ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียน 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดท่าต้นกวาว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ได้ ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดท่าต้นกวาว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้อง รวมทั้งหมด 34 คน พิจารณาจากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 2 ปีการศึกษาย้อนหลัง คือ ปีการศึกษา 2564 และปีการศึกษา 2565 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัย (Multiple Choices) ชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อซึ่งใช้เป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pre - test) และหลังเรียน (Post - test) 2. แบบฝึกทักษะเรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป เกี่ยวกับการมุ่งมั่นในการทำงาน เล่มที่ 2 การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป เกี่ยวกับความมีวินัย เล่มที่ 3 การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป เกี่ยวกับการอดทน 3. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 11 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลาทั้งหมด 11 ชั่วโมง ซึ่งรวมเวลาทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pre - test) และหลังเรียน (Post - test) ด้วย 4. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะเรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ

ผลการวิจัยเป็นดังนี้

1. ผลการหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.32/86.27 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่ผ่านการจัดการเรียนรู้ เรียน เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความสำคัญนิทานอีสป โดยใช้แบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA MODEL สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( 4.68, S.D. = 0.50)

โพสต์โดย KruPreem : [1 มี.ค. 2567 (10:07 น.)]
อ่าน [64026] ไอพี : 61.90.178.154
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,895 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม

เปิดอ่าน 12,186 ครั้ง
ทำตัวเตี้ย เทรนด์ฮา จากเกาหลี บอกเลยกำลังฮิตสุดๆ
ทำตัวเตี้ย เทรนด์ฮา จากเกาหลี บอกเลยกำลังฮิตสุดๆ

เปิดอ่าน 18,133 ครั้ง
คนทึ่ง ชมคลิปวาดภาพเหมือน "มอร์แกน ฟรีแมน" บนไอแพด 9 ล้านวิว
คนทึ่ง ชมคลิปวาดภาพเหมือน "มอร์แกน ฟรีแมน" บนไอแพด 9 ล้านวิว

เปิดอ่าน 15,202 ครั้ง
ADSL ทำงานอย่างไร?
ADSL ทำงานอย่างไร?

เปิดอ่าน 1,280 ครั้ง
เทคนิคการเลือกใช้บริการซ่อมหลังคาโรงงาน
เทคนิคการเลือกใช้บริการซ่อมหลังคาโรงงาน

เปิดอ่าน 29,215 ครั้ง
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 16,684 ครั้ง
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)
ทำความรู้จักโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA)

เปิดอ่าน 12,863 ครั้ง
วิธีลดความมันบริเวณรอบจมูก
วิธีลดความมันบริเวณรอบจมูก

เปิดอ่าน 11,682 ครั้ง
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า
วิธีลดลอยแผลขรุขระบนใบหน้า

เปิดอ่าน 9,755 ครั้ง
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่
หมอแนะกินผัก ผลไม้ป้องกันไข้หวัดใหญ่

เปิดอ่าน 14,994 ครั้ง
 วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 122,401 ครั้ง
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า
อย่างเทพ! มาดูคลิปที่ใครดูต้องอมยิ้ม เมื่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเตรียมตัวไปโรงเรียนให้ลูกตอนเช้า

เปิดอ่าน 53,546 ครั้ง
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน
คำกล่าวทักทาย กลุ่มประเทศอาเซียน

เปิดอ่าน 736 ครั้ง
รวม 7 อาชีพหารายได้หลังเกษียณ ใช้เวลาว่างให้มีค่า
รวม 7 อาชีพหารายได้หลังเกษียณ ใช้เวลาว่างให้มีค่า

เปิดอ่าน 6,634 ครั้ง
แนะวิธีเลี้ยงผึ้งโพรงสำหรับเกษตรกรมือใหม่
แนะวิธีเลี้ยงผึ้งโพรงสำหรับเกษตรกรมือใหม่

เปิดอ่าน 15,709 ครั้ง
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59
อาชีพในฝันเด็กไทยปี 59
เปิดอ่าน 28,586 ครั้ง
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
เปิดอ่าน 401,147 ครั้ง
สุภาษิตอิศรญาณ
สุภาษิตอิศรญาณ
เปิดอ่าน 25,658 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
เปิดอ่าน 76,779 ครั้ง
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ