ชื่อเรื่อง การพัฒนาและการบริหารงานเพื่อลดภาวะซึมเศร้าของนักเรียน โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก ด้วยหลักสูตรยุวสาสมาธิ
ผู้วิจัย นางทิชากร พิมพ์ทอง
หน่วยงาน โรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
ปีที่พิมพ์ ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ
จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีเป้าหมายเพื่อหาแนวทางแก้ไขบำบัดและลดระดับภาวะซึมเศร้าของนักเรียนโรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก โดยผ่านครูผู้สอน ทำการศึกษาสำรวจข้อมูลภาวะซึมเศร้าและบำบัดด้วยสมาธิ มุ่งเสาะแสวงหาความรู้ และประยุกต์ใช้ความรู้หรือวิทยาการต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ในทางปฏิบัติหรือเป็นการวิจัยที่นำผลที่ได้ไปแก้ปัญหา และ ลดภาวะซึมเศร้าระหว่างวันที่ 9 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 - วันที่ 31 เดือน มกราคม พ.ศ. 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาประสิทธิผล หลักสูตรยุวสาสมาธิกับนักเรียนโรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก 2. เพื่อลดระดับภาวะซึมเศร้าของนักเรียนโรงเรียนเบ็ตตี้ดูเมน 2 ช่องเม็ก ที่มีภาวะซึมเศร้ามากและรุนแรง 3. เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการบริหารส่งเสริมสุขภาวะทางจิตของนักเรียนที่มีภาวะซึมเศร้า โดยเปรียบเทียบระดับภาวะซึมเศร้าก่อนและหลังการเข้าร่วมหลักสูตรยุวสาสมาธิเมื่อระยะเวลาผ่านไป 1 เดือน ระดับภาวะซึมเศร้าจะลดลงหรือไม่อย่างไร
การดำเนินการคัดกรองกลุ่มตัวอย่างโดยผ่านการประเมินแบบประเมินสุขภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่น ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 2 ครั้ง มีนักเรียนที่มีภาวะซึมเศร้าในระดับมากและรุนแรง จำนวน 24 คน ที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาและจิตบำบัดร่วมกับสมาธิบำบัด ผู้วิจัยใช้สมาธิบำบัด โดยนำเอาหลักสูตรยุวสาสมาธิ จากสถาบันพลังจิตตานุภาพ มูลนิธิหลวงพ่อหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร มาอบรมให้ความรู้กับนักเรียนทุกคน ระหว่างวันที่ วันที่ 10 - 11 กรกฎาคม 2566 สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระหว่างวันที่ วันที่ 3 - 4 สิงหาคม 2566 สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หลังจากอบรมให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายทำสมาธิทุกวัน วันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 5 นาที ช่วงเช้า เที่ยง และก่อนนอน ช่วงเช้าโรงเรียนให้นักเรียนทำสมาธิทุกวันหลังทำกิจกรรมหน้าเสาธงเป็นเวลา 5 นาที
เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย เครื่องมือการวิจัย จำนวน 2 แบบ ดังนี้ 1. แบบประเมินสุขภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่น ได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดอุบลราชธานี ทำการประเมินก่อนและหลังการประเมิน เพื่อศึกษาว่าหลักสูตรยุวสาสมาธิจะช่วยให้นักเรียนที่มีภาวะซึมเศร้า (Depression) มากและรุนแรง จำนวน 24 คน สุขภาวะทางจิตดีขึ้นหรือไม่ ระดับภาวะซึมเศร้ามากขึ้นหรือน้อยลงเพียงใด 2. แบบสังเกตพฤติกรรม โดยผ่านครูผู้สอนเพื่อยืนยันการตอบแบบสอบประเมินความรู้สึกของนักเรียน
การดำเนินการวิจัยภายหลังคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างตามที่กำหนดไว้ ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการวิจัยวิธีการดำเนินการวิจัย และการพิทักษ์สิทธิ์ผู้เข้าร่วมวิจัย การเก็บข้อมูลติดตามผลของแนวปฏิบัติตามหลักสูตรยุวสาสมาธิ 4 สัปดาห์ สถิติที่นำมาวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และการทดสอบที (t - test)
ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยของระดับความรู้สึกซึมเศร้าผ่านแบบประเมินภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่น หลังการอบรมหลักสูตรยุวสาสมาธิ คะแนนภาวะซึมเศร้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่มีความรู้สึกซึมเศร้าลดลง 21 คน คิดเป็นร้อยละ 87.50 และมีความรู้สึกเศร้าเพิ่มมากขึ้น 3 คน คิดเป็นร้อยละ 12.50 และคะแนนเฉลี่ยจากแบบสังเกตพฤติกรรมผ่านครูผู้สอน มีค่าแตกต่างก่อนและหลังการอบรมหลักสูตรยุวสาสมาธิอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นักเรียนมีความรู้สึกซึมเศร้าลดลง 22 คน คิดเป็นร้อยละ 91.67 และมีความรู้สึกเศร้าเพิ่มมากขึ้น 2 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33 จากนักเรียนที่มีภาวะซึมเศร้า จำนวน 24 คน
นักเรียนที่มีภาวะซึมเศร้าไม่ลดลงจำนวน 3 คน จากนักเรียนเข้าร่วมโครงการ 24 คน คิดเป็นร้อยละ 12.5 ส่วนใหญ่มากจากครอบครัวของนักเรียนมีปัญหาเกินกว่าตัวนักเรียนจะแก้ บิดามารดาหย่าร้าง ติดยาเสพติด เป็นต้น และนักเรียนไม่ให้ความสำคัญหรือไม่มีความตั้งใจที่จะฝึกทำสมาธิ
จากข้อมูลการวิจัยใช้เครื่องมือ ทั้ง 2 แบบร่วมกันระหว่างแบบประเมินภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่นและแบบสังเกตพฤติกรรมผ่านครูผู้สอน สรุปได้ว่านักเรียนส่วนใหญ่มีภาวะซึมเศร้าลดลง