|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง
ผู้วิจัย นงลักษณ์ หมีคณะ
ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง 2) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน 3) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน 4) ประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระยะที่ 2 เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ระยะที่ 3 เป็นการศึกษาผลของการใช้รูปแบบการเรียนการสอน และระยะที่ 4 เป็นการประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2566 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที แบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) โดยสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้
สรุปผลการวิจัย
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง พบว่า ครูยังคงเน้น การบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ขาดการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจในการเรียน ไม่มีรูปแบบ เทคนิค วิธีการสอน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แปลกใหม่ กิจกรรมไม่น่าสนใจ สื่อและเทคโนโลยี การเรียนรู้ มีน้อย ไม่เพียงพอ ไม่น่าสนใจ ครูขาดการบูรณาการเรียนรู้กับศาสตร์อื่น ๆ ที่ใกล้ตัวและจัดกิจกรรม ที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียน นักเรียนมีความหลากหลายและแตกต่างกัน แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียนไม่เพียงพอ นักเรียนไม่ตั้งใจเรียนขาดเรียนบ่อย ขาดความสามารถด้านกระบวนการเขียน ไม่กระตือรือร้น ไม่สนใจใฝ่รู้
2. รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง มี 5 องค์ประกอบหลัก คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4) การวัดและประเมินผล และ 5) ปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นผ่อนคลาย ขยายสมอง (Relax) 2) ขั้นพาตรึกตองซ้ำ เพื่อย้ำทบทวน (Repeat) 3) ขั้นเร่งชี้ชวน เติมความรู้ใหม่ (rebuild) 4) ขั้นแบ่งปันความรู้ จากเพื่อนสู่เพื่อน (Ready to share) 5) ขั้นสาระที่ได้จากกระบวนการกลุ่ม (Reason) และ 6) ขั้นผลลัพธ์ที่ได้มุ่งสู่การประเมิน (Result) โดยรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.54/83.71 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐานหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการเขียนประโยคจากภาพโดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนชุมชนบ้านช่างเคิ่ง ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55
|
โพสต์โดย นงลักษณ์ หมีคณะ : [15 มี.ค. 2567 (08:07 น.)] อ่าน [2319] ไอพี : 58.10.11.148
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 80,364 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,525 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,046 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,410 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,598 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,937 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,063 ครั้ง
| เปิดอ่าน 34,391 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,799 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,761 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,742 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,673 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,297 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,589 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,402 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 36,390 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,155 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,933 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,294 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|