การพัฒนารูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของการรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 4) เพื่อประเมินรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/14 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัยจำนวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) คู่มือการใช้รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบวัดความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6) แบบประเมินรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา
สรุปผลการวิจัย
1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอนพลศึกษาตาม เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดังนี้
1.1 สภาพการจัดการเรียนการสอนพลศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งมีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.39 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.66
1.2 ความต้องการในการจัดการเรียนรู้พลศึกษา ของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของคณะกรรมการบริหารวิชาการ พบว่า ครูมีความต้องการในการจัดการเรียนรู้ เน้นการฝึกกระบวนการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้ โดยผ่านกระบวนการฝึกทักษะการปฏิบัติกิจกรรม เพื่อค้นพบองค์ความรู้ที่มีคุณภาพ นำไปสู่การปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ จึงต้องการ สร้างและพัฒนาการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้นักเรียนฝึกทักษะและการปฏิบัติผ่านการแสวงหาความรู้ ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และฝึกปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬา ซึ่งเป็นการส่งผลให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
1.3 หลักการพัฒนารูปแบบการสอนพลศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ควรจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกิดจากการเกิดความคิดรวบยอด เข้าใจและปฏิบัติกิจกรรมจนเกิดความชำนาญและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเน้นส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬา โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ ที่ฝึกจากสถานการณ์จำลองหรือเหตุการณ์จริง เรียนรู้ ปฏิบัติและการนำไปใช้ โดยในขั้นตอนการฝึกนี้ต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการพัฒนาคือ ความสามารถทางด้านทักษะกีฬา คือ 1. ทักษะการเคลื่อนที่ 2. ทักษะการครอบครองลูกฟุตซอล 3. ทักษะการรับและส่งลูกฟุตบอล 4. ทักษะการยิงประตู
1.4 การศึกษาแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการสอนพลศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่สำคัญคือ แนวคิดเกี่ยวกับการการพัฒนารูปแบบการสอน แนวคิดและทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน และแนวคิดเกี่ยวกับความสามารถทางด้านทักษะกีฬา วิเคราะห์โดยใช้วิธีสอนตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน และแนวคิดเกี่ยวกับความสามารถทางด้านทักษะกีฬา พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบการสอน มีองค์ประกอบ 6 ประเด็น ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ องค์ประกอบที่ 4 ระบบสังคม องค์ประกอบที่ 5 การวัดประเมินผล และองค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนอำนวยความสะดวก ซึ่งมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย รูปแบบการสอน 6 Step of BBL Model มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 ขั้นการทำความเข้าใจกับสถานการณ์ (Concept Exploration) ขั้นที่ 2 ขั้นการระดมสมอง (Brainstorming) ขั้นที่ 3 ขั้นการสร้างองค์ความรู้ (Construct Knowledge) ขั้นที่ 4 ขั้นการปฏิบัติกิจกรรม (Practice) ขั้นที่ 5 ขั้นการอภิปรายสรุปผล และประเมินผล (Discussion And Assessment) ขั้นที่ 6 การประยุกต์ใช้ความรู้ (Apply Knowledge)
2. ผลการสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดังนี้
2.1 รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คือ รูปแบบการสอน 6 Step of BBL Model ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.89 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.19
2.2 ผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.79 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.27
2.3 ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทดลองใช้กับนักเรียนแบบเดี่ยว (1:1) จำนวน 3 คน มีค่าเท่ากับ 78.89/77.78 แบบกลุ่ม (1:10) จำนวน 9 คน มีค่าเท่ากับ 81.11/80.74 แบบภาคสนาม 1:100 จำนวน 30 คน มีค่าเท่ากับมีค่าเท่ากับ 82.11/81.00
3. ผลการใช้รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ดังนี้
3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 82.74/81.90
3.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.3 ผลการเปรียบเทียบความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้รับจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.4 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการรู้ตามรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 4.85 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.34
4. ผลการประเมินรูปแบบการสอนพลศึกษาตามทฤษฎีการใช้สมองเป็นฐาน เรื่อง การฝึกทักษะกีฬาฟุตซอล เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะกีฬาฟุตซอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x̄) 4.85 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.41 ซึ่งผลการประเมินเมื่อเทียบกับเกณฑ์ โดยรวม ผ่าน