การวิจัยเรื่อง ผลการปรับพฤติกรรมการคุยกันในชั้นเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ ๑/๒ ดวยการ เสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงทางลบในรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา มีจุดประสงคเพื่อ
1) เพื่อศึกษาผลการปรับ พฤติกรรมการคุยกันในชั้นเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ ๑/๒ โดยการเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงทางลบในรายวิชา สุขศึกษาและพลศึกษา
2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการคุยกันในชั้นเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ ๑/๒ ระหวางกอนและหลัง โดยใช แบบประเมินการแกปญหาการคุยกันในชั้นเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่๑/๒ ดวยการเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงทางลบ รายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ทำการเก็บขอมูล 4 สัปดาห
ผลการวิจัยเรื่องการปรับพฤติกรรมการคุยกันในชั้นเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ ๑/๒ ดวยการ เสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงทางลบ สัปดาหที่ 1 พบวานักเรียนที่ไมคุยกัน 13 คน
นักเรียนที่คุยกัน 7 คนคิดเปนรอยละ 35 สัปดาหที่ 2 พบวานักเรียนที่ไมคุยกัน 17 คน นักเรียนที่คุยกัน 3 คน
คิดเปนรอยละ 14.28 สัปดาหที่ 3 พบวานักเรียนที่ไมคุยกัน 18 คน นักเรียนที่คุยกัน 2 คนคิดเปนรอยละ 10
สัปดาหที่ 4 พบวานักเรียนที่ไมคุยกัน 20 คน คิดเปนรอยละ 100 นักเรียนที่คุยกัน 0 คนคิดเปนรอยละ 0 ดังนั้นนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปที่ ๑ โรงเรียนร่มฉัตร(เทศบาล๒) จำนวน ๑๗ คน ที่ไดรับการปรับ
พฤติกรรมการคุยกันในชั้นเรียน ดวยการเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงทางลบ มีพฤติกรรมการคุยกันหรือ พฤติกรรมที่ ไมพึงประสงคหลังเรียน ดีขึ้น 100 เปอรเซ็น