ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางณัฐินี เกียรติพิริยะ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง
ปีที่ทำวิจัย 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถใน การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ 4) ประเมินผลรูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ชลบุรี ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Research: R1) ประกอบด้วย การพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ทฤษฎีการสอนภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เพื่อพัฒนารูปแบบการสอน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการสอน (Development: D1) ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการสอน (Research: R2) ขั้นตอนที่ 4 พัฒนา (Development: D2) โดยนำผลการประเมินในขั้นตอนที่ 3 มาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ได้รูปแบบการสอนที่สมบูรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ t - test และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 1) ด้านนักเรียน นักเรียนมีปัญหาและปัจจัยที่มีผลต่อปัญหาในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ ความเข้าใจที่แตกต่างกัน สำหรับปัญหาในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจพบว่า ปัญหาในด้านคำศัพท์เป็นปัญหาที่พบมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ด้านความเข้าใจ ด้านไวยากรณ์ จึงส่งผลให้การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนยังไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ 2) ด้านครูผู้สอน ครูผู้สอนใช้รูปแบบการสอนเดิม ๆ ยึดเอกสารประกอบการสอนเป็นหลัก จากหนังสือแบบเรียนสำนักพิมพ์ต่าง ๆ และวัดผลประเมินผลจากการทดสอบเป็นหลัก ขาดแนวคิดหรือทฤษฎีที่นำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ
2. รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น คือ รูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถ ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ มี 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม ขั้นที่ 2 ขั้นเรียนรู้คำศัพท์ ขั้นที่ 3 ขั้นสอนเทคนิคการอ่านเพื่อความเข้าใจ ขั้นที่ 4 ขั้นนำเสนอเนื้อหาใหม่สัมพันธ์กับความรู้เดิม ขั้นที่ 5 ขั้นตรวจสอบกลวิธีการอ่าน และ ขั้นที่ 6 ขั้นนำความรู้ไปใช้ และ 5) การวัดและประเมินผล การตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่ามีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.68 , SD = 0.56) ผลการทดลองนำร่องเพื่อศึกษาความเป็นไปได้พบว่า รูปแบบ การสอนมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.57/82.89 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนพบว่า ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ ความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยรูปแบบ การสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) สูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินผลรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น คือ รูปแบบการสอนตามแนวคิดเนื้อหาเป็นฐาน (Content-Based Instruction - CBI) ผสานหลักการอ่านเชิงรุก (ACTIVE Reading) ที่ส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.57 , SD = 0.55) และครูผู้สอนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.86 , SD = 0.58)