ชื่อวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้วิจัย นางวรัญญา แดนกาไสย ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านกระเบา
ปีที่วิจัย 2564-2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน ผู้วิจัยดำเนินการวิจัยโดยแบ่งระยะการดำเนินการเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานโดยการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบ ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบ โดยการยกร่างองค์ประกอบของรูปแบบ และตรวจสอบคุณภาพรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบ โดยการนำรูปแบบที่ผ่านการหาคุณภาพและปรับปรุงแล้ว ไปใช้จริงกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ของโรงเรียนบ้านกระเบา อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 จำนวน 8 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และระยะที่ 4 การประเมินรูปแบบ แบ่งเป็น 1) การประเมินมาตรฐานของรูปแบบในประเด็นความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความถูกต้อง 2) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบ และ 3) ผลที่เกิดต่อครูผู้สอนและนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม 3) แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) แบบประเมินทักษะการเขียน 6) แบบประเมินมาตรฐานของรูปแบบ ด้านความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความถูกต้อง และ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล ทำการวิเคราะห์เนื้อหาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Content Analysis) หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนรายวิชาภาษาไทย พบว่า สภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการเขียน อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านหลักการและวิธีดำเนินการเรียนรู้ มีปัญหาอยู่ในระดับมากที่สุด โดยนำเสนอแผนภูมิที่น่าสนใจมาให้นักเรียนฝึกฝนอย่างหลากหลาย และบูรณาการกิจกรรมเชื่อมโยงเรื่องราวและแนวคิดของสิ่งที่เรียนรู้ในห้องเรียนกับความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน รองลงมาคือ ด้านเทคนิคการจัดการเรียนรู้ และด้านการประเมินผลการเรียนรู้ ตามลำดับ และจากการสอบถามความต้องการ พบว่า ครูผู้สอนมีความต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน ในระดับมากที่สุด
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีองค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) การประเมินผล ผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด
3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบประเด็นสรุปได้ ดังนี้
3.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา มีคะแนนผลการประเมินทักษะการเขียนอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 81.25
3.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบประเด็นสรุปได้ ดังนี้
4.1 ผลการประเมินมาตรฐานของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสมและความถูกต้อง อยู่ในระดับมากที่สุด
4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อรูปแบบ การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบมุ่งประสบการณ์ภาษา เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด (x̄= 4.53, S.D.= 0.53)
4.3 ผลที่เกิดต่อครูผู้สอนและนักเรียน เกี่ยวกับรางวัล/เกียรติบัตรที่ได้รับระดับเครือข่ายทางการศึกษาขึ้นไป ได้รับรางวัล จำนวน 10 รายการ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ จำนวนรางวัลที่ได้รับตั้งแต่ระดับเครือข่ายทางการศึกษาขึ้นไป มีไม่น้อยกว่า 5 รายการ ผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนด