๑. ความสำคัญของนวัตกรรม
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม อันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระการงานและดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี สุนทรียภาพเป็นสมบัติล้ำค่าควรแก่การเรียนรู้อนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑)
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดเป้าหมายที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ นักเรียนเมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ต้องอ่านออกเขียนได้ เนื่องจากภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ทั้งในขณะที่เรียนอยู่ระดับการศึกษา และในระดับที่ซับซ้อนขึ้นเมื่อเติบใหญ่ สามารถดูแลตนเอง มีอาชีพและมีรายได้ เป็นนักคิด และเรียนรู้ตลอดชีวิต สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้กำหนดนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถอ่าน เขียน และมีทักษะการสื่อสาร เพื่อเป็นฐานในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้อื่นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพ (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๖๒)
ด้วยเหตุนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้กำหนดนโยบายในปีการศึกษา ๒๕๖๔ เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ให้เป็นไปอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายความสำเร็จไว้ เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ ทุกคน อ่านออกเขียนได้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ อ่านคล่องเขียนคล่อง และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ มีสมรรถนะการอ่านขั้นสูง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและขับเคลื่อนการศึกษาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการใช้ภาษาไทยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ตลอดจนการนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพต่อไป (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๖๔)
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต ๒ ได้ดำเนินการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test: RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนในสังกัด ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โดยใช้ข้อสอบของสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พบว่า ๑) คะแนนเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าระดับประเทศ มากกว่าร้อยละ ๕ ขึ้นไป ทั้งภาพรวมและรายด้าน ๒) ไม่มีนักเรียนอยู่ในระดับปรับปรุง ทั้งภาพรวมและรายด้าน ๓) คะแนนเฉลี่ยร้อยละได้ระดับคุณภาพดีมาก ทั้งภาพรวมและรายด้าน และ ๔) คะแนนเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าปีที่ผ่านมาทั้งภาพรวมและรายด้าน ซึ่งบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกข้อ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ การจัดการศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประสงค์ให้นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน และ
นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เมื่อจบชั้น ป.๑ ต้องอ่านออกเขียนได้และมีมาตรการประเมินผลให้เป็นรูปธรรม บรรลุผลตามเป้าหมาย และส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง จึงกำหนดนโยบายให้โรงเรียนในสังกัดพัฒนาการอ่านการเขียนโดยการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ภายในเขตพื้นที่การศึกษา และหรือใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนอ่านเขียนของโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จและส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่องมาเป็นต้นแบบ และเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน ทำการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล และให้ขวัญกำลังใจอย่างใกล้ชิด พร้อมกำกับ ติดตาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ที่มีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ อยู่ในระดับพอใช้ ในต้นปีการศึกษา ๒๕๖๖ เพื่อให้อ่านคล่องเขียนคล่องทุกคนต่อไป (กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒, ๒๕๖๖)
โรงเรียนวัดศรีประชารามเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถอ่านออกเขียนได้ ผู้บริหารโรงเรียนจึงได้มีการแจ้งนโยบายและมาตรการการดำเนินงานพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ให้ครูผู้สอนรับทราบ มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม ให้กำลังใจและข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการจัดกระบวนการเรียนการสอนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ อย่างต่อเนื่อง
จากการประเมินผลการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้แบบทดสอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ พบว่า มีนักเรียนที่มีผลการทดสอบการอ่านผ่านเกณฑ์จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๗๙ ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน ๑๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๗๑ และนักเรียนที่มีผลการทดสอบการเขียนผ่านเกณฑ์จำนวน ๒๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๑๐ ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน ๑๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๙๐ ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ กำหนด แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้สอนจึงได้นำรูปแบบการสอนแบบ E-RECAP MODEL มาใช้เพื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน ควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งได้ทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพและนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละระดับชั้นเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้นไป
๒. วัตถุประสงค์
๒.๑ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
๒.๒ เพื่อพัฒนาผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) ให้สูงกว่าระดับประเทศ
๒.๓ เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดศรีประชารามให้มีประสิทธิภาพ
เป้าหมายเชิงปริมาณ
๑) ผู้เรียนร้อยละ ๘๐ มีผลการประเมินการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยผ่านเกณฑ์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต ๒ กำหนด
๒) ผู้เรียนร้อยละ ๘๐ มีผลการประเมินการอ่านรู้เรื่องผ่านเกณฑ์ที่สำนักทดสอบทางการศึกษากำหนด
๓) ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) รวมทั้งสองด้านสูงกว่าระดับประเทศร้อยละ ๓ ขึ้นไป
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
๑) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์อยู่ในระดับดี
๒) ครูมีรูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๓. กลุ่มเป้าหมาย
ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง
๓.๑ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดศรีประชาราม อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๗๙ คน
๓.๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ โรงเรียนวัดศรีประชาราม อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๓๙ คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
๔. ผลสำเร็จของการสร้างหรือพัฒนานวัตกรรม
๑) ผู้เรียนร้อยละ ๘๘.๘๙ มีผลการประเมินการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยผ่านเกณฑ์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ กำหนด
๒) ผู้เรียนร้อยละ ๙๔.๔๔ มีผลการประเมินการอ่านรู้เรื่องผ่านเกณฑ์ที่สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) กำหนด
๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test) รวมสองด้านร้อยละ ๙๕.๐๓ ซึ่งสูงกว่าระดับประเทศร้อยละ ๑๖.๐๓ มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
๔) ครูผู้สอนมีรูปแบบการสอนอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบ E-RECAP MODEL เพื่อพัฒนาทักษะ การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการเผยแพร่โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูในโรงเรียนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละระดับชั้นซึ่งเป็นการพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานช่วงชั้น