ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI)

เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย เศรษฐพันธุ์ สันวงค์

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์และแนวทางการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้ 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) 3.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) กองการศึกษา เทศบาลตำบลเมืองพาน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (ฉบับที่ 1) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง (ฉบับที่ 2) แบบวิเคราะห์ข้อมูลการสนทนากลุ่มย่อย (ฉบับที่ 3) แบบบันทึกการสนทนากลุ่มย่อยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ฉบับที่ 4) รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ คู่มือการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ แบบประเมินการปรับปรุง แก้ไขและรับรองรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ (ฉบับที่ 7) และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ฉบับที่ 8) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยโดยใช้ T-Test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพปัจจุบันปัญหาการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์และแนวทางการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากการวิเคราะห์เอกสารมีองค์ประกอบที่หลากหลาย

2. รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า “LRPGPE Model” (แอลอาร์พีจีพีอี โมเดล) ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) มี 6 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การสร้างเจตคติและแรงจูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน (Learner Attitude and Motivation to Learn Stage : L) ขั้นที่ 2 การระลึกหรือทบทวนความรู้ ความจำ ข้อมูล ความรู้เดิม (Recalling information Stage : R) ขั้นที่ 3 การนำเสนอปัญหา (Posing Open-Ended Problem Stage : P) ขั้นที่ 4 การลงมือปฏิบัติจากกรอบความคิดที่กำหนด (Guided practice Stage : G) ขั้นที่ 5 การนำเสนอผลการเรียนรู้ สรุปบทเรียน (Present the Solution and Conclusion Stage : P) และขั้นที่ 6 การประเมินผลและการนำความรู้ไปใช้ (Evaluation and Extension Stages : E) 4) การประเมินผล และ 5) ปัจจัยที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยมีค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.98/83.82 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีดังนี้

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยก่อนการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 18.59 (x̄=18.59) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.67 (S.D. = 1.67) คิดเป็นร้อยละ 61.96 และหลังการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 25.15 (x̄=25.15) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.74 (S.D. = 1.74) คิดเป็นร้อยละ 83.82

3.2 ทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการเรียนรู้ โดยก่อนการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 37.41 (x̄=37.41) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.18 (S.D. = 2.18) คิดเป็นร้อยละ 74.82 และหลังการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 41.97 (x̄=41.97) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.95 (S.D. = 1.95) คิดเป็นร้อยละ 83.94

4. ผลการประเมินและปรับปรุงรับรองรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดการสอนแนะให้รู้คิด (CGI) เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีข้อมูลที่ต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้รูปแบบมีความสมบูรณ์ และนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด

โพสต์โดย kratai : [2 พ.ค. 2567 (19:07 น.)]
อ่าน [63512] ไอพี : 101.51.192.21
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 43,962 ครั้ง
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

เปิดอ่าน 11,040 ครั้ง
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?

เปิดอ่าน 5,472 ครั้ง
พิกเซล (Pixel)
พิกเซล (Pixel)

เปิดอ่าน 53,954 ครั้ง
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)

เปิดอ่าน 26,214 ครั้ง
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.
PowerPoint ประกอบการประชุมชี้แจงการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของ กศจ.

เปิดอ่าน 17,308 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์

เปิดอ่าน 18,518 ครั้ง
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี

เปิดอ่าน 13,973 ครั้ง
หักดิบเลิกบุหรี่.. แพทย์ยืนยันได้ผลดีกว่าลด
หักดิบเลิกบุหรี่.. แพทย์ยืนยันได้ผลดีกว่าลด

เปิดอ่าน 21,927 ครั้ง
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 401 ครั้ง
กินอะไรแก้อาการแฮงค์ แนะนำ 5 สิ่งหากินง่าย ฟื้นตัวไว
กินอะไรแก้อาการแฮงค์ แนะนำ 5 สิ่งหากินง่าย ฟื้นตัวไว

เปิดอ่าน 2,718 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

เปิดอ่าน 10,579 ครั้ง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง

เปิดอ่าน 8,576 ครั้ง
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่
สอนภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องสอนคืออะไร ไขข้อข้องใจได้ที่นี่

เปิดอ่าน 16,899 ครั้ง
วลีเด็ดแห่งปี 2555
วลีเด็ดแห่งปี 2555

เปิดอ่าน 65,095 ครั้ง
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เปิดอ่าน 13,444 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
เปิดอ่าน 50,144 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. (ฉบับปรับปรุงแก้ไข)
คู่มือการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. (ฉบับปรับปรุงแก้ไข)
เปิดอ่าน 17,848 ครั้ง
คู่มือการเลือกผู้แทน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการเลือกผู้แทน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
เปิดอ่าน 17,468 ครั้ง
เจาะเทคนิค "ฝึกภาษาอังกฤษ" ทำเองได้ ไม่ยากเลย
เจาะเทคนิค "ฝึกภาษาอังกฤษ" ทำเองได้ ไม่ยากเลย
เปิดอ่าน 17,087 ครั้ง
เกร็ดควรรู้สำหรับผู้ที่จะสมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วย
เกร็ดควรรู้สำหรับผู้ที่จะสมัครสอบบรรจุครูผู้ช่วย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ