งานวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์ของการดำเนินงาน
1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่องการสร้างทางเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
2. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่อง สถิติ มัธยมศึกษาปีที่ 2
3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การสร้างทางเรขาคณิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน
ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่อง การสร้างทางเรขาคณิต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 79.17 / 93.13 หมายความว่า นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีคะแนนจากการปฏิบัติกิจกรรม ผลงานนักเรียนและการทำแบบฝึกทักษะทั้ง 12 แผนการจัดกิจกรรม คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 79.17 หลังจากเรียนจบแต่ละกิจกรรมแล้วนักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 93.13 ทั้งนี้เนื่องมาจากกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน
เป็นฐาน เป็นกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 ซึ่งสอดคล้องกับธิดาเดือน อาจวิชัย (2553: 53-79) ได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตรของรูปทรงเรขาคณิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านส้มผ่อ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายโสธร เขต 2
แผนการจัดการเรียนรู้ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.8736 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 87.36 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีความก้าวหน้าและพัฒนาในการเรียน จึงทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับลำดวน บำรุงศุภกุล (2553: 52-75) ได้ทำการวิจัยเรื่อง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงาน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 โรงเรียนบ้านหนองแวงธี จังหวัดกาพสินธุ์
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สถิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 9.13 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 45.63 และคะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 18.63 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 93.13 และ คะแนนผลต่างของหลังเรียนกับก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 9.50 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 47.50 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน