเชิญพระเศียร ของบิดาออกแห่ โดยเทพธิดาทั้งเจ็ดนี้ปรากฏในวันมหาสงกรานต์เป็นประจำ จึงชื่อว่า นางสงกรานต์ ปัจจุบันแม้ประเพณีสงกรานต์ในหลายท้องที่จะมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่ทุกภูมิภาคก็ยังมีแก่นสาระของประเพณีสงกรานต์เดียวกัน ทำให้สงกรานต์ในประเทศไทยมีความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลาย
2. กิจกรรม Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567
เป็นกิจกรรมที่รัฐบาลร่วมเฉลิมฉลองที่ UNESCO ประกาศให้สงกรานต์ในไทยขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยจัดงานในวันที่ 11-15 เมษายน 2567 ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลางและท้องสนามหลวง โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดกิจกรรมขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์ และการจัดกิจกรรมบริเวณพื้นที่ท้องสนามหลวง จากรายงานของผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำเร็จโดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 784,883 คน แบ่งเป็นสัดส่วนชาวไทยร้อยละ 88 และชาวต่างชาติ ร้อยละ 12 และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมทั้งสิ้น 5 วันจำนวน 2,886.82 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นกระแสเงินหมุนเวียนทางตรง 951.04 ล้านบาท และทางอ้อม 1,935.78 ล้านบาท ทั้งนี้จากการสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว ตลอดระยะเวลาการจัดงาน พบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ พึงพอใจในการจัดงานระดับมากที่สุด และสิ่งของสำคัญ (item) ที่ใช้ในสงกรานต์ คือ ปืนฉีดน้ำ หมวก เสื้อลายดอก สร้อยคอมะลิ กิ๊บรูปดอกไม้ แว่นตากันน้ำ ครีมกันแดด รองเท้าแตะกันลื่น ซองกันน้ำ น้ำอบ และดินสอพอง
3. การร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์อย่างหลากหลาย คือ 1) การร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ พวกเราได้เข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ตามท้องถิ่นที่อาศัย ประกอบด้วย ร่วมกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ กิจกรรมสรงน้ำพระ ล้างเท้าพ่อและแม่ พบปะญาติมิตร และเล่นสาดน้ำสงกรานต์ 2) ทำสื่อเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ ประกอบด้วย ทำกล่องเล่าตำนานสงกราต์ หนังสือสามมิติสงกรานต์ 4 ภาค หนังสือสามมิติกิจกรรมวันสงกรานต์ กล่องต่อภาพนางสงกรานต์ วงกลมนักษัตร 12 ราศี บิงโกสงกรานต์ ป้ายไอเทมฮิตสงกรานต์ ปี 2567 3) การทำสติกเกอร์ไลน์เกี่ยวกับวันสงกรานต์จำหน่าย 4) กิจกรรมการตอบคำถามแบบทดสอบออนไลน์ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาร่วมทำกิจกรรมทำแบบทดสอบ และ 5) เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ ภายใน ภายนอกโรงเรียน และชุมชนในกิจกรรมของเทศบาลเมืองแก่งคอย