ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยม

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ ก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ซึ่งกลุ่มตัวอย่างของงานวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 6 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 24 คน ได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบจำเพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 แผน แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน โดยเป็นแบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ ผลการวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลการวิจัยพบว่า

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.29 ไม่มีนักเรียนที่ได้ต่ำกว่าเกณฑ์ มีนักเรียนที่ได้คะแนนสูงกว่าเกณฑ์ จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 80.00 ของนักเรียนทั้งหมด

ที่มาและความสำคัญ

การจัดการเรียนการสอนวิชากายภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น การรักษาสมดุลของร่างกาย ระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย จากการสังเกตนักเรียนยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่อง การหมุนเวียนโลหิตผ่านโครสร้างของหัวใจและอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนักเรียนไม่สามารถอธิบายลำดับการไหลเวียนเลือดได้ถูกต้อง ไม่สามารถบอกส่วนประกอบของเลือด อธิบายสาเหตุและกระบวนการทำให้เลือดแข็งตัวรวมทั้งการรับและการให้เลือดในระบบ ABO ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนมีเจตคติต่อวิชาดังกล่าวที่ไม่ดี ผู้เรียนเบื่อหน่ายในวิธีการสอนของครูผู้สอนไม่มีความกระตือรือร้นในการเรียนและการศึกษาหาความรู้นอกห้องเรียน ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนยังไม่เป็นตามเป้าหมายในการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน

จากแนวคิดและสภาพปัญหาดังกล่าว ครูผู้สอนจึงต้องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนรายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ให้เป็นการเรียนการสอนเชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอน สื่อการสอน กลวิธีการสอน และการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกคิด ฝึกสังเกต ฝึกตั้งคำถาม ฝึกการสื่อสาร การนำเสนอ วิเคราะห์วิจารณ์และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองโดยมีครูผู้สอนเป็นผู้กำกับ ควบคุม ดำเนินการให้คำปรึกษาชี้แนะ ช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน และเป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน

ดังนั้น ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาเปรียบเทียบผลการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย

1) ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต

2) ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราช-วิทยาลัย บุรีรัมย์

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้สร้างเครื่องมือการวิจัย

1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องระบบหมุนเวียนโลหติ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) จำนวน 3 แผนการเรียนรู้ รวม 6 ชั่วโมง

2) แบบทดสอบก่อนเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ เวลาในการทำแบบทดสอบ 1 ชั่วโมง

3) แบบทดสอบหลังเรียน แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ เวลาในการทำแบบทดสอบ 1 ชั่วโมง

วิธีการดำเนินงาน

ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมีวิธีการดำเนินงาน ดังนี้

1) ผู้วิจัยให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต จากนั้นบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึก

2) ผู้วิจัยดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ทั้ง 3 แผนการเรียนรู้ ในวันจันทร์ อังคาร และศุกร์ ช่วงเวลาตามตารางเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 รวมเป็นเวลา 6 ชั่วโมง

3) เมื่อสิ้นสุดการทดลองแล้ว ผู้วิจัยให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต จากนั้นนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ

ผลการวิจัย

จากการวัดผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ ก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ ได้ผลดังตารางที่ 1

ตารางที่ 1 คะแนนที่ได้จากการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต

กลุ่มตัวอย่าง N คะแนนเต็ม ก่อนเรียน หลังเรียน

นักเรียนคนที่ 1 24 20 10 15

นักเรียนคนที่ 2 24 20 9 17

นักเรียนคนที่ 3 24 20 5 16

นักเรียนคนที่ 4 24 20 7 14

นักเรียนคนที่ 5 24 20 6 18

นักเรียนคนที่ 6 24 20 8 19

นักเรียนคนที่ 7 24 20 11 17

นักเรียนคนที่ 8 24 20 9 15

นักเรียนคนที่ 9 24 20 14 17

นักเรียนคนที่ 10 24 20 11 15

นักเรียนคนที่ 11 24 20 12 17

นักเรียนคนที่ 12 24 20 14 16

นักเรียนคนที่ 13 24 20 10 17

นักเรียนคนที่ 14 24 20 9 18

นักเรียนคนที่ 15 24 20 9 15

นักเรียนคนที่ 16 24 20 9 14

นักเรียนคนที่ 17 24 20 12 15

นักเรียนคนที่ 18 24 20 16 19

นักเรียนคนที่ 19 24 20 3 18

นักเรียนคนที่ 20 24 20 5 16

นักเรียนคนที่ 21 24 20 6 16

นักเรียนคนที่ 22 24 20 5 15

นักเรียนคนที่ 23 24 20 8 19

นักเรียนคนที่ 24 24 20 9 18

ค่าเฉลี่ย 9.04 16.33

S.D. 3.20 1.52

ตารางที่ 2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ที่จัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) กับเกณฑ์ร้อยละ 80

การทดสอบ จำนวน คะแนนเต็ม คะแนนเกณฑ์

ร้อยละ 80 ค่าเฉลี่ย S.D. ร้อยละ

ก่อนเรียน 24 20 1 9.04 3.20 5

หลังเรียน 24 20 16 16.33 1.52 80

* มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

สรุปผลการวิจัย และอภิปรายผล

การวิจัยในครั้งนี้ สรุปได้ว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิต วิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบสวนสอบสวน(Inquiry-Based Learning) คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.29 มีนักเรียนที่ได้ต่ำกว่าเกณฑ์ มีนักเรียนที่ได้คะแนนสูงกว่าเกณฑ์ จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 80.00 ของนักเรียนทั้งหมด

ประโยชน์ที่ได้รับ

1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนเรื่อง ระบบหมุนเวียนโลหิตที่สูงขึ้น

2) เป็นแนวทางในการพัฒนาพัฒนามโนมติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน และการจัดทำแผนการสอนรายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ของครู

3) เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์และวิชาอื่น ๆ ต่อไป

ข้อเสนอแนะ

1) เมื่อพบว่านักเรียนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนครูควรจะอธิบายเพิ่มเติม หรือซ่อมเสริม เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้กับนักเรียนในทันที หากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

2) ควรมีการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และทำชุดแบบฝึกทักษะเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิต

3) ควรมีการจัดกิจกรรมบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่น แล้วนำไปใช้กับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ ต่อไป

4) ผู้เรียนแต่ละคนมีความสามารถและความถนัดที่แตกต่างกัน บางคนไม่สามารถลงมือปฏิบัติได้ แต่ผู้เรียนก็มีความพยายามที่จะเรียนรู้และอาสาทำหน้าที่อื่น ๆ เพื่อให้การเรียนรู้สมบูรณ์ เป็นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกฝน มีการช่วยเหลือ แบ่งปัน และสามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่อในอนาคต

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ. (2560). คู่มือการจัดการสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตาม

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานครฯ: องค์การรับส่งสินค้า

และพัสดุภัณฑ์

รณรงค์ ขันแข็ง. (2560). การบูรณาการแบบแทรก เรื่อง เวกเตอร์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก

(วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). ธนบุรี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า.

วรรณภา สายมาตย์. (2560). การปฏิบัติการพัฒนาการเรียนรู้แบบเชิงรุกเพื่อพัฒนาความคงทนใน

การเรียนรู้ เรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนาจะ

หลวย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรม

หาบัณฑิต). อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

โพสต์โดย Kthunya : [14 มี.ค. 2567 (09:35 น.)]
อ่าน [2597] ไอพี : 61.19.68.222
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 59,233 ครั้ง
Revo Uninstall สุดยอดโปรแกรมถอนการติดตั้ง
Revo Uninstall สุดยอดโปรแกรมถอนการติดตั้ง

เปิดอ่าน 16,515 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology

เปิดอ่าน 7,924 ครั้ง
ลองอ่าน"เมื่อเฟซบุ๊คเฉลยปริศนา เพราะอะไรเราจึงไม่มีปุ่มคลิก"dislike"(ไม่ชอบ) ให้พวกคุ
ลองอ่าน"เมื่อเฟซบุ๊คเฉลยปริศนา เพราะอะไรเราจึงไม่มีปุ่มคลิก"dislike"(ไม่ชอบ) ให้พวกคุ

เปิดอ่าน 29,370 ครั้ง
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยสุโขทัย
วรรณคดีมรดกของไทยสมัยสุโขทัย

เปิดอ่าน 12,746 ครั้ง
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว
7 เคล็ดลับ รักษาความจำยืนยาว

เปิดอ่าน 3,998 ครั้ง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง
"ใส่ซองเท่าไหร่ดี" ปัญหานี้มีตัวช่วย TypeThai เครื่องช่วยคำนวณเงินใส่ซองให้เหมาะสมกับงานและฐานะตัวเอง

เปิดอ่าน 8,793 ครั้ง
ฟีฟ่า จับมือ กูเกิล เปิดเว็บเอาใจคอบอล
ฟีฟ่า จับมือ กูเกิล เปิดเว็บเอาใจคอบอล

เปิดอ่าน 15,192 ครั้ง
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59
ความเหลื่อมล้ำและระบบอุปถัมภ์ในการศึกษาไทย - มติชน วีกเอ็นด์ 15 พ.ค. 59

เปิดอ่าน 46,792 ครั้ง
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข

เปิดอ่าน 33,886 ครั้ง
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.
คู่มือการจัดทำแผนชั้นเรียนรายปีและแผนชั้นเรียนเต็มรูปของสถานศึกษา สังกัด สพฐ.

เปิดอ่าน 35,462 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552
ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาศึกษาต่อ ฝึกอบรม ดูงาน วิจัยและพัฒนา พ.ศ. 2552

เปิดอ่าน 19,961 ครั้ง
MV เพลง รางวัลของครู
MV เพลง รางวัลของครู

เปิดอ่าน 21,557 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022

เปิดอ่าน 10,944 ครั้ง
ม.44 ดัน "ศึกษาธิการจังหวัด" เดินหน้าหรือถอยหลังปฏิรูปศึกษา
ม.44 ดัน "ศึกษาธิการจังหวัด" เดินหน้าหรือถอยหลังปฏิรูปศึกษา

เปิดอ่าน 14,054 ครั้ง
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว
"กาบา (GABA)" สารอาหารในเมล็ดข้าว

เปิดอ่าน 97,130 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของ "ขิง" ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ประโยชน์และโทษของ "ขิง" ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 35,030 ครั้ง
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
ลักษณะของการวิจัยปฏิบัติการ
เปิดอ่าน 43,193 ครั้ง
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 (ฉบับที่ 2)
เปิดอ่าน 7,703 ครั้ง
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เปิดอ่าน 14,341 ครั้ง
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท
LINEเพิ่มฟีเจอร์ไอคอนรูปกุญแจในห้องแชท

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ