ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการวิจัยรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1

“รายงานการวิจัยรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1”

The Research Report Management Model to Enhance Active Learning

of Schools in Phitsanulok Primary Educational Service Area Office 1

เจนภพ ชัยวรรณ

Janephop Chaiwan

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนใน

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการ

บริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบ

การบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

พิษณุโลก เขต1 กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ผู้บริหารและครูผู้สอนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่

การศึกษาพิษณุโลก เขต 1 เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์สภาพปัญหาในการ

จัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียน แบบบันทึกการประชุมผู้เชี่ยวชาญ (Expert Meeting) เพื่อตรวจสอบ

ร่างรูปแบบ แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แบบบันทึกการประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการเรียนรู้

เชิงรุก แบบประเมินการจัดการเรียนรู้เชิงรุก และแบบประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการ

จัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียน ดำเนินการวิจัยโดย ศึกษาสภาพปัญหา สร้างและตรวจสอบรูปแบบ ทดลอง

ใช้รูปแบบ และประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียน สถิติที่ใช้

คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และค่าร้อยละ (Percent) นอกจากนี้

ผู้วิจัยยังใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียน ในภาพรวมการบริหารและ

การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลกเขต 1 มีปัญหาในระดับ มาก

เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีปัญหามากที่สุด คือ ด้านการวัดและประเมินผลการจัดการเรียนรู้ มีปัญหา

ในระดับ มากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก มีปัญหาในระดับ มาก 2) รูปแบบการบริหาร

จัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียน ใช้กระบวนการ SMART Model ประกอบด้วย

3 องค์ประกอบ คือ 1) ปัจจัยนำเข้า(INPUT) ได้แก่ นโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด 2) กระบวนการ

(PROCESS) มี 5 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหา(Surveying/นำทาง( ขั้นที่ 2 กำหนดกลยุทธ์ (Making

Strategies/วางธง( ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัติ (Action/ลงมือปฏิบัติ( ขั้นที่ 4 นิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผล(Romance Supervising/ทานตรวจ( และขั้นที่ 5 ประกาศผลสำเร็จ (Taking Encouragement/อวดผล)

และ 3) ด้านผลผลิต (OUTPUT) ได้แก่ การบริหารจัดการของโรงเรียน การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและพัฒนา

คุณภาพผู้เรียน 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า โรงเรียนในกลุ่มเป้าหมายมีค่าเฉลี่ยของการประเมินด้าน

การบริหารจัดการ และการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในระดับดีมาก ทั้งนี้ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการใช้รูปแบบ คือ

ความตระหนักและเห็นความสำคัญของผู้บริหารและครูในโรงเรียนที่ต้องมีความมุ่งมั่นในการจัดการเรียนรู้เชิง

รุกอย่างแท้จริง 4) ผลการประเมินรูปแบบ พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณา

รายด้าน พบว่า ด้านความถูกต้อง มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด อยู่ในระดับมาก รองลงมาได้แก่ ด้านความเหมาะสม

ด้านความเป็นประโยชน์ และด้านความเป็นไปได้ ตามลำดับ นอกจากนี้โรงเรียนกลุ่มเป้าหมายและผู้เชี่ยวชาญ

ได้รับรองรูปแบบว่ามีความเป็นประโยชน์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้จริง

คำสำคัญ : รูปแบบการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของโรงเรียน

Abstract

The objectives are to 1) study the problems in Active Learning of schools in

Phitsanulok Primary Educational Service Area Office 1 2) to create and examine management

model to enhance Active Learning of schools in Phitsanulok Primary Educational Service Area

Office 1 3) to tryout the management model to enhance Active Learning of schools in

Phitsanulok Primary Educational Service Area Office 1 and 4) to study the results of using

management model to enhance Active Learning of schools in Phitsanulok Primary Educational

Service Area Office 1. The samples were consisted of 40 administrators and teachers from

educational opportunity extension schools. The research instruments included the

questionnaires on problems in Active Learning management, the suitable evaluation form of

model and manual for using management model to enhance Active Learning in schools and

the evaluation output of using management models to enhance Active Learning in schools.

Research conducted by study the problems in Active Learning management, create and

examine the management model to enhance Active Learning in schools, tryout and study the

results of using management models to enhance Active Learning in schools. Data were

analyzed using, Mean, Standard Deviation, Percentages and Content Analysis.

The results were as follows: 1) the problems on Active Learning in schools was found

that management model to enhance Active Learning, the factors supporting management

model to enhance Active Learning, the Active Learning management and the measurement

and evaluation of Active Learning had the problem at a moderate level, in terms of enhancing

and supporting Active Learning, the design of Active Learning management, the writing plansof Active Learning had a problem at a high level. 2) the management model to enhance Active

Learning in schools using the SMART Model process, consisting of 3 elements: (1) INPUT which

include policies from the original affiliation, (2) The PROCESS has 5 steps: Step 1: study the

problem and needs. (Surveying/leading), step 2: setting strategies (Making Strategies/setting

goals), step 3: implementing (Action/implementation), step 4 supervising, monitoring and

evaluating (Romance Supervising/reviewing) and step 5 announcing the success (Taking

Encouragement/Show the results) and (3) OUTPUT, including the management in schools,

Active Learning management and learner quality were found that the elements of the model

and manual for using the management model to enhance Active Learning in schools had an

appropriate at the highest level and 4) the evaluating of using management models to

enhance Active Learning was found that schools management in the aspect of Active Learning

management and learner quality had the operating at the highest level.

Keyword: Management Model to Enhance Active Learning of Educational Institutions

โพสต์โดย เจนภพ ชัยวรรณ : [6 มี.ค. 2567 (12:07 น.)]
อ่าน [83609] ไอพี : 1.2.161.242
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,591 ครั้ง
ใบชะมวง ต้านมะเร็งและแบคทีเรีย
ใบชะมวง ต้านมะเร็งและแบคทีเรีย

เปิดอ่าน 19,435 ครั้ง
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย

เปิดอ่าน 17,393 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง

เปิดอ่าน 41,805 ครั้ง
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การใช้ตราสัญลักษณ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 20,407 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง

เปิดอ่าน 11,272 ครั้ง
คลิปน่ารัก เด็กชายวัย4ขวบร้องเพลงแบบอินสุดๆ
คลิปน่ารัก เด็กชายวัย4ขวบร้องเพลงแบบอินสุดๆ

เปิดอ่าน 2,294 ครั้ง
รองเท้าเหม็นแก้ยังไงดี?
รองเท้าเหม็นแก้ยังไงดี?

เปิดอ่าน 24,553 ครั้ง
เครื่องหมาย *, # ในโทรศัพท์มีไว้ทำไม
เครื่องหมาย *, # ในโทรศัพท์มีไว้ทำไม

เปิดอ่าน 57,040 ครั้ง
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?
ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?

เปิดอ่าน 17,171 ครั้ง
8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ
8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ

เปิดอ่าน 11,281 ครั้ง
9 ตุลาคม วันไปรษณีย์โลก
9 ตุลาคม วันไปรษณีย์โลก

เปิดอ่าน 37,189 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน

เปิดอ่าน 68,660 ครั้ง
ฟื้นความทรงจำ  ลำนำบทอาขยานย้อนยุค
ฟื้นความทรงจำ ลำนำบทอาขยานย้อนยุค

เปิดอ่าน 17,268 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย

เปิดอ่าน 10,836 ครั้ง
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด
ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ นโยบายปฏิรูปที่ใกล้ตัวนักเรียนมากที่สุด

เปิดอ่าน 19,307 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
เปิดอ่าน 24,404 ครั้ง
แอร์รถมีกลิ่นตอนเปิด เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร
แอร์รถมีกลิ่นตอนเปิด เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร
เปิดอ่าน 17,330 ครั้ง
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม
เครื่องเรือน อาวุธ และเครื่องนุ่งห่มกับตัวไม้ประกอบเรือนของชาวสยาม
เปิดอ่าน 10,511 ครั้ง
บททดสอบก่อนเกษียณ
บททดสอบก่อนเกษียณ
เปิดอ่าน 16,807 ครั้ง
เกิดทฤษฎีอันใหม่ดาวพุธกับดาวศุกร์ เป็นเศษเดน ของโลก
เกิดทฤษฎีอันใหม่ดาวพุธกับดาวศุกร์ เป็นเศษเดน ของโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ