ครูบ้านนอก

เด็กวัย 2–5 ปีถือเป็นวัยทองของภาษา พัฒนาการของพวกเขาจะเจริญงอกงามอย่างมาก ซึ่งถ้าเด็กวัยนี้ ได้รับการส่ง เสริมอย่างถูกต้องและเพียงพอ จะทำให้การเรียนรู้ของเด็กพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว แต่มีเด็กจำนวน มากไม่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการด้านนี้จากบ้านและโรงเรียนเท่าที่ควร ทำให้เด็กขาดประสบการณ์ทางภาษา เด็กวัยนี้มักจะถูกมองว่ายังไม่มีความสามารถในการอ่านและการเขียน ทั้งที่ในความเป็นจริงการเรียนรู้ของเด็กเริ่ม ตั้งแต่อายุยังน้อย และเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องพัฒนามาพร้อมกับการเรียนรู้ภาษาพูด ไม่จำเป็นต้องพูดได้คล่อง ก่อน ถึงจะมาเรียนการอ่านและการเขียน ปัจจุบันมีโรงเรียนอนุบาลหลายแห่งที่จัดประสบการณ์แบบเตรียมความ พร้อม มักให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทักษะการฟังและการพูดมาก แต่ค่อนข้างละเลยเรื่องตัวอักษรและเสียง บางแห่งไม่จัดประสบการณ์ให้เด็กได้อ่านเขียนเลย เด็กได้รับประสบ การณ์การอ่านการเขียนน้อยมาก

เด็กวัยนี้ควรเรียนรู้ ภาษาจากกิจกรรมที่สอดคล้องกับธรรมชาติและพัฒนาการของเด็ก เช่น การเคลื่อนไหว การท่องคำคล้องจอง การ ร้องเพลง ฯลฯ การเรียนอ่านเขียนเกิดจากการที่เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เด็กสนใจในชีวิตประจำวัน การตอบสนองที่ดีจากบุคคลอื่น การเสริมแรงจากผู้ใหญ่และควรเกิดจากความสนใจของเด็กเองไม่ใช่การถูกบังคับ ซึ่งผู้ใหญ่มีหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมสร้างแรงจูงใจให้เด็กสนใจจนสามารถอ่านเขียนได้ การส่งเสริมให้เด็ก เกิดความสนใจในการอ่านเขียน จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความสนใจเป็นรากฐานที่สำคัญที่จะทำให้คนเรามีความ ตั้งใจต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้บุคคลมีความ สามารถทำกิจกรรมนั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าสามารถ สร้างความสนใจให้กับเด็กอย่างได้ผลแล้ว ก็จะทำให้เด็กตั้งใจฝึกทักษะนั้นๆได้อย่างจริงจัง ทั้งยังสามารถปฏิบัติ กิจกรรมได้นาน มีความมั่นใจจนเกิดเป็นนิสัยขึ้นมา

และเมื่อเด็กเลื่อนขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จะต้องพบกับตรวจสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียน ทั้งในด้านการอ่านรู้เรื่อง และการอ่านออกเสียง (RT) อีกทั้งปัจจุบันผู้ปกครองมีความคาดหวังในการจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นปฐมวัย โดยอยากให้บุตรหลานอ่านออกและเขียนได้ คิดเลขเป็น จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมมนการปูพื้นฐานทักษะภาษาไทยไว้เพื่อให้ครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้ต่อยอดทักษะภาษาไทยต่อไป

จากปัญหาดังกล่าว ครูผู้สอนต้องการให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรื้นฐานในวิชาภาษาไทย จึงทำการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบบูรณา เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดี ต่อวิชาภาษาไทย มีความสนุกในการเรียนต่อไป โดยกลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ จำนวน ๘ คน จัดการเรียนการสอนหน่วยการเรียนรู้ต่างๆโดยบูรณาการกับทักษะภาษาไทย

จุดประสงค์และเป้าหมายของผลงาน

จุดประสงค์

๑) เพื่อพัฒนาทักษะภาษาไทยของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น

๒) เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาไทย และนักเรียนสามารถอ่านคำภาษาไทยอย่างง่ายได้

๓) เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาต่อการจดจำตัวพยัญชนะภาษาไทยได้มากขึ้น

๔) เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

๕) เพื่อให้นักเรียนมีวินัย รู้จักการรอคอย และสามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันได้

เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

๑) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ ร้อยละ ทักษะภาษาไทยของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น

๒) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ ร้อยละ อ่านคำภาษาไทยอย่างง่ายได้

๓) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ ร้อยละ ๘๐ มีทักษะภาษาไทยดีขึ้น สามารถจดจำตัวพยัญชนะ ไทย ก – ฮ ได้มากขึ้น

๔) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ ร้อยละ ๘๐ มีวินัย รู้จักการรอคอย และสามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันได้

เชิงคุณภาพ

นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ มีทักษะทางภาษาที่ดีขึ้น อ่านคำภาษาไทยอย่างง่ายได้ สามารถจดจำตัวพยัญชนะ ไทย ก – ฮ ได้มากขึ้น มีวินัย รู้จักการรอคอย และสามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันได้

ขั้นตอนการดำเนินงาน

จัดกิจกรรมแบบบูรณาการการเรียนรู้ โดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA กระบวนการ PLC และการ จัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการการจัดการเรียนการสอนแบบ 5Es

P (Plan) การวางแผน การมีส่วนร่วมการวางแผน โดยใช้ กระบวนการ PLC

- กำหนดประชุมคณะครูเพื่อเสนอปัญหา และร่วมกันวางแผน

- วางแผนออกแบบและกำหนดปฏิทิน การดำเนินงาน

D (Do) การปฏิบัติ กำหนดวิธีการจัดการเรียนรู้โดย ใช้กระบวนการการจัดการเรียน การสอนแบบ ๕Es

- วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับ ปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๖๐)

-วิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มาตรฐานการเรียนรู้และตัวบ่งชี้ (ฉบับ ปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕๖๐)

- สำรวจสภาพข้อมูลพื้นฐาน วิเคราะห์ ผู้เรียนรายบุคคล เพื่อการจัดการ เรียนรู้ให้เต็มตามศักยภาพ

- จัดทำแผนบูรณาการทักษะภาษาไทยร่วมกับหน่วยการจัดการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ที่เลือกไว้

- สร้างเกมจับคู่ภาพกับตัวพยัญชนะภาษาไทย ก–ฮ ประกอบการจัดการเรียนการสอน

- สร้างแบบฝึกอ่าน (แบบเรียนเร็ว ภาษาไทย)ประกอบการจัดการเรียนการสอน

- ออกแบบ แบบฝึกทักษะภาษาไทย ประกอบการจัดการเรียนการสอน

- ปฏิบัติกิจกรรมและจัดการเรียนรู้ ตามที่วางแผนและออกแบบไว้

- ออกแบบตารางบันทึกคะแนน สอบอ่านภาษาไทย ก่อนเรียนและหลังเรียน

C (Check) การตรวจสอบและ ประเมินผล ตรวจสอบและประเมินผล โดยใช้กระบวนการ PLC และแบบทดสอบง่ายๆ

- ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบ ประเมินผล และ วิเคราะห์ผลการจัดกิจกรรม

- สรุปและรายงานโครงการ

A (Action) การปรับปรุงแก้ไข การวิเคราะห์ปัญหา/อุปสรรค วิธีการแก้ไข โดยใช้กระบวนการ PLC

-นำผลการประเมินมาวิเคราะห์ ร่วมกัน เพื่อที่จะได้นำไปเป็นข้อมูล ในการวางแผนพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป

ผลการดำเนินงาน ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ได้รับ

ผลการดำเนินงาน จากผลการดำเนินงานโดยใช้การจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ เป็นนวัตกรรมประกอบการจัดการเรียนการสอน พบว่า นักเรียนมีทักษะกระบวนการคิดและมีเจตคติที่ดี ต่อวิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้น มีค่าเฉลี่ยคะแนนที่เพิ่มขึ้นจากการทดสอบการอ่านหลังเรียน

ผลสัมฤทธิ์

แสดงผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน เมื่อใช้การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ เป็นนวัตกรรมสอดแทรกตามหน่วยการเรียนรู้ต่างๆ พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียน มีค่าเท่ากับ ๓.๐๐คะแนน และค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียน ค่าเท่ากับ ๑๓.๑๒ คะแนน และมีผลต่างของคะแนนสอบที่เพิ่มขึ้น ๑๐.๑๒ คะแนนตาราง ผลการทดสอบการอ่านก่อนและหลังเรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมแบบบูรณาการเป็นนวัตกรรม ในการจัดการเรียนการสอน

ประโยชน์ที่ได้รับ

๑) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ มีทักษะภาษาไทยของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น

๒) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ มีอ่านคำภาษาไทยอย่างง่ายได้

๓) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ มีทักษะภาษาไทยดีขึ้น สามารถจดจำตัวพยัญชนะ ไทย ก – ฮ ได้มากขึ้น

๔) นักเรียนระดับชั้นอนุบาลที่ ๓ มีวินัย รู้จักการรอคอย และสามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันได้

ปัจจัยความสำเร็จ

๑ ผู้อำนวยการโรงเรียนให้ความสำคัญ ส่งเสริมให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนการพัฒนา ระบบงาน

๒ ครูมีส่วนร่วม มุ่งมั่นตั้งใจจริงและทุ่มเท ทั้งแรงกายแรงใจเพื่อพัฒนานักเรียน เป็นแบบอย่างที่ ดีให้กับนักเรียน เอาใจใส่และให้คำแนะนำที่ดีแก่นักเรียน

๓ นักเรียนให้ความร่วมมือ และมีความพร้อมในร่วมกิจกรรมอย่างเต็มที่

๔ ความพร้อมของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม

๕ ผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมและความตั้งใจที่นำประสบการณ์การทำงานมาพัฒนา ปรับปรุง ระบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง

บทเรียนที่ได้รับ

๑ การใช้การจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ เป็นนวัตกรรมประกอบการจัดการเรียนการสอน ทำให้นักเรียน เกิดความสนุกสนาน อีกทั้งยังส่งผลให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากยิ่งขึ้น

๒ การใช้ใช้การจัดกิจกรรมแบบบูรณาการ เป็นนวัตกรรมประกอบการจัดการเรียนการสอนไม่เพียงแต่ใช้ ได้ผลในการเรียนรู้ภาษาไทยเท่านั้น สามารถนำไปพัฒนาต่อยอด และนำไปใช้ประกอบการสอนได้ในทุกหน่วยการเรียนรู้ ทุกวิชา

เว็บน่าสนใจ