การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้ศึกษาได้นำเสนอผลการศึกษา ดังนี้
วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อสร้างเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ก่อนและหลังเรียนที่ใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6
สมมุติฐานในการศึกษาค้นคว้า
1. เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างมีประสิทธิภาพ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผู้เรียนมีควา¬มพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับคุณภาพมากที่สุด
วิธีดำเนินการศึกษา
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดสระประทุม อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 32 คนโดยการเลือกแบบเจาะจง
2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
2.1 เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 เล่ม ดังนี้
เล่มที่ 1 พื้นฐานใบตาลสานสร้างสรรค์
เล่มที่ 2 ใบตาลสานของเล่น
เล่มที่ 3 ในตาลสานของใช้ในงานพิธี
เล่มที่ 4 ใบตาลสานของใช้ในบ้าน
2.2 คู่มือการใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยแบ่งออกเป็น 4 ตอน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544
ส่วนที่ 2 ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ส่วนที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์
ส่วนที่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์
แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย สาระสำคัญ ผลการเรียนรูที่คาดหวัง จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล สื่อและแหล่งเรียนรู้ กิจกรรมเสนอแนะ ความคิดเห็นข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา และบันทึกหลังสอน จำนวน 12 แผนการจัดการเรียนรู้
2.3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์
2.4 แบบประเมินความพึงพอใจที่ผู้เรียนมีต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
3. ขั้นตอนการเก็บรวมรวมข้อมูล
3.1 ใช้เวลาศึกษา 22 ชั่วโมง โดยใช้เวลาเรียนตามปกติในชั่วโมงกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
3.2 วิธีดำเนินงานในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2560 จนถึง 13 สิงหาคม 2560
3.3 ก่อนทำการสอน ทำการทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
3.4 ดำเนินการใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนครบทั้ง 4 เล่ม ควบคู่กับคู่มือการใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีแผนการจัด การการเรียนรู้ จำนวน 12 แผน ใช้เวลาทั้งหมด จำนวน 22 ชั่วโมง
3.5 ระหว่างทำการสอนในแต่ละเล่ม ให้ทำแบบฝึกหัดทบทวนและใบมอบหมายงาน
เมื่อจบแต่ละเล่มให้ทำการทดสอบหลังเรียน
3.6 หลังสิ้นสุดการสอนโดยใช้เอกสารประกอบการสอนจนครบทั้ง 4 เล่ม แล้วทำ
การทดสอบหลังเรียน (Post - Test) โดยใช้โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องผลิตภัณฑ์ ใบตาลสานสร้างสรรค์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ฉบับเดียวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน
3.7 เมื่อทำการสอนเสร็จสิ้น เก็บรวบรวมคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูล
สรุปผลการศึกษา
1. เอกสารประกอบการสอนที่สร้างขึ้นแต่เล่มมีประสิทธิภาพตั้งแต่ เล่มที่ 1 ถึงเล่มที่ 4 มีค่า
83.91/82.95, 84.73/80.15, 85.48/82.80, 85.68/81.25 ตามลำดับ และประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกเล่มเท่ากับ84.95/81.78 ซึ่งมีประสิทธิสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 จึงสรุปได้ว่า เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 80/80 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานข้อที่ 1 ที่ว่า เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างมีประสิทธิภาพ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ เอกสารประกอบ การสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่าค่า t ที่คำนวณมีค่าเท่ากับ 31.901ที่ระดับนัยสำคัญ .000 ซึ่งน้อยกว่าระดับนัยสำคัญที่ .01 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 สรุปได้ว่า การสอนโดยใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และสอดคล้องกับสมมุติฐานข้อที่ 2 ที่ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่มที่ 1 ถึงเล่มที่ 4 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.875, 4.881, 4.912 และ 4.912 ตามลำดับ และความพึงพอใจของทุกเล่มรวมเฉลี่ยเท่ากับ 4.895 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานข้อที่ 3 ที่ว่า ผู้เรียนมีควา¬มพึงพอใจต่อเอกสารประกอบ การสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมาก
ดังนั้นสรุปได้ว่า เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นไปตามสมมุติฐานที่ผู้ศึกษาตั้งไว้ 3 ข้อ ที่ว่า เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างมีประสิทธิภาพ 80/80 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผู้เรียนมีควา¬มพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับคุณภาพมากที่สุด
อภิปรายผลการศึกษา
ในการอธิบายผลการศึกษา ผู้ศึกษาได้อภิปรายตามสมมุติฐานของการศึกษาแต่ละข้อ ดังนี้
สมมุติฐานข้อที่ 1 เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างมีประสิทธิภาพ 80/80
ผลการสร้างละพัฒนาเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ และเหมาะสมสำหรับนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน โดยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.95/81.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้ สืบเนื่องจากผู้ศึกษาได้จัดทำเอกสารประกอบการสอนอย่างเป็นขั้นตอน เลือกเนื้อหาในการสร้างเอกสารประกอบการสอน โดยศึกษาทฤษฎี หลักการและแนวคิด เอกสารและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ให้มีบริบทใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของผู้เรียน โดย ที่นำวัสดุในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ คำนึงถึงศักยภาพและความแต่งต่างของนักเรียน เน้นให้นักเรียนเกิดจิตสำนึก ในการรักและภูมิใจ เห็นคุณค่าหวงแหนและอนุรักษ์ทรัพยากรในท้องถิ่นของตน ซึ่งสอดคล้องกับจุดหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2544 และโดยภาพรวมประสิทธิภาพของเอกสารประกอบ การสอนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ คือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน และสอดคล้องกับ สุนันทา สุนทรประเสริฐ. (2547 : 24) ที่กล่าวถึง การผลิตเอกสารประกอบ การสอนนั้น ต้องมีขั้นตอนในการผลิตอย่างเป็นขั้นตอนและผ่านการตรวจสอบ ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้มีการทดลองใช้และนำมาปรับปรุง จนแน่ใจว่าได้เอกสารประกอบการสอนที่ดี จึงนำมาทดลองใช้ในปีการศึกษาถัดไป และสอดคล้องกับกิดานันท์ มลิทอง. (2543 : 112) ที่กล่าวถึง ข้อดีของเอกสารประกอบการสอนไว้ว่า ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความสามารถของแต่ละบุคคล เหมาะสำหรับการอ้างอิงและทบทวน สะดวกในการแก้ไขหรือปรับปรุงเนื้อหาใหม่ ช่วยลดบทบาทของครูใน การสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ พัฒนาความคงที่ของเนื้อหา เหมาะเป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อเป็นสื่อ ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการสอน เป็นตัวเชื่อมความเข้าใจเนื้อหาระหว่างครูกับนักเรียนให้ตรงกันและถ่ายทอดสู่ตัวนักเรียน และสอดคล้องกับงานวิจัยของอัณชนาพร ศิริพรทุม. (2549 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาการใช้เอกสารประกอบการสอน เรื่อง การประดิษฐ์ผลิภัณฑ์จากผักตบชวา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอน มีประสิทธิภาพ 82.42/82..40 ค่าเฉลี่ยสัมประสิทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 และระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการสอนอยู่ที่ระดับ 4.46 และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ จงรักษณ์ เดชชนะรัตน์. (2550) ได้ศึกษา เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/1 ผลการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.41/84.79 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
สมมุติฐานข้อที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนหลังการใช้เอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผู้เรียนมีการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก ผู้เรียนมีเอกสารประกอบการสอนเป็นสื่อที่มีส่วนกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีความกระตือรือร้นในการเรียน จึงเกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้มีการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่คงทนและยั้งยืน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย ของสุนทรา ชูศิลป์ทอง. (2548 : 22) ผลการสร้างเอกสารประกอบการสอนพบว่า ผลการสร้างเอกสารประกอบการสอนวิชา ศ 30222 วาดภาพระบายสี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (กลุ่มสาระเพิ่มเติม) ซึ่งปรากฏว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 8.33/82.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนดและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และยังสอดคล้องกับงานวิจัยของยุพิน ลาถหลาย. (2547 : บทคัดย่อ) ได้ทำ การวิจัยเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐานวิทยาสาสตร์ สารและสมบัติของสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 75/75 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สสารและสมบัติของสารของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดและนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
สมมุติฐานข้อที่ 3 ผู้เรียนมีควา¬มพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับคุณภาพมากที่สุด
ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการสอน ชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อชุดผลิตภัณฑ์ใบตาลสานสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ที่ระดับมากที่สุด เล่มที่ 1 ถึง เล่มที่ 4 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.875, 4.881, 4.912 และ 4.912 ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยโดยรวม ทั้ง 4 เล่ม มีค่าเท่ากับ 4.895 ทั้งนี้เป็นเพราะเอกสารประกอบการสอนเป็นสื่อที่น่าสนใจ มีเนื้อหาตรงกับ ความต้องการของนักเรียน อ่านเข้าใจง่าย มีภาพที่อธิบายสวยงามชัดเจน มีขั้นตอนการนำเสนอ เป็นลำดับขั้นจากง่ายไปหายาก จึงทำให้ผู้เรียนมีระดับความพึงพอใจอยู่ที่ระดับมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของกันยากร ฟูกุล. (2550) ได้ทำการวิจัยเรื่อง รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่อง เชือกกล้วยสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผลการศึกษาพบว่า เอกสารประกอบการเรียนรู้เรื่อง เชือกกล้วยสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นทั้ง 7 เล่ม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.24/85.63 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเมื่อเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียนเรื่อง เชือกกล้วยสร้างสรรค์สูงกว่าก่อนเรียน และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะ
1. เอกสารประกอบการสอนที่สร้างขึ้นควรมีการปรับปรุงอยู่เสมอ ให้สอดคล้องกับสภาพของผู้เรียนที่มีพื้นฐานหรือศักยภาพที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้เอกสารประกอบการสอนที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
2. เนื้อหาสาระและสื่อการสอนที่ผลิตขึ้นควรเป็นวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น เพราะสะดวกและเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวนักเรียนทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้เร็วขึ้น
3. เอกสารประกอบการสอนชุดนี้ ครูผู้สอนท่านอื่น ๆ สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทของแต่ละโรงเรียนและให้สอดคล้องกับท้องถิ่นของตนเอง