ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ผู้ประเมิน ชนะ สุ่มมาตย์
บทคัดย่อ
การประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงาน ความต้องการ ปัญหา และความสำเร็จของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน2) เพื่อประเมินโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ 3) เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การประเมินครั้งนี้ ใช้แนวคิดการประเมินของไมเคิล สคริฟเว่น (Michael Scriven) เป้าหมายสำคัญของการประเมินคือการตัดสินคุณค่าของโครงการ 2 ประการ คือ 1) การดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และ 2 ผลที่คาดว่าจะได้รับของโครงการ แบ่งเป็นขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการดำเนินงาน ความต้องการ ปัญหา และความสำเร็จของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขั้นตอนที่ 2 ประเมินโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และขั้นตอนที่ 3 จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการดำเนินงาน ความต้องการ ปัญหา และความสำเร็จของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการ 2 ส่วน (1) สังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ศึกษาโดยการสังเคราะห์เนื้อหา และ (2) ศึกษาสภาพการดำเนินงาน ความต้องการ ปัญหา และความสำเร็จของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมฯโดยการลงพื้นที่ภาคสนาม สัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน ขั้นตอนที่ 2 ประเมินโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 1,140 คน ประเมินคุณค่าของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ขั้นตอนที่ 3 จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยจัดประชุมปฏิบัติการผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 15 คน และ ตรวจสอบความเหมาะสมของข้อเสนอเชิงนโยบาย โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบสอบถาม แบบตรวจสอบ สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยสังเคราะห์เนื้อหา วิเคราะห์เนื้อหา แจกแจงความถี่ เรียงลำดับความสำคัญของข้อมูล และนำมาสรุปเป็นความเรียง
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมทุกด้านมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยผลการประเมินเป็นอันดับแรกและมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด คือ ด้านปัญหา รองลงมาคือ ด้านความต้องการ ด้านความสำเร็จ และด้านการดำเนินงาน ตามลำดับ สรุปผลการประเมินรายด้าน ดังนี้
1.1 ด้านการดำเนินงานของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษฯ ในภาพรวม มีคุณค่าอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยข้อที่มีคุณค่าเป็นอันดับแรกและอยู่ในระดับมากที่สุด มีคุณค่าเท่ากัน ได้แก่ ประโยชน์ที่ได้รับ กระบวนการเรียนการสอน และเรียนรวมกับนักเรียนปกติ รองลงมา ได้แก่ ร่วมนิเทศ ติดตาม ประเมินผล และใช้ทรัพยากรร่วมกัน ตามลำดับ ส่วนข้อที่เห็นว่ามีคุณค่าเป็นลำดับสุดท้าย ได้แก่ เจตคติที่ดีต่อการเรียนการสอนแบบเรียนรวม
1.2 ด้านความต้องการของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษฯ ในภาพรวม มีคุณค่าอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยข้อที่มีคุณค่าเป็นอันดับแรกและอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ส่วนข้อที่เห็นว่ามีคุณค่าเป็นลำดับสุดท้ายเท่ากัน ได้แก่สิทธิและโอกาสทางการศึกษา และพัฒนาการเรียนรู้
1.3 ด้านปัญหาของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษฯ ในภาพรวม มีคุณค่าอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยข้อที่มีคุณค่าเป็นอันดับแรกและอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ การปฏิบัติหน้าที่ครู รองลงมา ได้แก่ การจัดนักเรียนเข้าชั้นเรียน ส่วนข้อที่เห็นว่ามีคุณค่าเป็นลำดับสุดท้าย ได้แก่ จัดให้มีบริการพิเศษ
1.4 ด้านความสำเร็จของโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษฯ ในภาพรวม มีคุณค่าอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยข้อที่มีคุณค่าเป็นอันดับแรกและอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ เหมาะสมและมีคุณภาพ รองลงมา ได้แก่ บริหารจัดการได้อย่างมีคุณภาพ ส่วนข้อที่เห็นว่ามีคุณค่าเป็นลำดับสุดท้าย ได้แก่ ทั่วถึงและมีคุณภาพ
2. ข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวมให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวม มีความเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 100 ได้แก่ ข้อที่ 1 วัตถุประสงค์
ข้อที่ 2 แนวดำเนินการของข้อเสนอเชิงนโยบาย มี 4 ระดับ คือ 1) ระดับกระทรวงศึกษาธิการ 2) ระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3) ระดับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และ 4) ระดับศูนย์การศึกษาพิเศษและสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวม และข้อที่ 3 กลไกการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ
คำสำคัญ : การจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรวม, นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ,
ข้อเสนอเชิงนโยบาย