ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรี
เรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา นายเสกสรรค์ พรมไชยา
สถานศึกษา โรงเรียนพนาลัยวิทยาเสริม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ดเขต 3
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2554
บทคัดย่อ
จากสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาดนตรีที่ผ่านมา พบว่า ครูผู้สอนจัดการเรียน
การสอน แบบมุ่งเน้นเนื้อหาวิชามากเกินไป และขาดสื่อในการเรียนการสอน การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและพัฒนาชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดังนั้นในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ จึงมีความมุ่งหมาย (1) เพื่อพัฒนาชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระดนตรี เรื่อง การเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อหาประสิทธิผลของชุดการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระดนตรี เรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้น (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระดนตรี เรื่อง การเป่าโหวด ก่อนเรียนและหลังเรียน (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนการสอนดนตรี โดยใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนพนาลัยวิทยาเสริม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ดเขต 3 จำนวน 30 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบด้วย ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางดนตรีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด เป็นแบบ ปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของนักเรียนที่ได้รับการเรียนโดยใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 82.48/85.83
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ ชุดการสอน เรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ .6352 แสดงว่าการสอนโดยใช้ชุดการสอน ทำให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.52
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการสอน เรื่องการเป่าโหวด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยชุดการสอนที่พัฒนาขึ้น โดยมีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.49
จากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้สรุปได้ว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสาระดนตรีเรื่องการเป่าโหวด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น และมีความพึงพอใจต่อการเรียนอยู่ระดับมาก จึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ครู นำไปใช้จัดการเรียนการสอนต่อไป