บทคัดย่อ
ชื่อรายงาน การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา นางวราจิตร พรมเกตุ
ปีการศึกษา 2566
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่ควรจะเป็นของทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมของนักเรียน (2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้รูปแบบ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้รูปแบบ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 26 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้รูปแบบ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม และแบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบค่าที ( Match paired t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1.ข้อมูลพื้นฐานในการสร้างและพัฒนาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากการสำรวจสภาพและปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาเคมีระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนธาตุพนมโดยการสัมภาษณ์ครูและนักเรียน พบว่า ครูขาดการส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และร่วมกันอภิปราย ด้านคุณลักษณะนักเรียน ยังขาดความคิดสร้างนวัตถกรรมการเรียนรู้ ด้านเนื้อหาการสอน ไม่สามารถเชื่อมโยงการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ การวัดและการประเมินผลยังไม่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
การสังเคราะห์องค์ประกอบทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ผู้วิจัยเลือกองค์ประกอบทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ที่มีความถี่ร้อยละ 70 ขึ้นไป กำหนดเป็นองค์ประกอบทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ได้ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การสื่อสารและการร่วมมือ 2) การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา และ 3) การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
ค่าดัชนีความต้องการจำเป็นในของทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมของนักเรียนค่าเฉลี่ยรวม พบว่า ค่าดัชนีความต้องการจำเป็นมีค่า PNIModified = 0.173 องค์ประกอบที่มีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นมากที่สุด คือ การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม PNIModified = 0.294 รองลงมา คือ การสื่อสารและการร่วมมือมีค่า PNIModified = 0.122 การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา PNIModified = 0.103 ตามลำดับด้านที่ค่าดัชนีความต้องการจำเป็นที่มีค่ามากกว่าค่าดัชนีความต้องการจำเป็นเฉลี่ยรวมคือ การคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม PNIModified = 0.294
2. พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย ข้อแนะนำในการใช้รูปแบบ ที่มาและความสำคัญของรูปแบบ หลักการ จุดประสงค์ เนื้อหาของรูปแบบ วิธีการพัฒนา และการนิเทศกำกับและติดตามผล
3. ผลการใช้การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันโดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทาง STEAM Education เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. การประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEAM Education โดยใช้ TP-SMART MODEL เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทาง STEAM Education เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม เรื่อง พอลิเมอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.48, S.D.=0.59)