ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย

บทคัดย่อ

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย

ผู้ประเมิน : นางสาวรัลชพัฒน์ นนภิภัทรพนต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย

หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2

ปีที่ประเมิน : 2564

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทหรือสภาพแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และศึกษาผลที่เกิดขึ้นของการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านต่อสถานศึกษา ครูผู้สอน และนักเรียนโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (Context Input Process Product Evaluation Model : CIPP Model) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีจำนวนทั้งสิ้น 92 คน แบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงการ จำนวน 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ครูผู้สอนจำนวน 3 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 41 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 41 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย แบบสอบถามความคิดเห็น จำนวน 5 ฉบับ มีการตรวจสอบค่าความเชื่อมั่น อยู่ระหว่าง .742 - .846 และศึกษาผลที่เกิดขึ้นด้านสถานศึกษา และนักเรียนเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows ผลการประเมิน และข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้

ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ในภาพรวมทั้ง 4 ด้าน พบว่า ผลการประเมิน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้านปรากฏว่า ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ และด้านผลผลิตของโครงการมีค่าเฉลี่ยสูงสุดซึ่งอยู่ในระดับมากรองลงมา คือ ด้านกระบวนการของโครงการ อยู่ในระดับมาก และด้านบริบทของโครงการ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมากและทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งผลการประเมินในแต่ละด้านมีรายละเอียด ดังนี้

1. ด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context Evaluation) ในการดำเนินโครงการ

1.1 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านบริบทของโครงการ พบว่า ผลการประเมิน ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า ความเป็นไปได้ของการบรรลุเป้าหมายของโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุดรองลงมา ได้แก่ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับหลักสูตรและนโยบายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับอยู่ในระดับมากที่สุดโดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ในการดำเนินโครงการ

2.1 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ตามความคิดเห็นของครูผู้สอนด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ พบว่า ผลการประเมิน ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า การจัดอาคารสถานที่ห้องปฏิบัติการตามโครงการมีความเหมาะสมและเพียงพอ อยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ การได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานต้นสังกัด อยู่ในระดับมากที่สุดโดยทุกรายการผ่านเกณฑ์ การประเมิน

2.2 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ พบว่า ผลการประเมิน ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า จัดแหล่งเรียนรู้เพื่อการศึกษาค้นคว้าอย่างเหมาะสมและเพียงพอ อยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ มีวัสดุ อุปกรณ์สนับสนุนกิจกรรมอย่างเพียงพออยู่ในระดับมากที่สุดโดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

2.3 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ด้านปัจจัยนำเข้าโครงการ ในภาพรวม 2 กลุ่ม อยู่ในระดับมาก โดยกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ กลุ่มครูผู้สอนอยู่ในระดับมาก โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

3. ด้านกระบวนการ (Process) ในการดำเนินโครงการ

3.1 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ด้านกระบวนการดำเนินการของครูผู้สอน เกี่ยวกับการดำเนินงาน พบว่า ผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า การประเมินผลการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ การมีส่วนร่วมของครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง การส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

3.2 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้ายด้านกระบวนการดำเนินการของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการดำเนินงาน พบว่า ผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า การสร้างแรงจูงใจ โดยยกย่องเชิดชู ครูผู้สอน และนักเรียน ด้านรักการอ่านอย่างสม่ำเสมออยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ การประเมินผลการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

3.3 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ด้านกระบวนการดำเนินการของผู้ปกครองนักเรียน เกี่ยวกับการดำเนินงาน พบว่า ผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า การมีส่วนร่วมของครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครองอยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ การนิเทศ ติดตาม กำกับการดำเนินงาน โครงการตามขั้นตอนที่กำหนดทุกระยะการส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนา กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

3.4 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้ายด้านกระบวนการดำเนินโครงการ ในภาพรวม 3 กลุ่ม อยู่ในระดับมากโดยกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ ผู้ปกครองนักเรียน อยู่ในระดับมาก โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

3.5 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้ายด้านกระบวนการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของครูผู้สอนตามความคิดเห็นของนักเรียนพบว่าผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า การเอาใจใส่ และดูแลผู้เรียนอย่างทั่วถึงอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ มีการวัดและประเมินกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านอยู่ในระดับ มากที่สุด โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

4. ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ในการดำเนินโครงการ

4.1 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้ายด้านผลผลิตของโครงการ ดังนี้

4.1.1 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย ด้านผลผลิตของโครงการผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านโดยรวมปฏิบัติประจำ ร้อยละ 90.24 และปฏิบัติเป็นบางครั้ง ร้อยละ 9.76 เมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่า นักเรียนปฏิบัติได้สูงสุด จำนวน 6 รายการคือ นักเรียนอ่านวารสารและหนังสือพิมพ์เป็นประจำ นักเรียนสรุปประเด็น และจดบันทึกข้อมูล ความรู้ที่ได้จากเรื่องที่อ่านอยู่เสมอ นักเรียนรู้จักการค้นคว้าหาหนังสือในห้องสมุด และใช้ห้องสมุดไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง นักเรียนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ทั้งใน และนอกโรงเรียน นักเรียนใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือ และนักเรียนจะอ่านหนังสือทั่ว ๆ ไปไม่เฉพาะหนังสือตามหลักสูตรร้อยละ 100 รองลงมา คือ นักเรียนอ่านหนังสือนอกหลักสูตรอย่างน้อยวันละ 15 นาทีร้อยละ 95.12 นักเรียนชอบอ่านหนังสือประเภทอื่น ๆ ที่มีอยู่ในบ้าน ร้อยละ 78.05 นักเรียนจะอ่านหนังสือโดยไม่ให้ผู้อื่นคอยเตือน ร้อยละ 73.17 และนักเรียนสามารถค้นคว้าหาความรู้จากอินเตอร์เน็ต หรือสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ร้อยละ 56.09 ตามลำดับ โดยผ่านเกณฑ์การประเมินที่ตั้งไว้คือ นักเรียนร้อยละ 85 ที่มีนิสัยรักการอ่าน

4.1.2 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียน

บ้านสะเดาซ้าย ด้านผลผลิตของโครงการตามความคิดเห็นของครูผู้สอนเกี่ยวกับคุณลักษณะใฝ่เรียนรู้ของนักเรียนพบว่า ผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า การมีกระบวนการคิดปฏิบัติและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ การใฝ่รู้ใฝ่เรียน ศึกษาค้นคว้าหาความรู้อย่างสม่ำเสมอโดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.1.3 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียน

บ้านสะเดาซ้าย ด้านผลผลิตของโครงการตามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียน เกี่ยวกับคุณลักษณะใฝ่เรียนรู้ของนักเรียนพบว่า ผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่า มีการสืบค้นคว้าหาความรู้จากอินเตอร์เน็ต (Internet) หรือสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ มีการสังเคราะห์/วิเคราะห์และสรุปความรู้/ประสบการณ์ได้อย่างมีเหตุผล โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.1.4 ผลการประเมินการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียน

บ้านสะเดาซ้าย ด้านผลผลิตโครงการภาพรวมทั้ง 2 กลุ่ม อยู่ในระดับมาก โดยกลุ่มครูผู้สอนอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยรองลงมา ได้แก่ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน อยู่ในระดับมาก โดยทุกรายการผ่านเกณฑ์การประเมิน

5. ผลกระทบจากการดำเนินโครงการ

5.1 ผลการศึกษาผลกระทบของการดำเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย พบว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเป็นกิจกรรมที่มุ่งกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจอยากรู้ อยากอ่านจนสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย สถานศึกษาสามารถนำการอ่านเข้าไปอยู่ในกระบวนการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนได้ตามศักยภาพ และต้องจัดกิจกรรมการอ่านเป็นกิจกรรมเสริมนอกเหนือเวลาเรียน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการอ่านอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนเป็นนิสัย ดังนั้นจากการศึกษาผลในการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนบ้านสะเดาซ้าย จากการดำเนินงานก่อให้เกิดผลที่เกิดขึ้นทั้งต่อสถานศึกษา ครูผู้สอน และนักเรียน ดังนี้

ด้านสถานศึกษา โรงเรียนบ้านสะเดาซ้ายได้รับเกียรติบัตรคะแนนสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 ค่าเฉลี่ยรวม (คะแนนเฉลี่ย 46.27) สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ (คะแนนเฉลี่ย 40.93) จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 ประกอบด้วย 4 วิชาดังนี้

1) วิชาภาษาไทย คะแนนเฉลี่ย 54.83

2) วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเฉลี่ย 48.96

3) วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ย 38.33

4) วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเฉลี่ย 42.98

ด้านครูผู้สอน ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติและรางวัลของหน่วยงานต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1) นางสาวกวินนาฎ ราชทะคันที ได้รับรางวัลครูที่ปฏิบัติการสอนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดีเด่น ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2

2) นายธีรศักดิ์ พระสว่าง ได้รับรางวัลบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านจรรยาบรรณวิชาชีพ

ดีเด่น ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 เนื่องในงานวันครู ครั้งที่ 66 ตามประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2 เรื่องรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2564 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติเนื่องในงานวันครูครั้งที่ 66 พ.ศ. 2565 ประกาศ ณ วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2565

ด้านนักเรียน ได้รับรางวัลดังนี้ เด็กหญิงกานต์สินี อุดมสารี ได้รางวัลเหรียญทองชนะเลิศกิจกรรมแข่งขันเขียนเรียงความ ชั้น ป.4-ป.6 การแข่งขันกิจกรรมทักษะภาษาไทย ในโครงการรักษ์ภาษาไทยเนื่องในสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ 2565 ประจำปีการศึกษา 2564 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 2

โพสต์โดย ต้นโอ๋ : [17 ก.พ. 2567 (11:53 น.)]
อ่าน [1191] ไอพี : 122.155.35.19
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,843 ครั้ง
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก
5 ประโยชน์จากน้ำมันมะกอก

เปิดอ่าน 10,708 ครั้ง
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏
สมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ไข้หวัดใหญ่‏

เปิดอ่าน 38,884 ครั้ง
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประโยชน์ของการเล่นกีฬาเทควันโด

เปิดอ่าน 20,484 ครั้ง
ฝนดาวตกสิงโต
ฝนดาวตกสิงโต

เปิดอ่าน 33,018 ครั้ง
เทคนิคการวิ่งไม่ให้ปวดเข่า
เทคนิคการวิ่งไม่ให้ปวดเข่า

เปิดอ่าน 13,737 ครั้ง
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....
เมื่อสุนัขตำรวจปลดเกษียณ สิ่งที่มนุษย์มอบให้คือ.....

เปิดอ่าน 9,855 ครั้ง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง

เปิดอ่าน 12,082 ครั้ง
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด

เปิดอ่าน 2,488 ครั้ง
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด
Customer data platform (CDP) โปรแกรมที่คนทำธุรกิจไม่ควรพลาด

เปิดอ่าน 13,536 ครั้ง
ดูแลสุขภาพแบบไทย
ดูแลสุขภาพแบบไทย

เปิดอ่าน 26,146 ครั้ง
แมงมุม
แมงมุม

เปิดอ่าน 21,099 ครั้ง
สนามเด็กเล่น แหล่งรวมเกมส์ ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้
สนามเด็กเล่น แหล่งรวมเกมส์ ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้

เปิดอ่าน 27,023 ครั้ง
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย

เปิดอ่าน 18,816 ครั้ง
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน
รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 กับฉบับ 2549 เหมือน-ต่างกันตรงไหน

เปิดอ่าน 21,099 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 22,441 ครั้ง
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)
คู่มือประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม(พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาปฐมวัย (2-5ปี) ฉบับสถานศึกษา(แก้ไข)
เปิดอ่าน 67,429 ครั้ง
เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 15,633 ครั้ง
การศึกษาเท่านั้นที่ทำให้ประเทศเจริญ : โดย สุกรี เจริญสุข
การศึกษาเท่านั้นที่ทำให้ประเทศเจริญ : โดย สุกรี เจริญสุข
เปิดอ่าน 43,233 ครั้ง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
เปิดคู่มือ สามี-ภรรยา แยกยื่นภาษี หักค่าลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง
เปิดอ่าน 9,807 ครั้ง
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"
เตือนปั่นจักรยานหนักกระเทือน จนเป็นเหตุให้ "นกเขาไม่ขันได้"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ