|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบ การจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถ ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีคุณตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถ ในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 31 คน ด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยของการสุ่ม (Sampling Unit) ใช้เวลาในการทดลองจำนวน 14 คาบ ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มทดลองกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลังทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน เป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การแปลงทางเรขาคณิต การเท่ากันทุกประการ เส้นขนาน และการสร้างทางเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 14 แผน 14 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งมีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.28-0.74 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ 0.97 4) แบบวัดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ 5) แบบประเมินผลงานสร้างสรรค์ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ ซึ่งมีอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.44-0.82 ค่าความเชื่อมั่น ของแบบทดสอบเท่ากับ 0.88 เครื่องมือทั้งหมดได้ผ่านการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญและปรับปรุงแก้ไขเพื่อใช้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วย t-test (Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
ผลวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้จากผู้เรียน ครู ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ควรมีให้ความรู้ มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เน้นการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายชัดเจน
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีชื่อว่า 4PEP Model มี 6 ขั้นประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ขั้นการเตรียมความพร้อม (Preparation: P) ขั้นที่ 2 ขั้นเลือกหัวข้อประเด็นปัญหา (Problems: P) ขั้นที่ 3 ขั้นวางแผนการจัดทำโครงงาน (Plan for the project: P) ขั้นที่ 4 ขั้นลงมือปฏิบัติโครงงาน (Project implementation: P ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล (Evaluating the project: E) ขั้นที่ 6 ขั้นนำเสนอผลงาน (Presentation: P) โดยที่รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนามีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.90/87.20
3. จากการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า 3.1) ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องเพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.2) ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ผลงาน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความสามารถในการสร้าง อยู่ในระดับดีเลิศขึ้นไป ได้แก่ ระดับดีเลิศและระดับยอดเยี่ยม จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 100 โดยมี จำนวนผู้เรียนที่มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมอยู่ในระดับดีเลิศ จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 83.87 และมีจำนวนผู้เรียนที่มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมอยู่ในระดับยอดเยี่ยมจำนวน 5 คน คิดเป็น ร้อยละ 16.13 และ 3.2) ผลงานสร้างสรรค์ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานสร้างสรรค์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับดี และ 3.3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครง เป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาทักษะการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ ผลงานและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก
|
โพสต์โดย ป้อม : [30 เม.ย. 2567 (10:28 น.)] อ่าน [1616] ไอพี : 101.51.54.236
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 16,577 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,017 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,241 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,284 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,786 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,155 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,593 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,545 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,270 ครั้ง
| เปิดอ่าน 142,206 ครั้ง
| เปิดอ่าน 384,455 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,244 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,330 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,819 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,122 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 17,930 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,843 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,333 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,366 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,989 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|