ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Best Practice เรื่องการจัดการเรียนรู้รูปแบบเชิงรุก (active learning) ส่งเสริมทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยในรายวิชาพลศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้กระบวนการ 3 กำลัง ส Model

1 ความสำคัญของผลงาน

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวถึงการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ว่าผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนบทบาทตนเองจากากรผู้บรรยายเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันออกแบบกิจกรรมการจัดกระบวนการเรียนรู้ (Pedagogy) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองโดยผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวก และแนะนำการเข้าถึงองค์ความรู้ ด้วยวิธีการต่างๆและนำความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนในห้องเรียน ซึ่งกระบวนการเรียนรู้นั้นเรียกว่า Active Learning

ข้าพเจ้าปฏิบัติการสอนในโรงเรียนวัดปัญจทายิกาวาส โดยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการสอน วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จึงต้องการส่งเสริมการไหว้ครูมวยไทยในรายวิชาพลศึกษากับการเรียนเนื้อหา โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ 3 กำลัง ส Model ถูกออกแบบตามฐานความเชื่อเรื่องมนุษย์นิยม ปฏิรูปนิยม อัตถิสภาวะนิยม และพิพัฒนาการนิยม โดยมีความผสมผสานของ เเนวคิดหลายทฤษฎี เช่น การสอนแบบเกม การสอนแบบสถานการณ์จำลอง การสอนแบบลงมือปฏิบัติ(Learning by doing) การสอนแบบร่วมมือ(Cooperative) เป็นต้น เพื่อนำไปสู่ความเหมาะสมกับผู้เรียนโดย ปรารถนาเป็นนวัตกรรมเชิงกระบวนการเรียนรู้ อย่างเหมาะสมกับการศึกษาของไทย ที่สามารถใช้ได้ทั้งในห้องกิจกรรมและห้องเรียน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข มีความคิดสร้างสรรค์ โดยอาศัยการร่วมมือระหว่างผู้เรียนด้วยกัน ในการนี้ ครูต้องลดบทบาทในการสอนและการให้ข้อความรู้แก่ผู้เรียนโดยตรง แต่ไปเพิ่มกระบวนการและกิจกรรมที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการจะทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยการสาธิต การแนะนำแนวทาง(Coach) นักเรียนได้ปฏิบัติตาม ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์ปัจจุบัน

2 วัตถุประสงค์และเป้าหมายของผลงาน

1 เพื่อให้นักเรียนมีทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยในรายวิชาพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 1 ปีการศึกษา 2566

2 เพื่อนำกระบวนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบ 3 กำลัง ส Model มาใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติได้ โดยเปลี่ยนครูเป็น Coach เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน

3 เพื่อให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของกีฬามวยไทยและต้องการอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป

3 วิธีการและขั้นตอนการดำเนินการศึกษา แผนภูมิแสดงขั้นตอนการดำเนินงานการศึกษาการส่งเสริมทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยในรายวิชาพลศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ใช้กระบวนการเรียนการสอนรูปแบบ 3 กำลัง ส Model

1 Plan หรือ ขั้นการวางแผน

1) ศึกษาหลักสูตรแกนกลาง หลักสูตรสถานศึกษา จุดเน้น นโยบาย

2) ศึกษาวิธีการ กระบวนการเรียนการสอนรูปแบบ 3 กำลัง ส Model

3) วิเคราะห์ข้อมูลความรู้พื้นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายและความพร้อมในการเรียนรู้

4) จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้

รวบรวมเพลงสนุก เพื่อกระตุ้นความสนใจนักเรียน

2 Do หรือ ขั้นดำเนินงาน

1)ทดสอบจังหวะของเพลง โดยกระบวนการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning) ให้ผู้เรียนวิเคราะห์นับจังหวะไปด้วยกัน

2)การยืนยันคุณภาพของรูปแบบในด้านความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์โดยนักเรียน

3)นำแผนการจัดการเรียนรู้มาปฏิบัติจริงกับนักเรียนแล้วบันทึกผลการประเมิน

3 Check หรือ ขั้นติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล

1) ประเมินนักเรียนในการปฏิบัติในขั้นตอนการสอน

2) สรุปผลที่เกิดจากการกระบวนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ 3 กำลัง ส Model ที่นำไปใช้ในแผนการจัดการเรียนรู้มาใช้กับนักเรียน

4 Action หรือ ขั้นพัฒนา ปรับปรุง แก้ไข

1)การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ให้มีความน่าสนใจมากขึ้นให้เป็นไปตามความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครอง

2)จัดทำแบบการฝึกพื้นฐานกีฬามวยไทย มุ่งสู่การพัฒนาเพื่อการแข่งขัน

4 การดำเนินการในสร้างเครื่องมือ

ผู้สอนได้กำหนดขั้นตอนในการดำเนินการสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการสอนตามลำดับ ดังนี้

1 วางแผนแนวทางจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ 3 กำลัง ส Model โดยต้องสามารถพัฒนาทั้งด้านความรู้ความเข้าใจและการปฏิบัติทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทย

2 ศึกษา ค้นคว้าเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ได้มีการปรับปรุง และได้เลือก สื่อการเรียนรู้ทาง มีหลักการใช้ คือ สื่อจะต้องสอดคล้องกับเนื้อหาเหมาะสมกับกลุ่มของผู้เรียน และยังมีความแปลกใหม่ทันสมัย โดยผู้สอนได้นำ เพลงที่มีจังหวะสนุกสนานทำให้นักเรียนมีความสนใจในการออกท่าทางของกีฬามวยไทยเพื่อให้นักเรียนเห็นคุณค่าของศิลปะการต่อสู้มวยไทยมากยิ่งขึ้น

1) ออกแบบจัดการเรียนรู้ โดยสร้างให้สอดคล้องกับประเด็นวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม

2) สร้างแบบประเมินเพื่อวัดผลประเมินทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทย ที่สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาพลศึกษาครั้งนี้ เพื่อเน้นการพัฒนาทักษะมวยไทยให้กับนักเรียน โดยทักษะที่ได้เลือกมามีดังนี้

ทักษะการใช้มัด

ทักษะการใช้เท้า

ทักษะการใช้เข่า

ทักษะการใช้ศอก

3) สร้างแบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มของนักเรียน

5 การจัดการเรียนรู้

การออกแบบการจัดการเรียนการสอนที่ครูผู้สอนครั้งนี้ได้นำการเรียนรู้รูปแบบ 3 กำลัง ส Model มาประยุกต์ใช้การสอนกีฬามวยไทยในรายพลศึกษา ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เนื่องจากเป็นการเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติจริง เน้นการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ คือภายหลังสิ้นสุดการจัดการเรียนการสอนผู้เรียนสามารถลงมือปฏิบัติด้วยตนเองได้

1 ขั้นเตรียมการ (ขั้นสนุก)

1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่มเท่าๆกัน และเข้าแถวเป็นสี่เหลี่ยม ให้ครูอยู่ตรงกลาง และนำยืดเหยียดร่างกาย

2 ครูทบทวนทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยทั้ง 4 ทักษะ โดยการสุ่มให้นักเรียนทั้ง 4 กลุ่มปฏิบัติไปพร้อมๆกันทั้งกลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ปฏิบัติทักษะการใช้หมัด

กลุ่มที่ 2 ปฏิบัติทักษะการใช้เข่า

กลุ่มที่ 3 ปฏิบัติทักษะการใช้ศอก

กลุ่มที่ 4 ปฏิบัติทักษะการใช้เท้า

3 ครูเล่นเกมส์ ส่งของ โดยมีของ 2 ชิ้น นักเรียนทุกคนร่วมกันร้องเพลง นกกระยางกับนักเรียน เมื่อเพลงหยุดแล้วของอยู่ที่ใคร ให้ทั้งสองคนออกมาแสดงทักษะกีฬามวยไทยตามที่ครูกำหนด

2.ขั้นสอน (ขั้นสุข)

1 ครูสาธิต การใช้ทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยทั้ง 4 ทักษะอีกรอบ

2 ครูสาธิต ทักษะพื้นฐานประกอบกับจังหวะเพลงสนุกๆ

3 ครูให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ ไม่เกิน 5 คน

4 ให้นักเรียน จับฉลากเพลงที่ครูเตรียมมา

5 เมื่อนักเรียนได้เพลงแล้วให้นักเรียนกลับไปกลุ่มและทำกิจกรรมกลุ่มต่อไป

6 นักเรียนฝึกซ้อมทักษะพื้นฐานประกอบดนตรี (20 นาที)

3 ขั้นสรุปบทเรียนและประเมินผลการทำงานกลุ่ม (ขั้นสร้างสรรค์)

1 นักเรียนแสดงทักษะพื้นฐานประกอบเพลงที่ได้จับฉลากไป ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที

2 นักเรียนสามารถอธิบายท่าทางที่ตนเองแสดงไปได้ หลังจากจบการแสดง

3 นักเรียนร่วมกันบอกประโยชน์ของทักษะพื้นฐานที่แสดงไป

6 ประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 คน มีทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยได้โดยลงมือปฏิบัติด้วยตนเองและเห็นคุณค่าและความสำคัญของกีฬามวยไทยและต้องการอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป

7 ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์

1) นักเรียนมีทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยในรายวิชาพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ปีการศึกษา 2566

2) ครูได้นำกระบวนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบ 3 กำลัง ส Model มาใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติได้โดยเปลี่ยนครูเป็น Coach เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน

3) นักเรียนได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของกีฬามวยไทยและต้องการอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป

2 ผลสัมฤทธิ์ของงาน

นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส ประหยัดเวลาในการจัดกิจกรรมในห้องเรียนได้ดี ทบทวนบทเรียนและทำแบบฝึกหัดได้ง่ายขึ้น และครูผู้สอนสามารถนำสื่อ มาใช้จัดการเรียนการ

สอนกับนักเรียนได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3 ประโยชน์ที่ได้รับ

1. มีปฏิบัติทักษะพื้นฐานกีฬามวยไทยได้

2 นักเรียนได้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน สร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนและผู้ปกครองในเรื่องการจัดการเรียนการสอนที่เป็นผลประจักษ์

3 นักเรียนรู้คุณค่าของศิลปะการต่อสู้มวยไทยและต้องการอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป

4 ปัจจัยความสำเร็จ

1 ผู้บริหารให้การสนับสนุนอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการเรียนการสอน ทำให้การจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

2 กระบวนการจัดการสอนเพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจการเรียนรู้ของนักเรียน มีความสุขในการเรียน

3 ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนผู้ปกครอง ที่มีความสนใจในเรื่องการมวยไทย

4 นักเรียนสนใจในศิลปะการต่อสู้มวยไทย

5 บทเรียนที่ได้รับ

นักเรียนได้ศึกษาด้วยตนเองและปฏิบัติได้ ส่งผลให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส ประหยัดเวลาในการจัดกิจกรรมในห้องเรียนได้ดี ทบทวนบทเรียนและทำแบบฝึกหัดได้ง่ายขึ้น และครูผู้สอนสามารถและมีวิธีการจัดการเรียนที่มาใช้จัดการเรียนการสอนกับนักเรียนได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โพสต์โดย นางสาวฉัตราภรณ์ จุปะมะตัง : [15 พ.ค. 2567 (12:00 น.)]
อ่าน [1713] ไอพี : 1.47.18.124
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 36,033 ครั้ง
การจัดคนเข้าพักบ้านราชการ
การจัดคนเข้าพักบ้านราชการ

เปิดอ่าน 12,434 ครั้ง
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์

เปิดอ่าน 16,796 ครั้ง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง

เปิดอ่าน 11,014 ครั้ง
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 11,803 ครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง
พบวิธีการใหม่ ทำ "คนอัมพาต" เดินได้อีกครั้ง

เปิดอ่าน 14,165 ครั้ง
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ

เปิดอ่าน 7,430 ครั้ง
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน

เปิดอ่าน 37,881 ครั้ง
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ

เปิดอ่าน 21,220 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สุดยอดพืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์
"แก่นตะวัน" สุดยอดพืชมหัศจรรย์สารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 16,169 ครั้ง
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว

เปิดอ่าน 17,788 ครั้ง
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"

เปิดอ่าน 13,815 ครั้ง
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ
คลิปสาธิตวิธีการทำแจกันหลอดไฟ

เปิดอ่าน 18,585 ครั้ง
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ

เปิดอ่าน 19,108 ครั้ง
ดูให้รู้ : อนุบาลอัจฉริยะ
ดูให้รู้ : อนุบาลอัจฉริยะ

เปิดอ่าน 4,548 ครั้ง
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย
วิธีใช้ "เขียง" ให้ปลอดภัย

เปิดอ่าน 14,497 ครั้ง
แตงโมเจลลี่ หวานฉ่ำสีสันสดใส ทำง่ายนิดเดียว
แตงโมเจลลี่ หวานฉ่ำสีสันสดใส ทำง่ายนิดเดียว
เปิดอ่าน 13,520 ครั้ง
ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก
ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก
เปิดอ่าน 62,820 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย มีอะไรบ้าง?
เปิดอ่าน 14,511 ครั้ง
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
เปิดอ่าน 8,609 ครั้ง
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร
ร้อนตับแตก มีที่มาอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ