ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
กลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียนชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

ชื่อเรื่อง กลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียนชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

ผู้ศึกษา นางนุชรินทร์ เสมอโภค

สถานศึกษา โรงเรียนชุมพรนาเจริญ

ปีที่พิมพ์ 2566

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทคัดย่อ

การศึกษาเรื่อง กลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียน

ชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อสร้างกลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 2) เพื่อทดลองใช้กลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 และ3) เพื่อประเมินกลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน โรงเรียนชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 กลุ่มผู้ร่วมศึกษาคือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนชุมพรนาเจริญ จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบทดสอบ จำนวน 1 ฉบับ แบบสังเกตแบบมีส่วนร่วม จำนวน 3 ฉบับ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง จำนวน 3 ฉบับ และแบบประเมิน จำนวน 2 ฉบับ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์โดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis) แล้วนำเสนอโดยการบรรยาย

ผลการศึกษา ปรากฏดังนี้

1. สภาพปัจจุบัน ปัญหาก่อนดำเนินการพัฒนา พบว่า ครูส่วนใหญ่ยังจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบที่ถนัดและเคยชิน ยึดสอนตามแบบตำราเรียนมากกว่าการยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง เน้นการบรรยายเป็นหลัก ครูใช้วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่หลากหลาย ขาดการฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์และการปฏิบัติจริง การเรียนการสอนในห้องเรียนไม่ส่งเสริมให้นักเรียน คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประยุกต์เอาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีครูที่จัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติจริงผ่านการจัดทำโครงงานเพียงส่วนน้อย ทั้งนี้เพราะครูส่วนใหญ่มีความรู้ ความเข้าใจและความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญน้อย โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ซึ่งสภาพปัจจุบันปัญหาดังกล่าวสอดคล้องกับผลการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่ยังต่ำ ผู้เรียนยังมีกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิดแก้ปัญหาน้อย ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติ RT, NT และ O-net ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามลำดับ ยังมีคะแนนที่ต่ำและไม่เป็นที่น่าภาคภูมิใจ และหากใช้วิธีการเดิมเพียงวิธีการเดียวอาจจะทำให้นักเรียนเบื่อหน่ายและขาดความสนใจในการเรียนและส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำได้

ผลการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน รอบ 4 (พ.ศ. 2565-2569) ของโรงเรียนชุมพรนาเจริญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 พบว่า มีผลการประเมินทั้ง 3 มาตรฐานอยู่ในระดับดีทุกด้าน ทั้งระดับปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการประเมินได้ให้ข้อเสนอแนะไว้ว่า ในการเขียน SAR ให้ได้ผลประเมินระดับสูงขึ้น สถานศึกษาควรระบุข้อมูลลงใน SAR เพิ่มเติมในประเด็นจุดเน้น ครูจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการระบุเป้าหมายคุณภาพของผู้เรียน มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา มีการระบุวิธีพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ กำหนดวิธีการประเมินผล เครื่องมือในการประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (Assessment for Learning) เช่น แฟ้มสะสมผลงาน แบบประเมินการปฏิบัติ เป็นต้น มีการนิเทศ ติดตามประเมินการดำเนินงาน พัฒนาผลการดำเนินงานให้เป็นการปฏิบัติที่ดีสามารถพัฒนาเป็นนวัตกรรมของสถานศึกษาโดยใช้กระบวนการ PLC นำเสนอผลการดำเนินงานต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมทั้งการนำเสนอนวัตกรรม (Innovation) หรือวิธีปฏิบัติอันเป็นแบบอย่างที่ดี (Best Practice) ที่สถานศึกษาได้ดำเนินการจนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับและสามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้และนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของสถานศึกษา เฟชบุ๊ก กลุ่มไลน์หรือเอกสารต่าง ๆ เป็นต้น (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน). รายงานการประกันคุณภาพภายนอก : ผลการประเมิน SAR ภายใต้สถานการณ์ COVID – 19 การศึกษาปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2565 : 8)

2. การดำเนินการพัฒนา ในวงรอบที่ 1 โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ จัดกิจกรรม PLC ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน แล้วดำเนินการนิเทศภายในแบบกัลยาณมิตร โดยการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน การสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน และการประเมินโครงงาน เพื่อให้คำแนะนำช่วยเหลือครูในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบโครงงานมากยิ่งขึ้น และสามารถนำความรู้ไปจัดทำแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อยู่ในระดับดีมาก 7 คน และอยู่ในระดับดี 3 คน

การดำเนินการพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการปรับปรุงพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน และกิจกรรมการปรับปรุงพัฒนาการเสนอผลงานโครงงาน ส่งผลให้ครูสามารถพัฒนาการเขียนแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาการทำโครงงานได้อย่างถูกต้องและมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน และส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างแท้จริงบรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน

3. ผลการพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า

1) ครูมีความรู้ ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ได้อย่างถูกต้องและเกิดความมั่นใจในการนำไปใช้สอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) ครูสามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานได้อย่างถูกต้อง สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้เหมาะสมตามระดับชั้น วัยและพัฒนาการของนักเรียน และสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น 3) ครูสามารถจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้เรียนสามารถตั้งชื่อเรื่องที่จะทำโครงงาน ออกแบบโครงงาน ลงมือทำโครงงาน เขียนรายงาน นำเสนอโครงงานประเมินผลโครงงานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมเกิดประโยชน์ ต่อผู้เรียนอย่างแท้จริง

และ 4) ผลงานโครงงานของนักเรียนประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลในระดับต่างๆ เช่น ระดับประเทศ ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับจังหวัด ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับกลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษา และนอกจากนี้ยังส่งผลต่อรางวัลผู้บริหารสถานศึกษาและรางวัลสถานศึกษาอีกด้วย

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อกลยุทธ์การพัฒนาครูด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานโรงเรียนชุมพรนาเจริญ โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้ที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือคณะกรรมการสถานศึกษา รองลงมา ได้แก่ ครูผู้สอน ตามลำดับ

ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานของครูโรงเรียนชุมพรนาเจริญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 เป็นอย่างมาก ทำให้ครูได้รับความรู้ ความเข้าใจ และเกิดทักษะ มีความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อนักเรียนและชุมชน และสามารถนำไปเผยแพร่ในกลุ่มเครือข่ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาร่วมกันอย่างยั่งยืน

โพสต์โดย นุช : [7 มี.ค. 2567 (19:44 น.)]
อ่าน [2621] ไอพี : 223.206.232.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,994 ครั้ง
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ
ภูมิปัญญา "การแพทย์แผนไทย" สู้ภัยร้อนจัดของประเทศ

เปิดอ่าน 15,053 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง

เปิดอ่าน 14,643 ครั้ง
12 วิธีอยู่อย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง
12 วิธีอยู่อย่างไรให้ห่างไกลมะเร็ง

เปิดอ่าน 122,531 ครั้ง
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!
เตือนภัย "ถ่ายเป็นเลือด" ระวังโรคแฝง...ร้ายแรงถึงชีวิต!!

เปิดอ่าน 12,277 ครั้ง
แสงส่องทางจากการศึกษา
แสงส่องทางจากการศึกษา

เปิดอ่าน 13,493 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 33,537 ครั้ง
ครู
ครู

เปิดอ่าน 10,905 ครั้ง
ฝังเข็มที่ใบหู ลดน้ำหนักได้
ฝังเข็มที่ใบหู ลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 23,733 ครั้ง
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ

เปิดอ่าน 10,426 ครั้ง
ไข่ดิบมีประโยชน์จริงหรือ
ไข่ดิบมีประโยชน์จริงหรือ

เปิดอ่าน 6,957 ครั้ง
เคยได้ยินหรือยัง! "หลักสูตรฐานสมรรถนะ" กุญแจยกระดับการศึกษาที่คนไทยต้องรู้จัก ให้ผู้เรียนเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
เคยได้ยินหรือยัง! "หลักสูตรฐานสมรรถนะ" กุญแจยกระดับการศึกษาที่คนไทยต้องรู้จัก ให้ผู้เรียนเท่าทันความเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 11,635 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 167,445 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด

เปิดอ่าน 12,962 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 2,140 ครั้ง
เตือน!กลโกงคนใกล้ตัว ระวังเซ็นเอกสารอาจเสียทรัพย์ เป็นหนี้หมดตัว
เตือน!กลโกงคนใกล้ตัว ระวังเซ็นเอกสารอาจเสียทรัพย์ เป็นหนี้หมดตัว

เปิดอ่าน 7,941 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน
ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน
เปิดอ่าน 10,683 ครั้ง
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย
10 ท่ากระชับสัดส่วนสวย
เปิดอ่าน 11,650 ครั้ง
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เปิดอ่าน 41,899 ครั้ง
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันเกิด
เปิดอ่าน 45,254 ครั้ง
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ