ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบ E-RECAP MODEL

๑. ความสำคัญของนวัตกรรม

ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม อันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระการงานและดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี สุนทรียภาพเป็นสมบัติล้ำค่าควรแก่การเรียนรู้อนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑)

กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดเป้าหมายที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ นักเรียนเมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ต้องอ่านออกเขียนได้ เนื่องจากภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ทั้งในขณะที่เรียนอยู่ระดับการศึกษา และในระดับที่ซับซ้อนขึ้นเมื่อเติบใหญ่ สามารถดูแลตนเอง มีอาชีพและมีรายได้ เป็นนักคิด และเรียนรู้ตลอดชีวิต สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้กำหนดนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถอ่าน เขียน และมีทักษะการสื่อสาร เพื่อเป็นฐานในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้อื่นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพ (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๖๒)

ด้วยเหตุนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้กำหนดนโยบายในปีการศึกษา ๒๕๖๔ “เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน” เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ให้เป็นไปอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายความสำเร็จไว้ เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ ทุกคน อ่านออกเขียนได้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ อ่านคล่องเขียนคล่อง และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖ มีสมรรถนะการอ่านขั้นสูง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและขับเคลื่อนการศึกษาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการใช้ภาษาไทยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ตลอดจนการนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพต่อไป (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๖๔)

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต ๒ ได้ดำเนินการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test: RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนในสังกัด ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โดยใช้ข้อสอบของสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พบว่า ๑) คะแนนเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าระดับประเทศ มากกว่าร้อยละ ๕ ขึ้นไป ทั้งภาพรวมและรายด้าน ๒) ไม่มีนักเรียนอยู่ในระดับปรับปรุง ทั้งภาพรวมและรายด้าน ๓) คะแนนเฉลี่ยร้อยละได้ระดับคุณภาพดีมาก ทั้งภาพรวมและรายด้าน และ ๔) คะแนนเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าปีที่ผ่านมาทั้งภาพรวมและรายด้าน ซึ่งบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกข้อ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ การจัดการศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประสงค์ให้นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน “เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน” และ

นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ “นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เมื่อจบชั้น ป.๑ ต้องอ่านออกเขียนได้และมีมาตรการประเมินผลให้เป็นรูปธรรม” บรรลุผลตามเป้าหมาย และส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง จึงกำหนดนโยบายให้โรงเรียนในสังกัดพัฒนาการอ่านการเขียนโดยการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ภายในเขตพื้นที่การศึกษา และหรือใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนอ่านเขียนของโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จและส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่องมาเป็นต้นแบบ และเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน ทำการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผล และให้ขวัญกำลังใจอย่างใกล้ชิด พร้อมกำกับ ติดตาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ที่มีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test) ปีการศึกษา ๒๕๖๕ อยู่ในระดับพอใช้ ในต้นปีการศึกษา ๒๕๖๖ เพื่อให้อ่านคล่องเขียนคล่องทุกคนต่อไป (กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒, ๒๕๖๖)

โรงเรียนวัดศรีประชารามเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนให้สามารถอ่านออกเขียนได้ ผู้บริหารโรงเรียนจึงได้มีการแจ้งนโยบายและมาตรการการดำเนินงานพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ให้ครูผู้สอนรับทราบ มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม ให้กำลังใจและข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการจัดกระบวนการเรียนการสอนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ อย่างต่อเนื่อง

จากการประเมินผลการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้แบบทดสอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ พบว่า มีนักเรียนที่มีผลการทดสอบการอ่านผ่านเกณฑ์จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๗๙ ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน ๑๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๗๑ และนักเรียนที่มีผลการทดสอบการเขียนผ่านเกณฑ์จำนวน ๒๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๑๐ ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน ๑๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๙๐ ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ กำหนด แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้สอนจึงได้นำรูปแบบการสอนแบบ E-RECAP MODEL มาใช้เพื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน ควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งได้ทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๓ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพและนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละระดับชั้นเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้นไป

๒. วัตถุประสงค์

๒.๑ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียนและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

๒.๒ เพื่อพัฒนาผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) ให้สูงกว่าระดับประเทศ

๒.๓ เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดศรีประชารามให้มีประสิทธิภาพ

เป้าหมายเชิงปริมาณ

๑) ผู้เรียนร้อยละ ๘๐ มีผลการประเมินการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยผ่านเกณฑ์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต ๒ กำหนด

๒) ผู้เรียนร้อยละ ๘๐ มีผลการประเมินการอ่านรู้เรื่องผ่านเกณฑ์ที่สำนักทดสอบทางการศึกษากำหนด

๓) ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test : RT) รวมทั้งสองด้านสูงกว่าระดับประเทศร้อยละ ๓ ขึ้นไป

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

๑) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์อยู่ในระดับดี

๒) ครูมีรูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๓. กลุ่มเป้าหมาย

ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง

๓.๑ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดศรีประชาราม อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๗๙ คน

๓.๒ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ โรงเรียนวัดศรีประชาราม อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๓๙ คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling)

๔. ผลสำเร็จของการสร้างหรือพัฒนานวัตกรรม

๑) ผู้เรียนร้อยละ ๘๘.๘๙ มีผลการประเมินการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยผ่านเกณฑ์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๒ กำหนด

๒) ผู้เรียนร้อยละ ๙๔.๔๔ มีผลการประเมินการอ่านรู้เรื่องผ่านเกณฑ์ที่สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) กำหนด

๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test) รวมสองด้านร้อยละ ๙๕.๐๓ ซึ่งสูงกว่าระดับประเทศร้อยละ ๑๖.๐๓ มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

๔) ครูผู้สอนมีรูปแบบการสอนอ่านภาษาไทยโดยใช้รูปแบบ E-RECAP MODEL เพื่อพัฒนาทักษะ การอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการเผยแพร่โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูในโรงเรียนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละระดับชั้นซึ่งเป็นการพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานช่วงชั้น

โพสต์โดย ต้นอ้อ : [23 เม.ย. 2567 (12:11 น.)]
อ่าน [84] ไอพี : 49.229.172.49
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 61,568 ครั้ง
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์
แค่ถ่ายภาพเอกสารให้ตรง แล้วส่งเข้าไลน์ ก็ถอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้ ไม่ต้องพิมพ์

เปิดอ่าน 21,299 ครั้ง
กุ้งเดินขบวน Unseen in Thailand มหัศจรรย์ธรรมชาติ อ.น้ำยืน
กุ้งเดินขบวน Unseen in Thailand มหัศจรรย์ธรรมชาติ อ.น้ำยืน

เปิดอ่าน 36,576 ครั้ง
กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579)
กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579)

เปิดอ่าน 15,832 ครั้ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง
ดูกันหรือยัง? เกือบจะ 40 ล้านวิวแล้ว โฆษณาน้ำแร่ดังยี่ห้อหนึ่ง

เปิดอ่าน 10,283 ครั้ง
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

เปิดอ่าน 13,226 ครั้ง
การเลี้ยงไก่ไข่
การเลี้ยงไก่ไข่

เปิดอ่าน 10,360 ครั้ง
"เรียกเหงื่อลดโรค" คุณก็ทำได้ ทุกวัย มาดูแลใส่ใจสุขภาพกันนะ
"เรียกเหงื่อลดโรค" คุณก็ทำได้ ทุกวัย มาดูแลใส่ใจสุขภาพกันนะ

เปิดอ่าน 14,102 ครั้ง
ร่วมแชร์ คลิปสุดแนว ครูเต้นเกาหลีรับเปิดเทอม
ร่วมแชร์ คลิปสุดแนว ครูเต้นเกาหลีรับเปิดเทอม

เปิดอ่าน 4,510 ครั้ง
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล
6 ทักษะจำเป็นสู่ความสำเร็จในอนาคตยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 22,623 ครั้ง
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร
คณิตศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร

เปิดอ่าน 17,926 ครั้ง
อ.เจษฎา ชี้พระนั่งในน้ำเดือด เป็นแค่กลทางวิทยาศาสตร์
อ.เจษฎา ชี้พระนั่งในน้ำเดือด เป็นแค่กลทางวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 32,207 ครั้ง
11 ผู้นำ ... ที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดในโลก ( ยุคปัจจุบัน )
11 ผู้นำ ... ที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดในโลก ( ยุคปัจจุบัน )

เปิดอ่าน 13,117 ครั้ง
"มัลเบอร์รี่" ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
"มัลเบอร์รี่" ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013

เปิดอ่าน 19,401 ครั้ง
"ปลูกผักในต้นกล้วย"ความชุ่มฉ่ำเหลือเฟือ ไม่ต้องรดน้ำ ผักรสหวาน แถมปลอดภัย
"ปลูกผักในต้นกล้วย"ความชุ่มฉ่ำเหลือเฟือ ไม่ต้องรดน้ำ ผักรสหวาน แถมปลอดภัย

เปิดอ่าน 18,978 ครั้ง
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม

เปิดอ่าน 8,971 ครั้ง
เคล็ดลับปรุงกาแฟแคลอรีต่ำ
เคล็ดลับปรุงกาแฟแคลอรีต่ำ
เปิดอ่าน 14,468 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
เปิดอ่าน 14,617 ครั้ง
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม
เปิดอ่าน 11,974 ครั้ง
ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ใช้งานได้ฟรี ! คลิกที่นี่
ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ใช้งานได้ฟรี ! คลิกที่นี่
เปิดอ่าน 23,068 ครั้ง
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"
สรรพคุณทางยาของ "บวบหอม"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ