ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย

หัวข้อการวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย

ปีการศึกษา 2565

ชื่อผู้วิจัย นางสาวนิยะฉัตร เอมะสุวรรณ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนพนมมาศพิทยากร อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย โดยดำเนินการวิจัย ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการ สำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย โดยการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสนทนากลุ่ม ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย และครูผู้สอนปฐมวัย จำนวน 10 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) 2) ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย ดำเนินการออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้เชิงบูรณาการ แล้วตรวจสอบความถูกต้องครอบคลุมของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการศึกษาปฐมวัย จำนวน 5 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยใช้แบบประเมินความถูกต้องครอบคลุมของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ จากนั้นจึงนำรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ ไปทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพแบบเดี่ยว แบบกลุ่มเล็ก และแบบภาคสนาม 3) ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย โดยนำรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ ไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างคือ เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนพนมมาศพิทยากร อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 18 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จากนั้นจึงศึกษาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ โดยใช้แบบประเมินความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจ และ 4) ขั้นตอนที่ 4 การยืนยัน ขยายผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย โดยนำรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ ไปขยายผล กับกลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กปฐมวัยและครูปฐมวัย โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 5 โรงเรียน รวมจำนวนทั้งสิ้น ครู 5 คน เด็กปฐมวัย 87 คน โดยเป็นการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) จากนั้นทำการประเมินคุณภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ ในด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้ และด้านการนำไปใช้ประโยชน์ โดยครูผู้สอนปฐมวัย กลุ่มการยืนยันขยายผล โดยใช้แบบประเมินคุณภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ และดำเนินการศึกษาประเด็นปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ โดยการสัมภาษณ์ครูผู้สอนปฐมวัย กลุ่มการยืนยัน แล้วจึงปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย ให้มีความสมบูรณ์

ผลการวิจัย พบว่า

1. สภาพปัจจุบัน ปัญหาและความต้องการ สำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย 1) สภาพปัจจุบัน ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 1.1) ด้านหลักสูตร คือ ครูผู้สอนปฐมวัยมีการวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 เพื่อนำมาจัดทำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 1.2) ด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ ครูผู้สอนปฐมวัยมีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กปฐมวัยได้ลงมือปฏิบัติจริง ผ่านการใช้คําถามหรือสถานการณ์ปัญหาในการดำเนินกิจกรรม 1.3) ด้านการวัดและประเมินผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ ครูผู้สอนปฐมวัยมีการวัดและประเมินผลพัฒนาการเด็กปฐมวัยมีวิธีการต่าง ๆ อย่างหลากหลาย 1.4) ด้านความสามารถในการคิดแก้ปัญหา คือ การค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะกับสถานการณ์และตนเอง เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย 2) สภาพปัญหาในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 2.1) ด้านหลักสูตร คือ ครูขาดความเข้าใจในการคัดเลือกสาระการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 2.2) ด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ ครูขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 2.3) ด้านการวัดและประเมินผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ ครูขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องมือในการประเมินความสามารถในการคิดแก้ปัญหา 2.4) ด้านความสามารถในการคิดแก้ปัญหา คือ เด็กไม่เข้าใจกระบวนการทำความเข้าใจกับปัญหา และขาดทักษะการคิดแก้ปัญหา 3) ผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ 3.1) ด้านหลักการของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ เด็กปฐมวัยทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ 3.2) ด้านวัตถุประสงค์ของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย 3.3) ด้านสาระการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ ควรเป็นเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ 3.4) ด้านกิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ เด็กได้เรียนรู้และแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง ภายใต้ความท้าทายอย่างเป็นระบบ 3.5) ด้านสื่อและแหล่งการเรียนรู้ คือ ควรจัดกิจกรรม สื่อ วัสดุอุปกรณ์ สภาพแวดล้อมทั้งในและนอกห้องเรียน 3.6) ด้านการวัดและประเมินผล คือ การวัดประเมินผลตามสภาพจริงอย่างหลากหลาย 3.7) ด้านความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสำหรับเด็กปฐมวัย คือ การทำความเข้าใจกับปัญหา และการคิดหาเหตุผล เพื่อแสวงหาทางเลือกมาปฏิบัติในการแก้ปัญหาด้วยวิธีการใหม่ที่ต่างจากสิ่งที่มีอยู่เดิม หลากหลายมากกว่าหนึ่งวิธีคิดหรือหนึ่งแนวคิด และทำการประเมินข้อค้นพบสำหรับการแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับเด็กปฐมวัย มี 6 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 หลักการ องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 สาระการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 4 กิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 5 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ และองค์ประกอบที่ 6 การวัดและประเมินผล โดยมีขั้นตอนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ตระหนักรู้ สู่ปัญหา (Problem Finding : P) หมายถึง การสังเกต สำรวจ รับรู้ ขั้นที่ 2 สำรวจ สืบค้น ข้อมูล เพื่อค้นหาความคิด (Idea Finding : I) ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ (Action Finding : A) ขั้นที่ 4 สร้างความคิดรวบยอดเพื่อสรุปความเข้าใจ (Concept Finding : C) และขั้นที่ 5 ประเมินผลการปฏิบัติ (Assessment Finding : A) และรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ มีระดับความถูกต้องครอบคลุม (Accuracy) ในภาพรวมอยู่ในระดับถูกต้องครอบคลุมมากที่สุด

3. เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา อยู่ในระดับดี และมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ อยู่ในระดับมาก

4. ผลการยืนยันการขยายผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ 1) เด็กปฐมวัยกลุ่มการยืนยันขยายผล มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา อยู่ในระดับดี และมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ อยู่ในระดับมาก 2) คุณภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ จากการสอบถามความคิดเห็นของครูผู้สอนเด็กปฐมวัยกลุ่มการยืนยันขยายผล ในด้านความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และการนำไปใช้ประโยชน์ อยู่ในระดับคุณภาพมากที่สุด 3) ประเด็นการปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ ฉบับสมบูรณ์ 3.1) จุดเด่นของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ คือ ทำให้เด็กมีความคิดที่หลากหลายในการแก้ปัญหา มีสมาธิและมีการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน และสามารถพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ที่เด็กสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง 3.2) ข้อจำกัดของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ คือ ควรมีการขยายการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลในระยะยาว และในการทำกิจกรรมต้องอาศัยความระมัดระวัง การดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษจากครูผู้สอน 3.3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการที่ทำให้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการ บรรลุวัตถุประสงค์ 3.3.1) ด้านครูผู้สอน คือ ครูต้องศึกษาขั้นตอนของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ 3.3.2) ด้านเทคนิคการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือ ครูผู้สอนต้องมีความสร้างสรรค์ สามารถใช้เทคนิคการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชื่อมโยงการแก้ปัญหา 3.3.3) ด้านการประเมินผล คือ ครูต้องติดตามสังเกตและจดบันทึกพฤติกรรมเด็กอย่างละเอียดและรอบด้าน

โพสต์โดย doreing : [7 มี.ค. 2567 (19:12 น.)]
อ่าน [1664] ไอพี : 223.207.225.188
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,987 ครั้ง
กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่?
กลูต้าไทโอน ทำให้ผิวขาวจริงหรือไม่?

เปิดอ่าน 15,351 ครั้ง
การปลูกต้นไม้ตามทิศ
การปลูกต้นไม้ตามทิศ

เปิดอ่าน 31,285 ครั้ง
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"

เปิดอ่าน 12,303 ครั้ง
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน
เรียนต่ออังกฤษต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มาเจาะลึกกัน

เปิดอ่าน 16,558 ครั้ง
เผย 10 อันดับงาน คนอยากทำ-องค์กรอยากได้
เผย 10 อันดับงาน คนอยากทำ-องค์กรอยากได้

เปิดอ่าน 15,792 ครั้ง
สุขภาพปากและฟันกับโรคหัวใจ
สุขภาพปากและฟันกับโรคหัวใจ

เปิดอ่าน 29,432 ครั้ง
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน

เปิดอ่าน 25,109 ครั้ง
กำเนิดดวงดาว
กำเนิดดวงดาว

เปิดอ่าน 8,055 ครั้ง
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)
ระบบการศึกษาไม่สมดุล (จบ)

เปิดอ่าน 14,012 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน

เปิดอ่าน 19,103 ครั้ง
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี

เปิดอ่าน 11,106 ครั้ง
ผลวิจัยใหม่ระบุ "ความสุข" ไม่ทำให้อายุยืน
ผลวิจัยใหม่ระบุ "ความสุข" ไม่ทำให้อายุยืน

เปิดอ่าน 10,803 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 11,621 ครั้ง
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น

เปิดอ่าน 14,475 ครั้ง
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน
สามัญชนคนไทย : โรงเรียนในฝัน

เปิดอ่าน 18,929 ครั้ง
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา
Supernova : ซูเปอร์โนวา, มหานวดารา
เปิดอ่าน 11,775 ครั้ง
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society
การศึกษาของเด็กไทยยุค Digital Society
เปิดอ่าน 11,273 ครั้ง
8 สถานที่ยอดฮิตฉลองปีใหม่
8 สถานที่ยอดฮิตฉลองปีใหม่
เปิดอ่าน 2,772 ครั้ง
เปิดทริกเพิ่ม "ไอคิว" ลูก เริ่มได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์-กินนมแม่-เล่นอิสระ
เปิดทริกเพิ่ม "ไอคิว" ลูก เริ่มได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์-กินนมแม่-เล่นอิสระ
เปิดอ่าน 10,965 ครั้ง
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ