ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่อง รูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียน

สระกระโจมโสภณพิทยา

ผู้วิจัย นางสาวขนิษฐา พลายเพ็ชร์

ปีที่ทำวิจัย ปีการศึกษา 2564–2565 (นำผลการวิจัยมาคิดค้น ปรับเปลี่ยนนวัตกรรมทางการบริหาร ช่วง ธ.ค.65 - เม.ย.66 แล้วนำนวัตกรรมที่ปรับเปลี่ยนไปใช้ในปีการศึกษา 2566 สิ้นปีทำการรายงานผล)

บทคัดย่อ

รูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา ประเมินรูปแบบการนิเทศภายในฯ ประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของการนิเทศภายในฯ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้ปฏิบัติหน้าที่สอนในโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา จำนวน 27 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร 2 คน และครู 25 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลการสนทนากลุ่ม (Focus group) เกี่ยวกับรูปแบบการนิเทศของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยาในอนาคต จำนวน 15 คน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ จำนวน 15 คน และกลุ่มผู้ร่วมสนทนากลุ่มของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา จำนวน 10 คน มีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาและสำรวจข้อมูลเบื้องต้น เพื่อนำมาพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบยืนยันรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา และขั้นตอนที่ 3 การประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา เครื่องมือที่ใช้เก็บรวมรวมข้อมูลในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายใน ฯ แบบประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบการนิเทศภายในฯ

ผลการวิจัย พบว่า 1) รูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา ประกอบด้วยกระบวนการ 8 ด้าน 60 องค์ประกอบ ได้แก่ ด้านการวิเคราะห์สภาพความต้องการของการนิเทศภายในที่เป็นไปตามบริบทของสถานศึกษา 6 องค์ประกอบ ด้านการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก 6 องค์ประกอบ ด้านการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม 8 องค์ประกอบ ด้านการเสริมสร้างประสบการณ์ทางวิชาชีพและการสาธิตรูปแบบการสอน 10 องค์ประกอบ ด้านการร่วมคิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้/ กิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 7 องค์ประกอบ ด้านการพัฒนาหลักสูตร 10 องค์ประกอบ ด้านการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน 7 องค์ประกอบ และด้านการติดตาม ประเมินผลตลอดกระบวนการ 6 องค์ประกอบ 2) ผลการตรวจสอบรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา มีความเหมาะสมสามารถนำไปปฏิบัติได้และมีองค์ประกอบเหมือนกับองค์ประกอบที่สร้างขึ้นตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และ 3) ผลการประเมินความเป็นไปได้ของรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อการพัฒนาการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนสระกระโจมโสภณพิทยา โดยภาพรวม พบว่า มีความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก มีความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด

Title: The Internal Supervision Model for Sustainable Education Development of Srakrajomsophonpittaya School

Researcher Khanittha Phlaiphet

Research year: 2021 – 2022 (The internal supervision was developed and first implemented during December 2021 – April 2022 then redeveloped for second implementation in academic year of 2022)

This research aims to developed an internal supervision model for sustainable education development of Srakrajomsophonpittaya school and assessing its feasibility and usefulness. The research population consisted of 27 people, including two administrators and twenty-five teachers from Srakrajomsophonpittaya School. The sample group in this research consisted of (1) 15 people who provided information about the future models of supervision in the focus group, (2) the expert group of 15 people who provided information from interviews, and (3) a group of 10 people who participated in the discussion group and were members of Srakrajomsophonpittaya School. The study was conducted in 3 steps: (1) Investigation and collection of preliminary data to develop an internal supervision model for sustainable education development of Srakrajomsophonpittaya school. (2) Review and validate an internal supervision model, and (3) Evaluation of the feasibility and usefulness of an internal supervision model for sustainable education development of Srakrajomsophonpittaya school. The instruments used to collect the research data were interview forms and questionnaires on the development of the supervision model and a questionnaire to assess the feasibility and usefulness of the supervision model.

The research results showed that 1) an internal supervision model for sustainable education development of Srakrajomsophonpittaya school, consisted of 8 aspects, and 60 components, namely, the analysis of the need for internal supervision (6), building knowledge, understanding, and awareness (6), the development of working skills in groups (8), the improvement of professional experience and demonstration of teaching (10), the exchange of ideas and knowledge in a professional learning community (7), curriculum development (10), classroom action research (7), and the follow-up of the whole process (6). 2) The examination of an internal supervision model reveals that the model is appropriate, feasible, and has the same composition as those established by the experts. 3) The assessment of an internal supervision model showed that the feasibility of the model is at a high level also the usefulness of the model is at the highest level.

เว็บน่าสนใจ