ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ (Enhancing Communication Skills of Grade 6 by using Situation Based Learning)
1. ความเป็นมาและความสำคัญ
สภาวการณ์ปัจจุบันทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม การมือง เศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนจำนวนมากหลากหลายเชื้อชาติย้ายข้ามประเทศ ข้ามภาษาและข้ามวัฒนธรรมมาอาศัยอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกันก่อให้เกิดเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ในด้านการศึกษาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดให้มีการเรียนภาษาอังกฤษซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลในหลายๆ ประเทศ การแสวงหาความรู้ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ดังนั้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจึงไม่เพียงแต่สร้างความแข็งแกร่งในการใช้ภาษาต่างประเทศเท่านั้น หากยังมุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ (สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ, 2551) นอกจากนี้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศยังมุ่งเน้นให้ผู้เรียน ฝึกทักษะการคิด การจัดการ การเผชิญและการประยุกต์ความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนโลก มาใช้ด้วยโดยปัจจัยสำคัญในการพัฒนาคือ ทักษะการสื่อสาร
ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในปัจจุบันมีปัญหาจากการขาดความมั่นใจในตนเอง ความกลัวที่จะพูดเพราะการไม่รู้คำศัพท์ ไม่รู้ไวยากรณ์ หรือการใช้คำในบริบทสถานการณ์ โดยการจะแก้ปัญหานี้ได้การจัดกระบวนการเรียนการสอนต้องสอดคล้องกับสถานการณ์จริง ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย น่าสนใจและผ่อนคลาย และกิจกรรมเหล่านี้ต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกทักษะทางภาษา เสริมสร้างความมั่นใจ และรู้วิธีการเรียนภาษาต่างประเทศ ทักษะเหล่านี้จะต้องเรียนรู้โดยการสื่อสารระหว่างบุคคลและมีความร่วมมือกัน การเรียนรู้ด้วยเทคนิคการสอนโดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ (Situation Based Learning) เป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงที่นักเรียนอาจได้ใช้จริง จะช่วยให้เกิดการถ่ายโยงความรู้ การคิดแก้ปัญหา และช่วยให้นักเรียนเกิดการกระตือรือร้นในการสื่อสารภาษาอังกฤษจากสถานการณ์ที่ครูจำลองขึ้น ในสถานการณ์จะส่งผลกับผู้ร่วมกิจกรรมเหมือนในสถานการณ์จริงและเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใช้ทักษะทั้ง 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน ในลักษณะการผสมผสานกันในสถานการณ์ นอกจากนั้นยังนำความรู้ในวิชาชีพของตนประกอบกับการฝึกทักษะภาษาอังกฤษต่างๆ ทำให้นักเรียนมีแรงจูงใจในการฝึกทักษะภาษาอังกฤษ (สุมิตรา อังวัฒนกุล,2540, น.151)
จากรายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 ค่าสถิติแยกตามสาระการเรียนรู้สำหรับโรงเรียน วิชาภาษาอังกฤษ สาระที่โรงเรียนควรเร่งพัฒนาเนื่องจากคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ ได้แก่ 1) ภาษาและวัฒนธรรม 2) ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนโลก และ 3) ภาษาเพื่อการสื่อสาร (รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 ค่าสถิติแยกตามสาระการเรียนรู้สำหรับโรงเรียน, 2564, น.2/4)
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ข้าพเจ้าเป็นครูผู้รับผิดชอบสอนรายวิชาภาษาอังกฤษโรงเรียนบ้านหนองบัวกลางเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้เทคนิควิธีในการพัฒนาโดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ (Situation Based Learning) ซึ่งเป็นวิธีที่สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดการพัฒนาได้หลากหลายทักษะ อันจะเกิดผลดีต่อการพัฒนาผลการทดสอบในระดับโรงเรียน การใช้ในการศึกษาต่อและเป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพหรือดำรงชีวิตต่อไป
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้
2.2 เพื่อยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รายวิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2565 ให้สูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2564
3. เป้าหมาย/ประชากร
3.1 เชิงปริมาณ
3.1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 12 คน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ของการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้
3.2 เชิงคุณภาพ
3.2.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 12 คน มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) รายวิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2565 คะแนนเฉลี่ยรวมสูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2564
4. ระยะเวลา
ระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนา คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ดำเนินการสอนจำนวน 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 วัน วันละ 1 ชั่วโมง รวมเป็นระยะเวลา 16 ชั่วโมง
5. ขั้นตอนการดำเนินงาน
เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มีการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) เป็นประจำทุกปี โรงเรียนบ้านหนองบัวกลางจึงพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาของนักเรียนโดยใช้หลักการจัดการคุณภาพตามกระบวนการ PDCA เป็นตัวขับเคลื่อน โดยมีผลจากการรายงานเพื่อทราบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รายวิชาภาษาอังกฤษในแต่ละปี และเลือกใช้วิธีการสอนตามแผน โดยขั้นตอนการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ ตามวงจรคุณภาพ PDCA ดังนี้
1) ขั้นวางแผน (Plan)
1. PLC ผู้บริหารและคณะครูเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบวิชาภาษาอังกฤษ
2. ครูผู้รับผิดชอบวิเคราะห์หลักสูตรและแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง โดยการศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหนองบัวกลางในรายวิชาภาษาอังกฤษ ศึกษาสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตัวชี้วัดระหว่างทางและตัวชี้วัดปลายทางตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
3. สร้างเครื่องมือเพื่อใช้ในการพัฒนาโดยการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง โดยเลือกเนื้อหาการเรียนรู้ทั้งหมด 8 เรื่อง ดังนี้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 Giving directions จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 At the market จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 Clothes shop จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 Restaurant จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 Make an Appointment จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 Cooking จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 Telephone จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 Birthday Party จำนวน 1 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง
ทั้ง 8 บทเรียนใช้เวลา 8 สัปดาห์ ด้วยการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง
4. ศึกษาวิธีสร้างแบบทดสอบวัดทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยให้ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหน่วยการเรียนรู้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้สอน
2) ดำเนินการตามแผน (Do)
1. สร้างแบบทดสอบวัดทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยแบบทดสอบแต่ละชุดกำหนดให้นักเรียนแสดงบทบาทตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ จำนวน 8 สถานการณ์ แต่ละสถานการณ์ประกอบด้วย บทบาทที่แตกต่างกัน ให้นักเรียนเลือกเพียง 1 สถานการณ์ คะแนนเต็ม 20 คะแนน ด้วยวิธีการจับฉลาก โดยกำหนดให้นักเรียนแสดงบทบาทกับเพื่อน นักเรียนคู่ใดที่ทำแบบทดสอบแล้ว ครูจะแยกนักเรียนที่ทำแบบทดสอบแล้วออกมาเพื่อไม่ให้มาพบกัน เพื่อป้องกันการสอบถามซึ่งจำทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกันในการทำแบบทดสอบ แบบทดสอบแต่ละชุดประกอบด้วย
Giving directions, At the market, Clothes shop, Restaurant, Make an Appointment, Cooking, Telephone, Birthday Party แบบทดสอบนี้ใช้ทดสอบก่อนและหลังการเรียนเพื่อวัดทักษะทางการสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ตามบทบาทที่กำหนด
2. สร้างเกณฑ์การประเมินทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยยึดหลักเกณฑ์การให้คะแนนภาคปฏิบัติการสื่อสารภาษาอังกฤษตามแนวของ Linder (1977)
3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดทักษะการสื่อสารก่อนเรียน เพื่อวัดทักษะพื้นฐานและเก็บผลการทดสอบไปเปรียบเทียบกับการวัดทักษะการสื่อสารหลังเรียน
4. นำแบบทดสอบวัดทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยแบบทดสอบแต่ละชุดกำหนดให้นักเรียนแสดงบทบาทตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ จำนวน 8 สถานการณ์ ไปดำเนินกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-8
3) การตรวจสอบ (Check)
1. ผู้บริหาร คณะกรรมการนิเทศชั้นเรียน กำกับ ติดตามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกคน ได้รับการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ และหลังจากทำการสอนจนครบทั้ง 8 แผนการจัดการเรียนรู้แล้ว ครูทำการทดสอบวัดทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 24 คะแนน โดยใช้แบบประเมินทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกคน สมัครใจเข้าทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) และเข้าสอบตามวันเวลาที่กำหนด ด้วยข้อสอบ O-NET ปีการศึกษา 2565 จาก สทศ.
4) การรายงานผลเพื่อปรับปรุงพัฒนา (Action)
1. ครูผู้สอนสรุปผล/รายงานผล/ประเมินผล และนำผลการประเมิน มาปรับปรุงพัฒนาผลการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้
2. ครูวิชาการสรุปผล/รายงานผล/ประเมินผล และนำผลการประเมิน มาปรับปรุงพัฒนาผลทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565
6. ผลการดำเนินงาน
6.1 การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 12 คน โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ โดยการวิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบความสามารถด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
พบว่า คะแนนเฉลี่ยทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ของนักเรียนก่อนเรียน เท่ากับ 7.83 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.13 และคะแนนเฉลี่ยทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้ของนักเรียนหลังเรียน เท่ากับ 17.83 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.81 เมื่อเปรียบเทียบทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า ค่าสถิติ t มีค่า -25.69 และค่า Sig. (2-tailed) มีค่า .000 ซึ่งน้อยกว่าระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 แสดงว่า คะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมีความสัมพันธ์กันและนักเรียนได้รับการเรียนรู้ด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้แล้วมีคะแนนหลังสอบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ของการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้
พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนที่ได้จากเกณฑ์การประเมินทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในแต่ละด้าน หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนทุกด้าน และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงที่สุด คือ ด้านความเข้าใจง่าย ( = 5.00 S.D. = 1.04) รองลงมา คือ ด้านปริมาณการสื่อสาร ( = 4.83 S.D. = 1.03) และด้านคุณภาพของการสื่อสาร ( = 4.67 S.D. = 1.37) และด้านที่มีคะแนนน้อยที่สุด คือ ด้านความคล่องแคล่ว ( = 3.17 S.D. = 0.83) เมื่อเปรียบเทียบทักษะด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนในแต่ละด้าน พบว่า ทั้ง 4 ด้าน ค่า Sig. (2-tailed) มีค่า .000 แสดงว่าคะแนนหลังสอบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
6.2 ผลการประเมินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ตารางที่ 4 ตารางแสดงผลการประเมินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565
ผลการทดสอบรายวิชา คะแนนเฉลี่ยร้อยละจำแนกตามระดับ
โรงเรียน เขตพื้นที่ ประเทศ
ภาษาไทย 60.66 54.09 53.89
ภาษาอังกฤษ 39.84 32.59 37.62
คณิตศาสตร์ 33.31 26.96 28.06
วิทยาศาสตร์ 40.00 38.35 39.34
เฉลี่ยรวม 4 รายวิชา 43.45 37.99 39.73
จากตารางที่ 4 พบว่า ผลการประเมินเฉลี่ยวิชาภาษาอังกฤษคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 39.84 โดยในระดับโรงเรียนสูงกว่าทั้งระดับเขตพื้นที่ และระดับประเทศ
ตารางที่ 5 ตารางแสดงผลการประเมินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564-2565
ด้าน คะแนนเฉลี่ยร้อยละของโรงเรียน
ปีการศึกษา 2564 ปีการศึกษา 2565 ผลต่าง
2564-2565
ภาษาไทย 42.81 60.66 +17.85
ภาษาอังกฤษ 26.68 39.84 +13.16
คณิตศาสตร์ 30.63 33.31 +2.68
วิทยาศาสตร์ 28.85 40.00 +11.15
เฉลี่ยรวม 4 รายวิชา 32.24 43.45 +11.21
จากตารางที่ 5 พบว่า ผลการประเมินเฉลี่ยวิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2564 คือ 26.68 และผลการประเมินเฉลี่ยวิชาภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2565 คือ 39.84 โดยคะแนนเฉลี่ยรวมปีการศึกษา 2565 สูงขึ้นกว่าปีการศึกษา 2564 เท่ากับ 13.16
7. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
7.1 ครูผู้สอนมีการวิเคราะห์ผลการทดสอบระดับชาติเพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนาการจัดการเรียนการสอนอย่างเต็มศักยภาพ
7.2 ผู้บริหารให้ความสำคัญและกำกับ ติดตามอย่างต่อเนื่อง
7.3 ผู้ปกครองนักเรียนให้ความสำคัญและมีเวลาให้กับบุตรหลาน
7.4 นักเรียนให้ความสำคัญและตั้งใจเรียน
7.5 กระบวนการทำงานที่เป็นระบบ PDCA
8. บทเรียนที่ได้รับ
การทำงานที่เป็นระบบและความทุ่มเทเอาใจใส่ของผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานเพื่อปรับปรุงและพัฒนาทักษะการสื่อของนักเรียน ซึ่งนำไปสู่การเกิดผลการพัฒนาการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 ที่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้
ข้อเสนอแนะ
1) ควรศึกษาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ที่โรงเรียนควรพัฒนาในรายวิชาภาษาอังกฤษจากผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2565 เพื่อหากระบวนการ เทคนิควิธีอื่นๆ เพื่อใช้พัฒนาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ที่โรงเรียนควรเร่งพัฒนาเนื่องจากคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศมากที่สุดในปีการศึกษาต่อไป
9. การเผยแผร่/การได้รับการยอมรับ/และรางวัลที่ได้รับการยกย่อง
9.1 การเผยแพร่
โรงเรียนได้ดำเนินการเผยแพร่ทั้งในโรงเรียน โดยแจ้งให้คณะครูและนักเรียนทราบช่วงทำกิจกรรมหน้าเสาธง และเผยแพร่นอกโรงเรียนโดยการแจ้งให้ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ตลอดจนผู้สนใจผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น เสียงตามสายของโรงเรียน กลุ่ม Line ผู้ปกครองนักเรียน เพจ Facebook โรงเรียน
9.2 การได้รับการยอมรับ
1) คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาตลอดจนชุมชนมีความพึงพอใจต่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET)
2) ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) ปีการศึกษา 2565 มีการพัฒนาคะแนนเฉลี่ยรวมเพิ่มขึ้น 13.16 และสูงกว่าระดับจังหวัด ระดับเขตพื้นที่ และระดับประเทศ
9.3 รางวัลที่ได้รับ
1) ผู้สอนได้รับรางวัล "ผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษา" ของ สกสค. จังหวัดนครราชสีมา เนื่องในวันครู ครั้งที่ 67 ประจำปี 2566 ในวันที่ 16 มกราคม 2566