ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จั

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร มีวัตถุประสงค์ของวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบางลายพิทยาคม อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 25 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ 2 รหัส 20204 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 7 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ 2 รหัส 20204 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดหรือไม่ตอบได้ 0 คะแนน 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ จำนวน 15 ข้อ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือกตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดหรือไม่ตอบได้ 0 คะแนน4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 15 ข้อ ลักษณะข้อสอบเป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือกตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดหรือไม่ตอบได้ 0 คะแนน 5) แบบประเมินรูปแบบหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร และ 6) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัย

1. ข้อมูลสภาพปัจจุบันและสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนและความต้องการจำเป็นของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในการส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนลงมือในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ตนเอง โดยผู้สอนจะต้องเปลี่ยนบทบาท จากผู้ให้ความรู้ มาเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้คอยให้คำแนะนำเมื่อผู้เรียนประสบปัญหากระตุ้นให้ผู้เรียนปฏิบัติงานในกลุ่ม ในการที่จะคิดพิจารณาประเด็นคำถามและสนับสนุนด้วยการแนะนำให้พวกเขาต่อสู้กับปัญหาและกระตุ้นให้เกิดความท้าทาย ดังนั้นจึงเป็นแนวคิด ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งเสริมและฝึกฝนให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีทักษะในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร ที่พัฒนาขึ้น มีชื่อว่า “7S MODEL” มีองค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 8 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการเรียนการสอน 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง 6) สิ่งสนับสนุน 7) เงื่อนไขของการนำรูปแบบไปใช้ 8) ผลที่เกิดจากการใช้รูปแบบ กระบวนการเรียนการสอนมี 6 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 กระตุ้นให้คิด (Stimulus: S) ขั้นที่ 2 ดุลพินิจเลือกเฟ้น (Selecting: S) ขั้นที่ 3 สืบค้นประเด็นที่เกี่ยวข้อง (Searching: S) ขั้นที่ 4 ศึกษาตรึกตรองจนถ้วนถี่ (Studying: S) ขั้นที่ 5 สรุปสิ่งที่เรียน (Summarizing: S) ขั้นที่ 6 นำผลงานสู่สังคม (Sharing and Showing: S and S) เมื่อนำไปทดลองใช้กับนักเรียนในกลุ่มภาคสนาม จำนวน 30 คน พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.00/81.25 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 ความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร พบว่า

4.1 ผลการประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนว คอนสตรัคชั่นนิสซึม เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางลายพิทยาคม จังหวัดพิจิตร พบว่า โดยภาพรวมมีค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 3.83, S.D. = 1.04)

4.2 ผลของการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบางลายพิทยาคม ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแนวคอนสตรัคชั่นนิสซึม พบว่า ความพึงพอใจ รวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.00, S.D. = 1.08)

โพสต์โดย ครูช้าง : [5 ก.พ. 2567 (21:55 น.)]
อ่าน [2287] ไอพี : 124.122.45.99
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 34,916 ครั้ง
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21
ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 15,121 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก

เปิดอ่าน 26,283 ครั้ง
"กระถางแก้มลิง" โฉมใหม่!! รดน้ำหนเดียวอยู่เป็นเดือน
"กระถางแก้มลิง" โฉมใหม่!! รดน้ำหนเดียวอยู่เป็นเดือน

เปิดอ่าน 11,431 ครั้ง
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)
สำคัญที่ผู้สอน (ครู, อาจารย์)

เปิดอ่าน 9,067 ครั้ง
"เวอร์ชวล ไครม" อาชญากรรมโลกเสมือน!
"เวอร์ชวล ไครม" อาชญากรรมโลกเสมือน!

เปิดอ่าน 12,936 ครั้ง
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด

เปิดอ่าน 3,707 ครั้ง
ระบบหายใจ (respiration)
ระบบหายใจ (respiration)

เปิดอ่าน 52,834 ครั้ง
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ “โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้” เต็มรูปแบบ
ถอดรหัส SLC แดนปลาดิบ ผ่าน 2 กูรูด้านการศึกษา เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยสู่ “โรงเรียนชุมชนแห่งการเรียนรู้” เต็มรูปแบบ

เปิดอ่าน 9,580 ครั้ง
6 ไอเดียเด็ดสื่อรักให้แม่ แบบไม่ต้องออกนอกกรุง
6 ไอเดียเด็ดสื่อรักให้แม่ แบบไม่ต้องออกนอกกรุง

เปิดอ่าน 18,462 ครั้ง
ที่มาของคำว่า "อัสสัมชัญ"
ที่มาของคำว่า "อัสสัมชัญ"

เปิดอ่าน 38,978 ครั้ง
Public Domain คืออะไร?
Public Domain คืออะไร?

เปิดอ่าน 28,756 ครั้ง
กฎ  ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)

เปิดอ่าน 24,003 ครั้ง
ตัวหนังสือไทย
ตัวหนังสือไทย

เปิดอ่าน 14,398 ครั้ง
สีสวยใน "แหนม" ของแถมที่ต้องเลี่ยง
สีสวยใน "แหนม" ของแถมที่ต้องเลี่ยง

เปิดอ่าน 12,913 ครั้ง
คิดสักนิด...เพื่อจิตบริสุทธิ์
คิดสักนิด...เพื่อจิตบริสุทธิ์

เปิดอ่าน 11,216 ครั้ง
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน
เปิดอ่าน 18,217 ครั้ง
ภาพแบบ Vector
ภาพแบบ Vector
เปิดอ่าน 25,846 ครั้ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
เปิดอ่าน 24,013 ครั้ง
"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล
"ของเล่นบ้านๆ" สื่อพัฒนาทักษะเด็กปฐมวัยในยุคดิจิทัล
เปิดอ่าน 14,080 ครั้ง
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ