ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

นวัตกรรม/ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice)

โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

มัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร

ชื่อผลงาน การพัฒนารูปการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนา สถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

ผู้นำเสนอผลงาน โรงเรียนควนสุบรรณวิทยา หมู่ 2 ตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร

จังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ผู้บริหาร นางสาวอรชพร มีพัฒน์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา

ความเป็นมาและความสำคัญ

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 65 “รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมาย” จากบทบัญญัติดังกล่าวส่งผลให้มีการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ซึ่งยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงได้มีการวิเคราะห์หาสาเหตุ วางแผนและยกระดับวิธีการแก้ไขปัญหาการมีส่วนร่วมในการบูรณาการของทุกภาคส่วนในทุกประเด็น มีสร้างความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานโดยให้คนในปีก่อนสังคมมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของยุทธศาสตร์ชาติร่วมกัน

ในหวงป ๒๕๖๖ ปญหายาเสพติดของประเทศไทย ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องจากปกอนในมิติของการลักลอบนำเขายาเสพติดจากแหลงผลิตสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่นำเขาหลักปรากฏทางชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศ เปนผลจากการเปลี่ยนเสนทางลำเลียงของ กลุมการคาที่มุงมาใชเสนทางผาน สปป.ลาว มากขึ้นสงผลใหมียาเสพติดจำนวนมากถูกนำเขามาแพรกระจายภายในประเทศและเจาหนาที่สามารถจับกุมไดจำนวน ๑๓๐,๕๔๓ คดี ผูตองหา ๑๓๒,๖๗๕ คนจำนวนคดีและผูตองหาลดลงจากปกอนไมมาก แตของกลางยาเสพติดชนิดหลัก ๓ ชนิด ไดแก ยาบา กัญชา และเฮโรอีน มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปกอน โดยป ๒๕๖๔ ของกลางยาบามีจำนวน ๕๑๕.๔๗ ลานเม็ดเฮโรอีน ๓,๓๓๒ กิโลกรัม กัญชาแหง ๗๑,๗๖๙ กิโลกรัม ไอซ ๑๙,๒๖๖ กิโลกรัม ฝน ๒๕๗.๕ กิโลกรัมโคเคน ๕๐.๑ กิโลกรัม พืชกระทอม ๔๓,๑๙๐ กิโลกรัม เอ็กซตาซีหรือยาอี ๔๕๒,๑๑๙ เม็ด และ คีตามีน๑,๐๒๘ กิโลกรัม (ป ๒๕๖๓ มีจำนวน ๑๔๗,๕๖๙ คดี ผูตองหา ๑๕๒,๗๐๗ คนของกลางยาบา ๓๗๑.๓๕ลานเม็ด เฮโรอีน ๑,๘๗๓ กิโลกรัม กัญชาแหง ๔๒,๙๕๕ กิโลกรัม ไอซ ๒๕,๑๒๙ กิโลกรัมโคเคน ๓๖กิโลกรัม พืชกระทอม ๘๓,๓๒๖ กิโลกรัม เอ็กซตาซี ๔๘๗,๖๕๐ เม็ด และ คีตามีน ๑,๙๒๙ กิโลกรัม) (ระบบทะเบียนคดียาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.)

รัฐบาลจึงได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และมอบนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาตามแผนงานที่ 3 การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด กำหนดมาตรการป้องกันนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนก่อนวัยเสี่ยง และในวัยเสี่ยงไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เรียนรู้ถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด รู้จักวิธีปฏิเสธหลีกเลี่ยงยาเสพติดและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการมั่วสุมกับยาเสพติดและอบายมุข ตลอดจนดูแลช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้คืนสู่สังคมได้อย่างปกติ

กระทรวงศึกษาธิการได้วิเคราะห์ปัญหาที่สำคัญที่สอดคล้องกับการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ ได้แก่ ปัญหายาเสพติด ปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ปัญหาสื่อลามก อนาจาร ปัญหาการพนัน ปัญหาการทะเลาะวิวาท (กรมส่งเสริมและพัฒนาการบริหารการศึกษาในภูมิภาค : 2564 ) ดังนี้

1. ปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมั่นคง ปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคมและความร่วมมือระหว่างประเทศ”

2. ปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ได้บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติในระยะที่ 2 พ.ศ. 2564 – 2570 เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาผลกระทบการบริโภคแอลกอฮอล์ โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

3. ปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ได้มีการพัฒนาและจัดทำแผนการควบคุมยาสูบแห่งชาติ ฉบับที่สาม พ.ศ. 2565 – 2570 ภายใต้กรอบแนวคิด “ก้าวสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่อย่างยั่งยืน” โดยการมีความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงบูรณาการการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลด ละ เลิกการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าของประชาชนทุกช่วงวัย

4. ปัญหาสื่อ ลามก อนาจาร ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทันสมัย สื่อสารไร้ขีดจำกัด สื่อดิจิทัล เว็บไซต์ต่าง ๆ เข้าถึงง่าย และค่านิยมสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการเผยแพร่คลิปการใช้ชีวิตผ่านอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์อย่างแพร่หลาย รวมถึงสื่อลามกอนาจารซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งของการล่วงละเมิดทางเพศ การ มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ส่งผลถึงการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เกิดปัญหาเรียนไม่จบหรือต้องออกจาก สถานศึกษาเพื่อไปเลี้ยงบุตร ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงได้มีการจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหาสื่อ ลามกอนาจารเด็กและการแสวงหาประโยชน์จากเด็กเพื่อการค้าและเพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต

5. ปัญหาการพนัน ผลการวิจัยพบว่า ผลเสียหายของการติดพนันมีทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ เศรษฐกิจและสังคม อาทิ ขาดประสิทธิภาพในการเรียน การทำงาน ปัญหาด้านการเงิน ปัญหาความสัมพันธ์ กับครอบครัว ปัญหายักยอก ฉ้อโกง อาชญากรรม รวมไปถึงปัญหาที่เชื่อมโยงไปสู่ปัญหาอื่น ๆ เช่น ติดเหล้า และสารเสพติดอื่น ๆ มีการวิจัยระบุว่า ผลเสียหายทางอ้อมที่เกิดกับคนเสพติดการพนันคือ การเพิ่มความเสี่ยง ในการติดเหล้าและสารเสพติดอื่นที่มีผลเสียต่อสุขภาพ และคนเสพติดการพนันจะมีนิโคตินในร่างกายมากกว่า คนทั่วไป ซึ่งการเสพติดซ้ำซ้อนจะทำให้การแก้ปัญหายุ่งยากขึ้นไปอีก รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาการพนัน โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ให้ปัญหาการพนันเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ เช่น การพนันกีฬา การพนันออนไลน์และบ่อนการพนัน ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติในแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก และกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมีการลงนามความร่วมมือระหว่าง 11 หน่วยงานในเชิงบูรณาการการทำงานร่วมกัน

6. ปัญหาการทะเลาะวิวาท เด็กและเยาวชนเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้น สื่อเผยแพร่ข่าวการทะเลาะวิวาทของ เยาวชนหลายพื้นที่่ แต่ละครั้งมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งฝ่ายเดียว สองฝ่าย หรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง บางเหตุการณ์ถึงขั้น เสียชีวิต สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายทั้งผู้ก่อเหตุ ผู้ปกครอง และสถาบัน มีการประกาศสงครามผ่าน ทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ต่าง ๆ ใช้ถ้อยคำยั่วยุรุนแรง หรือประกาศใช้สัญลักษณ์ หรือมีแนวคิด “การทะเลาะ วิวาทเพื่อศักดิ์ศรี” โดยการทะเลาะวิวาททวีความรุนแรงในระดับที่สูงขึ้น ใช้อาวุธปืนยิงกันทั้งในสถานที่เอกชน และสถานที่ราชการ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และได้มีมาตรการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2556 และให้สถานศึกษาร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาทะเลาวะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา เพื่อเป็นการลดปัญหาสังคม

กระทรวงศึกษาธิการประกาศนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทด้านความมั่นคง และแผนการศึกษาแห่งชาติ โดยได้กำหนดกลยุทธ์ให้สถานศึกษาทุกแห่งงดำเนินงาน มีเป้าหมายการดำเนินงานดังภาพที่ 1

ภาพที่ 1 เป้าหมายสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในประเทศไทย พบว่า กลุ่มผู้ค้าเพิ่มปริมาณยาเสพติดจำนวนมาก เพื่อทุ่มตลาดกระตุ้นความต้องการของผู้เสพให้คงอยู่ ราคาที่ถูกลงเป็นปัจจัยเสริมให้กลุ่มผู้เสพเข้าถึงยาเสพติด ได้ง่าย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสารเป็นช่องทางติดต่อค้าขายยาเสพติดผ่านสื่อสังคม ออนไลน์ เช่น การใช้Facebook, Line, Twitter โดยช่องทางที่ พบมากที่สุด คือ Twitter รองลงมาคือ Facebook ส่งผลให้การค้ายาเสพติดขยายวงกว้าง ซึ่งกลุ่มผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่มีอายุ 15 - 24 ปี คิดเป็น ร้อยละ 36 หรือมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของผู้เสพทั้งหมด (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563) ปัญหายาเสพติดจึงเป็นส่วนหนึ่งของ ปัญหาสังคม โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ เป็นวัยที่มีความ เสี่ยงสูงต่อการใช้ยาเสพติด ก้าวเข้าสู่วัยรุ่นเป็นช่วงการปรับตัว มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนทำให้มี ความอยากรู้อยากลอง เมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สมองจะถูกทำลายส่งผลถึงการเรียน และอาจชักชวน เพื่อนให้มายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่งผลให้ปัญหายาเสพติดทวีความรุนแรงมากขึ้น

จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่หนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทยที่ประสบปัญหาการแพร่กระจายของยาเสพติดประเภทต่างๆอย่างต่อเนื่องจากข้อมูลสถิติและสารสนเทศเพื่อการบริหารระดับพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ (สำนักงานสถิติจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ๒๕๖๖) พบว่าปีงบประมาณ ๒๕๖๓ – ๒๕๖๖ สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นการจับกุมผู้กระทำความผิดในข้อหาคดีพืช กระท่อม รองลงมาเป็นกัญชาสด กัญชาแห้งมีจำนวนการจับกุมและจำนวนผู้ต้องหาในคดีเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ และจากข้อมูลจำนวนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในอำเภอบ้านนาสารก็พบว่ามีคดีการจับกุมเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่มากพอสมควรดังตารางที่ ๑

ตารางที่ 1 ข้อมูลจำนวนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในอำเภอบ้านนาสาร

จำนวนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

หมู่บ้าน/ชุมชน ก่อน (พ.ย. ๖๑ - ม.ค. ๖๒) หลัง (ก.พ. ๖๒ - มี.ค. ๖๖)

บ้านคลองปราบ ม.๓ ต.คลองปราบ ๓ ๓

บ้านช่องช้าง ม.๗ ต.พรุพี ๙ ๖

บ้านเหมืองทวด ม.๑ ต.เพิ่มพูนทรัพย์ ๑ ๑

บ้านกอบแกบ ม.๖ ต.ลำพูน ๗ ๓

บ้านท่าสะท้อน ม.๑ ต.ควนสุบรรณ ๓ ๒

บ้านทุ่งในไร่ ม.๓ ต.ทุ่งเตา ๒ ๑

บ้านห้วยซัน ม.๕ ต.ทุ่งเตาใหม่ ๓ ๒

ชุมชนห้วยมุด ๓ นาสาร ๙ ๕

จากตารางที่ 1 สรุปได้ว่าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในอำเภอบ้านนาสารยังมีปรากฏอยู่ในหมู่บ้าน ครัวเรือนของอำเภอบ้านนาสาร

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๒ ตำบลควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสารจังหวัด สุราษฎร์ธานี เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึง ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียน 1๕๑ คน เขตพื้นที่บริการ มี ๔ ตำบล ได้แก่ ตำบลควนสุบรรณ หมู่ที่ ๒-๗ ตำบลทุ่งเตา หมู่ที่ ๔,๕ ตำบลทุ่งเตาใหม่หมู่ที่ ๑,๒,๔,๖,๘ และตำบลลำพูน หมู่ที่ ๑,๓,๖,๗ สภาพชุมชนทั่วไปรอบโรงเรียน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบจึงเหมาะสําหรับทําการเกษตร เช่น สวนผลไม้ สวนยางพารา ประชากรส่วนใหญ่ ร้อยละ ของประชากรทั้งตําบลประกอบอาชีพ เกษตรกรรม และร้อยละ ๑๐ ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปค้าขายและรับราชการประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประเพณี/ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป คือ สารทเดือนสิบ ชักพระ สงกรานต์ ประเพณีจบปีจบเดือน ประเพณีทางศาสนา โรงเรียนอยู่ใกล้โรงเรียนประถมศึกษา คือโรงเรียนควนสุบรรณ อยู่ใกล้องค์การบริหารส่วนตำบลควนสุบรรณ ใกล้วัดควนสุบรรณและใกล้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลควนสุบรรณนักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน ครอบครัวแตกแยก หย่าร้าง ผู้ปกครองติดคุกคดียาเสพติดอาศัยอยู่กับบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่พ่อแม่ บางคนต้องอยู่ลำพัง หาเลี้ยงตัวเองก็มี ผู้ปกครองติดคุกคดียาเสพติด ซึ่งมีปัญหาขาดความรัก ความอบอุ่นและขาดความพร้อมในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมซึ่งล่อแหลมหรือมีความเสี่ยงต่อการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุข ผนวกกับ จากรายงานผลการกำหนดสถานะของหมู่บ้านของฝ่ายปกครองอำเภอบ้านนาสารพบว่าพื้นที่ที่ตั้งของโรงเรียนปรากฏมีผู้เสพ ไม่มีแหล่งผลิตและผู้ค้า อัตราส่วนผู้เสพต่อประชากร คือ ๐.๙๕ แต่พื้นที่ในเขตบริการของโรงเรียนอีก ๒ ตำบล ปรากฎมีผู้ค้าและผู้เสพในเปอร์เซ็นที่สูงถึง ๙.๘๖

ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ผ่านมา ไม่สามารถแก้ไขได้โดยองค์กรของรัฐเพียงอย่างเดียว การดำเนินการเพื่อให้เกิดประสิทธิผลต้องนำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา การ ดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งโดยเฉพาะ ทุกส่วนราชการและภาคเอกชนโดยประชาชนทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด ต้องผนึกกำลังกันร่วมต่อต้านยาเสพติด ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขในสถานศึกษาเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต้องเริ่มจากสถานศึกษาทั้งด้านนโยบายและการปฏิบัติ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (กัญญารัตน์ นามวิเศษ, 2562 : 18 – 19)

การพัฒนาเยาวชนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจมีคุณธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ห่างไกลจากยาเสพติด สื่อลามกอนาจารเกมออนไลน์ การพนัน และการทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่สังคมไม่ยอมรับ ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่กำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งดำเนินงาน โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินงานโครงการ สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2541 ถึงปัจจุบัน โดยบูรณาการแผนงานกับทุกภาคส่วนและระดมทรัพยากรจากทุกหน่วยงานในการจัดทำองค์ความรู้และประสานงานเป็นกลไกขับเคลื่อนงานในสถานศึกษา ส่งผลให้สถานศึกษาสามารถควบคุม การแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษาและปัจจัยเสี่ยงรอบสถานศึกษาได้ในระดับหนึ่งกลุ่มผู้ค้ายังมี ความพยายามเข้าถึงกลุ่มเยาวชนโดยการพัฒนาสูตรยาเสพติด ประกอบด้วยส่วนผสมให้มีรูป รส กลิ่น สี เพื่อให้เยาวชนอยากลอง จำหน่ายตามสถานบริการ สถานบันเทิงและแหล่งมั่วสุมเพิ่มมากขึ้น ผู้บริหาร สถานศึกษา ครูอาจารย์ และผู้ปกครองจึงต้องระวัง ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ที่จะดำเนินการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาให้เป็นสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข มีความเข้มแข็งและต่อเนื่องอย่างยั่งยืน ตลอดไป

(รอง ปัญสังกา และคณะ, 2561 : 3)

สถานศึกษาเป็นองค์กรหลักในการพัฒนาเด็กและเยาวชน จึงต้องให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนในการเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง เพื่อควบคุมไม่ให้นักเรียนเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดรวมถึงการดูแลช่วยเหลือ ปรัยบเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โอกาสมาศึกษาต่อในสถานศึกษาและสามารถดำรงชีวิตเป็นคนดีในสังคมได้ (ธีรพงษ์ ชูพันธุ์ และ กาญจน์ เรืองมนตรี, 2563 : 265) ซึ่งโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข เป็นการดำเนินการตามหลักการและเหตุผล เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนให้เติบโตงดงามและเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม ดำเนินวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษา ที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องดำเนินการจัดการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้นักเรียน นักศึกษาเป็นคนเก่ง คนดีดำรงตนให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข โรงเรียน ควนสุบรรณวิทยา ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดและอบายมุข จึงได้ดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับอำเภอบ้านนาสาร สถานีตำรวจอำเภอบ้านนาสาร สาธารณสุขอำเภอบ้านาสาร อบต.ควนสุบรรณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลควนสุบรรณ โรงพยาบาลบ้านนาสาร ผู้นำชุมชน ทำความร่วมมือป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดและอบายมุข ซึ่งการบริหารสถานศึกษาสีขาว ถือได้ว่าเป็นกระบวนการบริหารสถานศึกษาที่สำคัญ โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาจึงสนใจพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน สามารถเผยแพร่เป็นแบบอย่างให้สถานศึกษาที่พบปัญหาเช่นเดียวกันได้ โดยมีกรอบแนวคิดการออกแบบผลงาน/นวัตกรรม ดังภาพที่ 2

ภาพที่ 2 กรอบแนวคิดการพัฒนานวัตกรรม/ผลงาน เรื่องพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา สีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

วัตถุประสงค์การดำเนินงาน

1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ เกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่

เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข

2. เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด

และอบายมุขอย่างยั่งยืน

3. เพื่อศึกษาผลของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยา

เสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

เป้าหมายเชิงปริมาณ

1. นักเรียนโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ร้อยละ 100 ได้รับการส่งเสริม สนับสนุนให้เข้าร่วม

โครงการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข

2. นักเรียนโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ร้อยละ 100 ได้รับการส่งเสริมให้เข้าร่วมโครงการ

เกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม

3. ครูโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ร้อยละ 100 บูรณาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

4. ครูโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ร้อยละ 100 ส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขสู่ความยั่งยืน

๕. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมทำ MOU กับสถานศึกษาเครือข่ายที่ทำ MOU ไม่น้อยกว่า 3 โรงเรียน

เป้าหมายเชิงคุณภาพ

1. นักเรียนโรงเรียนควนสุบรรณวิทยาห่างไกลยาเสพติดและอบายมุขมีสุขภาวะที่ดี รู้เท่า

ทันโทษ ยาเสพติด มีทักษะในการใช้ชีวิต ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

2. นักเรียนโรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีคุณธรรม จริธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์

3. ครูโรงเรียนควนสุบรรณวิทยาบูรณาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สถานศึกษาปลอดยา

เสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

4. ครูโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานโครงการ

สถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขสู่ความยั่งยืน

๕. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสถานศึกษาเครือข่ายที่ทำ MOU

3) ขั้นตอนการดำเนินงาน

3.1) กระบวนการพัฒนาผลงาน

กระบวนการพัฒนาผลงานเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม 5S2PIW Model เป็นการดำเนินโดยได้นำทฤษฎีการบริหารเป็นฐานความคิดมาประยุกต์ในการบริหารสถานสีขาว (White School) ได้แก่

๑. หลักการของวงจรเดมมิ่ง (PDCA) P : Plan วางแผน D := ปฏิบัติตามแผน C :

Check ตรวจสอบ A : Act ปรับปรุง ดำเนินการแก้ไข

๒. แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาสีขาว โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้สังเคราะห์

ลักษณะสำคัญของการบริหารสถานศึกษาสีขาว (โรงเรียนบ้านห้วยบอน , โรงเรียนบ้านวังช้าง : 2561, โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม, โรงเรียนเกล็ดแก้ว, โรงเรียนบ้านเนินดินแดง) ได้กระบวนการบริหาร 9 องค์ประกอบย่อย มีรายละเอียด ดังนี้

ขั้นการวางแผน P : Plan

ขั้นการวางแผนประกอบด้วย 2 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ องค์ประกอบย่อยที่ 1 S : Set Policy & Strategic กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานโครงการเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และ องค์ประกอบย่อยที่ 2 Servey & analyze Problems สำรวจและวิเคราะห์ปัญหายาเสพติดและอบายมุข มีรายละเอียด ดังนี้

องค์ประกอบย่อยที่ 1 S : Set Policy & Strategic กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานโครงการเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

ผู้บริหารริเริ่มการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School Administration) ด้วยการศึกษานโยบาย ประกาศ แผนงาน แนวทาง การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับประเทศ จังหวัดและสถานศึกษา มีการประชุมร่วมกับบุคลากรและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ดำเนินงาน 5 มาตรการ คือ การป้องกัน การค้นหา การรักษา การเฝ้าระวัง และการบริหารจัดการ และแผนงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข นโยบายในการบำบัดรักษาและส่งต่อ การจัดทำกลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ คือ ต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีแผนงาน ต้องมีระบบข้อมูล และต้องมีเครือข่าย มีการประกาศนโยบายของโรงเรียน วางแผนกลยุทธ์ห้องเรียนสีขาว จัดทำแผนปฏิบัติการ ประกอบด้วยโครงการ 5 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 โรงเรียนสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โครงการที่ 2 ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โครงการที 3 ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ โครงการที่ 4 โรงเรียนวิถีพุทธ และโครงการที่ 5 โรงเรียนสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Eco School)

องค์ประกอบย่อยที่ 2 Servey & analyze Problems สำรวจและวิเคราะห์ปัญหายาเสพติดและอบายมุข

ผู้บริหารกระตุ้นให้บุคลากรร่วมกันสำรวจและวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา และสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด เพื่อสร้างความตระหนักร่วมกัน รวมทั้งผลการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ในปีการศึกษา 2565 ที่ผ่านมา และร่วมกันออกแบบนวัตกรรมหรือวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) โดยใช้ชื่อว่าการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

ขั้นการปฏิบัติ D : Do

ขั้นการปฏิบัติประกอบด้วย 5 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ องค์ประกอบย่อยที่ 3 S : Structure & Team กำหนดโครงสร้างและทีมงาน องค์ประกอบย่อยที่ 4 P : Perception & Immunity สร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา องค์ประกอบย่อยที่ 5 I : Implementation of the plan การปฏิบัติตามแผนงาน องค์ประกอบย่อยที่ 6 P : Participation & Network สร้างการมีส่วนร่วม เครือข่ายและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) องค์ประกอบย่อยที่ 7 W : White Classroom การดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว มีรายละเอียด ดังนี้

องค์ประกอบย่อยที่ 3 S : Structure & Team กำหนดโครงสร้างและทีมงาน

ผู้บริหารกำหนดโครงสร้าง ทีมงาน และบทบาทหน้าที่โดยแต่งตั้งผู้รับผิดชอบและคณะทำงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข เช่น ครูแกนนำยาเสพติด นักเรียนแกนนำยาเสพติด สภานักเรียน จากนั้นมอบหมายงานให้เหมาะสมกับบทบาทของทีมและบุคคล หากพบว่า บุคลากรและนักเรียนยังมีความรู้ความสามารถไม่เพียงพอ ต่อการปฏิบัติกิจกรรม ผู้บริหารจัดให้มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากร เช่น การอบรมครูสู่การเป็นผู้นำทางนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

องค์ประกอบย่อยที่ 4 P : Perception & Immunity สร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา

ผู้บริหารสร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา โดยสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักให้แก่ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองรับทราบและจัดประชุมชี้แจงผู้ที่เพื่อรับทราบนโยบาย การดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและประชุมผู้ปกครองนักเรียนภาคเรียนละ ๑ ครั้ง และจัดกิจกรรมการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ในการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา เช่น การสอดแทรกในการเรียนการสอน กิจกรรมโรงเรียนวิถีพุทธ เช่น สวดมนต์สุดสัปดาห์ กิจกรรมระบบดูแลช่วยเหลือ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือต้านภัยยาเสพติดในสถานศึกษา กิจกรรม To be numberone ส่งเสริมกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายใต้กรอบ 5 ด้าน คือ ด้านการป้องกัน ด้านการรักษา ด้านการเฝ้าระวัง และด้านการบริหารจัดการ อย่างเป็นระบบ ต่อเนื่องและมีความยั่งยืน และเสริมสร้างทักษะชีวิตผ่านกิจกรรมการเรียนการสอนปกติ กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม กิจกรรมจิตอาสา รวมทั้งมีการเฝ้าระวัง ค้นหา และคัดกรอง

องค์ประกอบย่อยที่ 5 I : Implementation of the plan การปฏิบัติตามแผนงาน

ผู้บริหารอำนวยความสะดวกและสนับสนุนให้บุคลากรและนักเรียนดำเนินงานตามแผนงานและโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ที่ได้กำหนดไว้เกี่ยวกับกิจกรรมห้องเรียนสีขาว การค้นหา คัดกรองนักเรียน คลินิกเสมารักษ์ โรงเรียนปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าและปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วันต่อต้านยาเสพติดและสถานศึกษาปลอดภัย การบูรณาการการสอนยาเสพติดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ 3) โครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 4) กิจกรรม To be number one 5) กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม 6) โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชการ กิจกรรมแข่งขันศิลปหัตถกรรม 8) กิจกรรมแนะแนวอาชีพ 9) กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น ลูกเสือต้านภัยยาเสพติด ลูกเสือเนตรนารี กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ และกิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก กิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก กิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลก กิจกรรม Merry Christmas & Happy New Year กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ“Exploring the world of English“ กิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมโลก กิจกรรมอบรมนักเรียน “การปลูกผักโฮดรอโปนิกส์” กิจกรรมวงโยธวาฑิตของนักเรียนโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมทัศนศึกษาแห่งเรียนรู้ กิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ กิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์

องค์ประกอบย่อยที่ 6 P : Participation & Network สร้างการมีส่วนร่วม เครือข่ายและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)

ผู้บริหารสร้างเครือข่าย โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชน ตลอดจนหน่วยงานภายนอกหรือองค์กรต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างโรงเรียนกับองค์กร/หน่วยงานภายนอกเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้แก่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านนาสาร องค์การบริหารส่วนตำบลควนสุบรรณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลควนสุบรรณ โรงเรียนควนสุบรรณ โรงเรียนในเครือข่ายสหวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี 3 โรงเรียนในเครือข่ายจตุสัมพันธ์ และการได้รับสนับสนุนงบประมาณ บุคลากร วิทยากร แหล่งเรียนรู้ เพื่อให้การดำเนินงาน บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

องค์ประกอบย่อยที่ 7 W : White Classroom การดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว

มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานสถานศึกษาสีขาว และคณะกรรมการดำเนินงานห้องเรียนสีขาวทั้ง 4 ฝ่ายเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่าง ๆ ของโรงเรียน มีการประชุม วางแผนร่วมกับครูประจำชั้น และประชุมชี้แจงสร้างความรู้ความเข้าใจและความตระหนักให้แก่นักเรียนและจัดองค์กรภายในห้องเรียนประกอบด้วยแกนนำนักเรียน 4 ฝ่าย คือ

1. ฝ่ายการเรียน มีหน้าที่ช่วยเหลือในด้านวิชาการเกี่ยวกับการเรียน การบ้าน โครงงานหรือปัญหาการเรียน ต้องรับผิดชอบแก้ไขช่วยเหลือ และให้คำแนะนำ คำอธิบาย ชี้แนะ แหล่งเรียนรู้และนำเสนอครูประจำชั้น

2. ฝ่ายการงาน มีหน้าที่ดูแลความสะอาดเรียบร้อยในห้องเรียน รักษาของมีค่า และทรัพย์ สมบัติของห้องเรียน วัสดุอุปกรณ์ที่ชำรุด ป้องกันอุบัติเหตุภายในห้องเรียน จัดสภาพสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนให้น่าเรียน และป้องกันไม่ให้มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในห้องเรียน

3. ฝ่ายกิจกรรม มีหน้าที่จัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ทั้งในห้องเรียน และกิจกรรมในทุกระดับชั้น เช่น การเล่นดนตรี กีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม และคุณธรรม และจัดกิจกรรมในกลุ่มสนใจของเพื่อนๆ เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ไปมั่วสุมหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

4. ฝ่ายสารวัตรนักเรียน มีหน้าที่สอดส่องดูแลความเรียบร้อยทั้งในห้องเรียนและมุมอับ เช่น ห้องน้ำ หรือที่บริเวณอาคาร แหล่งที่ไปมั่วสุมสูบบุหรี่ ดูแลเพื่อน หากมีพฤติกรรมที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือพฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้งปัญหาส่วนตัวในด้านต่าง ๆ ให้คณะกรรมการห้องเรียนแก้ไข แต่หากไม่สามารถแก้ไขได้ ให้นักเรียนบอกครูประจำชั้น เพื่อแก้ไขต่อไป

ขั้นตรวจสอบ C : Check

ขั้นตรวจสอบประกอบด้วย 1 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ องค์ประกอบย่อยที่

องค์ประกอบย่อยที่ 8 S : Supervision Monitoring and Evaluation นิเทศ กำกับติดตามและการประเมินผล (ขั้น C : Check)

ผู้บริหารนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข การดำเนินงานแผนปฏิบัติการของโรงเรียน ผู้บริหารให้ คำปรึกษา ข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงและพัฒนางาน และ ผู้บริหารช่วยเหลือ ให้ขวัญและกำลังใจ ทั้งต่อครู และนักเรียนที่ทำกิจกรรม และสร้างเครื่องมือประเมินผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้แก่ แบบสอบถาม เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริม แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของครูนักเรียนและผู้ปกครองที่มีต่อการดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข มีกิจกรรมการประเมินห้องเรียนสีขาว และมอบเกียรติบัตรเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ห้องเรียนสีขาว มีการให้ข้อเสนอแนะ และแนวทางการพัฒนาเพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับในการพัฒนากิจกรรมห้องเรียนสีขาว และนำข้อมูลจากระดับห้องเรียนมาเป็นสารสนเทศของโรงเรียนในการพัฒนาปรับปรุง

ขั้นปรับปรุง ดำเนินการแก้ไข A : Act

ขั้นปรับปรุง ดำเนินการแก้ไข ประกอบด้วย 1 องค์ประกอบย่อย ได้แก่องค์ประกอบย่อยที่ 9 S : Show & Share การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ผู้บริหารจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับโรงเรียนเครือข่ายที่ทำบันทึกข้อตกลง MOU และเชิญคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น องค์กรเอกชนในบริบทแวดล้อมของโรงเรียน รวมทั้งใช้สื่อสังคม (Social Media) ในการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกทางหนึ่งด้วย เพื่อเพิ่มมิติของการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กว้างมากยิ่งขึ้น

โดยมีรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน (5S2PIW)

แนวคิดและหลักการ

การบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เป็นแนวคิดของการบริหารสถานศึกษาที่มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืนโดยดำเนินกิจกรรมห้องเรียนสีขาว การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 มาตรการ ได้แก่ การป้องกัน การค้นหา การรักษา การเฝ้าระวัง และการบริหารจัดการ และกลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ คือ ต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีแผนงาน ต้องมีระบบข้อมูล ต้องมีเครือข่าย และ ไม่ปกปิดข้อมูล มาไล่นักเรียน โดยบูรณาการความร่วมมือและประสานงานของผู้บริหาร ครู นักเรียนแกนนำเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

วัตถุประสงค์

เพื่อพัฒนาสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

กระบวนการบริหาร

กระบวนการบริหารสถานศึกษาสีขาวประกอบด้วย 9 องค์ประกอบย่อย

การวัดและประเมินผล

การประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักของครูและบุคลากรทางการศึกษา ความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายสถานศึกษาสีขาวที่ทำบันทึกข้อตกลง ความพึงพอใจเกี่ยวกับการดำเนินงานห้องเรียนสีขาว และความพึงพอใจของครูและนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ภาพที่ 3 รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาทปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

๓.๒) รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน โดยใช้ 5S2PIW Model ปรากฏดังภาพที่ ๔

ภาพที่ 4 รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่

ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

๔) ผลการดำเนินงาน/ผลสัมฤทธิ์/ประโยชน์ที่ได้รับ

๔.๑) ผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงานเกิดตามวัตถุประสงค์ ดังนี้

วัตถุประสงค์ข้อ 1

ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ เกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) ที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข

ผลการ ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ เกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) ที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข

สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข สรุปได้ดังนี้

1. สภาพปัจจุบันเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข

ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า การบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุขมีความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา มีประโยชน์ เห็นความสำคัญว่ามีความเหมาะสมต่อการพัฒนาโรงเรียนในภาพรวม รวมถึงการสนับสนุนการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข

นอกจากนั้นในการสนทนากลุ่มในด้านสภาพปัจจุบัน พบว่า ครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 มีการจัดกิจกรรมการสอนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุขบ้างแต่ไม่หลากหลาย ประเด็นที่ 2 มีการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุขในการจัดการเรียนรู้ ยังไม่ครบทุกกลุ่มสาระ และประเด็นที่ 3 มีการจัดการเรียนการสอนบูรณาการความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด และอบายมุขเข้าไปในวิชาที่ตนสอนบ้าง

ผู้บริหารสถานศึกษามีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 มีการกำหนดเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดไว้ในวิชาสุขศึกษา ประเด็นที่ 2 มีโครงการเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข และประเด็นที่ 3 มีเครือข่ายความร่วมมือกับสถานศึกษาเครือข่ายที่ทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข

กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันการบริหารสถานศึกษาที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 โรงเรียนมีสิ่งแวดล้อมที่น่าเรียน น่าอยู่ ประเด็นที่ 2 โรงเรียนมีกิจกรรมสร้างสรรค์เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุข และประเด็นที่ 3 มีการจัดการเรียนรู้ที่ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุข

2. ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข

ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการบริหารสถานศึกษาที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญปลอดยาเสพติด และอบายมุข โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า การบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุขยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างทั่วถึงในสถานศึกษา

นอกจากนั้นในการสนทนากลุ่มในด้านปัญหา พบว่า ครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข 5 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ปัญหาการบูรณาการเรียนรู้เกี่ยวกับยาเสพติด และอบายมุขยังไม่ครบทุกกลุ่มสาระ ประเด็นที่ 2 ขาดการอบรมที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุขให้แก่ครูและนักเรียน ประเด็นที่ 3 ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทางสังคม ได้แก่ ปัญหาครอบครัวและเศรษฐกิจ ประเด็นที่ 4 ไม่ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนกลุ่มเสี่ยงได้ปรึกษากับครูและประเด็นที่ 5 ครูขาดการติดตามผู้เรียน ไม่มีความต่อเนื่องในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ผู้บริหารสถานศึกษามีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ขาดการมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู และกรรมการสถานศึกษาในการวางแผนจัดกิจกรรมเกี่ยวกับป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข ประเด็นที่ 2 อิทธิพลของกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนในการชักชวนให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และประเด็นที่ 3 ขาดการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ขาดการใช้เวลาว่างที่มีประโยชน์ ประเด็นที่ 2 นักเรียนขาดระเบียบวินัยในตนเอง คบเพื่อนไม่ดี และประเด็นที่ 3 นักเรียนมีปัญหาครอบครัว ขาดความสัมพันธ์อันดีกันระหว่างสมาชิกภายในครอบครัว

3. ความต้องการเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข

ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุขโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า การบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุขมีประโยชน์และการบรรลุเป้าหมายของการจัดการศึกษาของสถานศึกษา และเห็นว่าการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุขสมควรได้รับการเผยแพร่ในวงกว้าง และเห็นด้วยว่าการศึกษาไทยต้องการให้มีการบริหารสถานศึกษาที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข

นอกจากนั้นในการสนทนากลุ่มในด้านความต้องการ พบว่า ครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุขประเด็น 4 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 สามารถจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อป้องกันยาเสพติด ประเด็นที่ 2 การพัฒนาครูแกนนำด้านป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติด และอบายมุข ประเด็นที่ 3 ต้องการการอบรมครูและนักเรียนแกนนนำที่เน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุข ประเด็นที่ 4 ต้องการความร่วมมือและเครือข่ายความร่วมมือเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุข

ผู้บริหารสถานศึกษา มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการการบริหารสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด และอบายมุข 6 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ต้องการให้ชุมชเมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา ยาเสพติดและอบายมุข ประเด็นที่ 2 ต้องการให้มีการนำข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดมาวางแผนในการจัดกอจกรรมการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา

ประเด็นที่ 3 ต้องการให้มีการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ ประเด็นที่ 4 ต้องการการส่งเสริมการจัดทำนวัตกรรมที่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ประเด็นที่ 5 ต้องการให้มีการดำเนินกิจกรรมห้องเรียนสีขาวที่มีความต่อเนื่องและยั่งยืน และประเด็นที่ 6 ต้องการให้ครูจัดการสอนที่สร้างงจิตสำนึก ทักษะชีวิต ภูมิคุ้มกันต่อต้านยาเสพติดและอบสยมุข

กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการการบริหารสถานศึกษาที่ปลอด ยาเสพติด และอบายมุข 4 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 มีการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่มีความปลอดภัย ประเด็นที่ 2 โรงเรียนมีนโยบายดำเนินให้สถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข ประเด็นที่ 3 ต้องการกให้มีการค้นหา คัดกรองนักเรียนที่มีพฤติกรรรมที่เสี่ยงต่อการเสพติด และประเด็นที่ 4 ต้องการให้ครูจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้โรงเรียนปลอดยาเสพติด

วัตถุประสงค์ข้อ 2

เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติด

และอบายมุขอย่างยั่งยืน

ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

จากการสังเคราะห์รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ดังนี้

องค์ประกอบที่ 1 แนวคิดและหลักการ

การบริหารสถานศึกษาสีขาว (White School) เป็นแนวคิดของการบริหารสถานศึกษาที่มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืนโดยดำเนินกิจกรรมห้องเรียนสีขาว การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 มาตรการ ได้แก่ การป้องกัน การค้นหา การรักษา การเฝ้าระวัง และการบริหารจัดการ และกลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ คือ ต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีแผนงาน ต้องมีระบบข้อมูล ต้องมีเครือข่าย และ ไม่ปกปิดข้อมูล มาไล่นักเรียน โดยบูรณาการความร่วมมือและประสานงานของผู้บริหาร ครู นักเรียนแกนนำเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

องค์ประกอบที่ 2 วัตถุประสงค์

เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

องค์ประกอบที่ 3 กระบวนการบริหาร 9 องค์ประกอบย่อย

กระบวนการบริหาร 9 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1.กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เกี่ยวกับห้องเรียนสีขาวและสถานศึกษาปลอดยาเสพติด 2. สำรวจและวิเคราะห์ปัญหายาเสพติดและอบายมุข 3. สร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา 4. กำหนดโครงสร้างและทีมงาน 5. การปฏิบัติตามแผนงาน 6. สร้างการมีส่วนร่วม เครือข่ายและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 7. การดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว 8. นิเทศ กำกับติดตามและการประเมินผล และ 9. การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยดำเนินผ่าน 5 โครงการ ได้แก่

โครงการที่ 1 โรงเรียนสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข สอดคล้องกับองค์ประกอบย่อยทั้ง 9 องค์ประกอบย่อย

โครงการที่ 2 ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สอดคล้องกับองค์ประกอบย่อยที่ 3 สร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา องค์ประกอบย่อยที่ 4 กำหนดโครงสร้างและทีมงาน องค์ประกอบย่อยที่ 5 การปฏิบัติตามแผนงาน องค์ประกอบย่อยที่ 6 สร้างการมีส่วนร่วม เครือข่ายและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)

โครงการที 3 ส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ สอดคล้องกับองค์ประกอบย่อยที่5 การปฏิบัติตามแผนงาน องค์ประกอบย่อยที่ 7 การดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาวองค์ประกอบย่อยที่ 8 นิเทศ กำกับติดตามและการประเมินผล

โครงการที่ 4 โรงเรียนวิถีพุทธ สอดคล้องกับองค์ประกอบย่อยที่1 กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เกี่ยวกับห้องเรียนสีขาวและสถานศึกษาปลอดยาเสพติด 3 สร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา องค์ประกอบย่อยที่ 5 การปฏิบัติตามแผนงาน และองค์ประกอบย่อยที่ 7 การดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว

โครงการที่ 5 โรงเรียนสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Eco School) สอดคล้องกับองค์ประกอบย่อยที่1 กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ เกี่ยวกับห้องเรียนสีขาวและสถานศึกษาปลอดยาเสพติด 3 สร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา องค์ประกอบย่อยที่ 5 การปฏิบัติตามแผนงาน และองค์ประกอบย่อยที่ 7 การดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว

องค์ประกอบที่ 4 การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมินผล หมายถึง การประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักของครูและบุคลากรทางการศึกษา ความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายสถานศึกษาสีขาวที่ทำบันทึกข้อตกลง ความพึงพอใจเกี่ยวกับการดำเนินงานห้องเรียนสีขาว และความพึงพอใจของครูและนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

วัตถุประสงค์ข้อ 3

เพื่อศึกษาผลของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยา

เสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

ผลของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีขาวเพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน

1. ผลงานกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข

ผลการกำหนดนโยบาบ พบว่า โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีการประกาศนโยบายเป็นสถานศึกษาที่ปลอดบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2566

แผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2566 โรงเรียนควนสุบรรณวิทยา

 

 

 

2. ผลการสำรวจและวิเคราะห์ปัญหายาเสพติดและอบายมุข

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีการสำรวจและวิเคราะห์ปัญหายาเสพติดและอบายมุข โดยผมีการคัดกรองนักเรียน ซึ่งแสดงการจำแนกนักเรียนกลุ่มปลอด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ กลุ่มติด กลุ่มค้า ในปีการศึกษา ๒๕๖6 รายละเอียด ดังตารางที่ 2

ตารางที่ 2 แสดงการจำแนกนักเรียนกลุ่มปลอด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ กลุ่มติด กลุ่มค้า ในปีการศึกษา ๒๕๖6

ภาคเรียน จำนวนนักเรียน กลุ่มนักเรียน/จำนวน (คน)

กลุ่มปลอด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ กลุ่มติด กลุ่มค้า

๑/๒๕๖6 151 142 9 - - -

๒/๒๕66 146 140 6 - - -

จากตารางที่ 2 ผลการคัดกรองจำแนกนักเรียนออกเป็นกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ กลุ่มติด กลุ่มค้า ในปีการศึกษา ๒๕๖6 พบว่าในภาคเรียนที่ ๑ มีนักเรียนกลุ่มปลอดจำนวน 142 คน คิดเป็นร้อยละ 94.03 มีนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 5.97 มี นักเรียนกลุ่มติดและกลุ่มค้าไม่ปรากฏในกลุ่มดังกล่าว สำหรับในภาคเรียนที่ ๒ มีนักเรียนกลุ่มปลอดจำนวน 140 คน คิดเป็นร้อยละ 95.89 มีนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 4.11 นักเรียนที่เป็นกลุ่มเสพไม่ปรากฏจำนวน ซึ่งนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเมื่อภาคเรียนที่ 1 ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนดีขึ้นตามลำดับจากการเข้าร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนและหน่วยงานภายนอกจัดขึ้น รวมทั้งการส่งต่อภายในโรงเรียน และนักเรียนกลุ่มเสพ กลุ่มติด และกลุ่มค้าไม่ปรากฏในกลุ่มดังกล่าวดังเช่นในภาคเรียนที่ ๑

จากผลการเปรียบเทียบนักเรียนกลุ่มเสพทั้ง ๒ ภาคเรียน พบว่าปริมาณนักเรียนในกลุ่มเสพมีจำนวนลดลงร้อยละ 1.86

แบบประเมินพฤติกรรม SDQ

๓. ผลการกำหนดโครงสร้างและทีมงาน

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีการแต่งตั้งรับผิดชอบผู้ขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ

สถานศึกษาสีขาว กิจกรรมห้องเรียนสีขาว และกิจกรรมสภานักเรียน

๔. ผลการสร้างการรับรู้และและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา

4.1 ผลการสร้างการรับรู้

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาสร้างการรับรู้โดยผู้บริหารประชุมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน การประชุมผู้ปกครองนักเรียน และการประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน ฯลฯ และขอนำเสนอภาพประกอบตัวอย่าง ดังนี้

ภาพที่ 5 การประชุมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ภาพที่ 6 การประชุมกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา

ภาพที่ 7 การประชุมผู้ปกครองนักเรียน

ภาพที่ 8 การประชุมผู้ปกครองชั้นเรียน

๔.๒ ผลการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา โดยดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โรงเรียนวิถีพุทธ วันต่อต้านยาเพสติด ลูกเสือต้านภัยยาเสพติด กิจกรรมจิตอาสาพัฒนา กิจกรรมวันงดสูบบุหรี่ ฯลฯ และขอนำเสนอภาพประกอบตัวอย่าง ดังนี้

ภาพที่ 9 กิจกรรมโรงเรียนวิถีพุทธ/สวดมนตไหว้พระประจำวันศุกร์

กิจกรรมวันต่อต้ายยาเสพติด

ภาพที่ 10 กิจกรรมวันต่อต้านยาเพสติด

ภาพที่ 11 กิจกรรมลูกเสือต้านภัยยาเสพติด

ภาพที่ 12 กิจกรรมจิตอาสาพัฒนา

ภาพที่ 13 กิจกรรมวันงดสูบบุหรี่

๔. ผลการปฏิบัติตามแผนงาน

โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีผลการปฏิบัติตามแผนงาน โดยดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการพัฒนาครูโดยการอบรม To be number one การเยี่ยมบ้านนักเรียน การแนะแนว การแสดง To be number one การแสดง To be number one ของนักเรียน

To be number 1 Idol กิจกรรมการแสดงเชิงสร้างสรรค์ “วันภาษาไทยแห่งชาติ” กิจกรรมทำบุญตักบาตร เขตพื้นที่รับผิดชอบ การสุ่มตรวจปัสสาววะ คลินิคเสมารักษ์ โครงการส่งเสริมทางวิชาการ ฯลฯ และขอนำเสนอภาพประกอบตัวอย่าง ดังนี้

ภาพที่ 14 กิจกรรมอบรม To be number one

ภาพที่ 15 กิจกรรมการเยี่ยมบ้านนักเรียน

ภาพที่ 16 กิจกรรมแนะแนว

ภาพที่ 17 กิจกรรมการแสดง To be number one ของนักเรียน

ภาพที่ 18 To be number 1 IDol

ภาพที่ 19 ตัวแทนเยาวชนต้นแบบTo be number 1 IDol

ภาพที่ 20 กิจกรรมการแสดงเชิงสร้างสรรค์ “วันภาษาไทยแห่งชาติ

ภาพที่ 21 กิจกรรมทำบุญตักบาตร

ภาพที่ 22 กิจกรรมเขตพื้นที่รับผิดชอบ

ภาพที่ 23 การสุ่มตรวจปัสสาวะ

ภาพที่ 24 กิจกรรมคลินิกเสมารักษ์

ภาพที่ 25 โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ “แข่งขันศิลปหัตถกรรม”

ภาพที่ 26 กิจกรรมอบรมนักเรียน “การปลูกผักไฮดรอโปนิกส์”

ภาพที่ 27 กิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้

ภาพที่ 28 กิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ

ภาพที่ 29 กิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก

ภาพที่ 30 กิจกรรม Merry Christmas & Happy New Year

ภาพที่ 31 กิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลก

ภาพที่ 32 กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ “Exploring the word of English”

ภาพที่ 33 กิจกรรมหน้าเสาธง

ภาพที่ 34 กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์

๕. ผลการสร้างการมีส่วนร่วม เครือข่ายและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)

ผลการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)กับสถานศึกษาเครือข่าย

ภาพที่ 35 บันทึกข้อตกลง (MOU) กับ อบต. ควนสุบรรณ

ภาพที่ 36 บันทึกข้อตกลง (MOU) กับ โรงเรียนเวียงสระ

ภาพที่ 37 บันทึกข้อตกลง (MOU) กับ โรงเรียนพ่วงพรมครวิทยา

๖. ผลการดำเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว

แผนผังโครงสร้างห้องเรียนสีขาวของนักเรียนในแต่ละระดับชั้นเรียน

ภาพที่ 38 แผนผังคณะทำงานห้องเรียนสีขาว

ภาพที่ 39 การประชุมครูห้องเรียนสีขาว

ภาพที่ 40 บันทึกกิจกรรมห้องเรียนสีขาว

ภาพที่ 41 นักเรียนได้รับเกียรติบัตรรางวัลห้องเรียนสีขาว

๔.๒ ผลสัมฤทธิ์

จากการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีเขียว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน มีรายละเอียด ดังตารางที่ 3

ตารางที่ 3 ผลการประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

มาตรฐานที่ ตัวบ่งชี้ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้

1.ด้านการป้องกัน (๔๕ คะแนน) ๑ ๒๐ ๒๐

๒ ๕ ๕

๓ ๑๐ ๑๐

๔ ๑๐ ๑๐

รวมคะแนน ๔๕

2.ด้านการค้นหา (๑๕ คะแนน) ๑ ๕ ๕

๒ ๕ ๕

๓ ๕ ๕

รวมคะแนน ๑๕

3.ด้านการรักษา (๑๐ คะแนน) ๑ ๕ ๕

๒ ๕ ๕

รวมคะแนน ๑๐

4.ด้านการเฝ้าระวัง (๑๐ คะแนน) ๑ ๕ ๕

๒ ๕ ๕

รวมคะแนน ๑๐

5.ด้านการบริหารจัดการ (๒๐ คะแนน) ๑ ๔ ๔

๒ ๔ ๔

๓ ๔ ๔

๔ ๔ ๔

๕ ๔ ๔

รวมคะแนน ๒๐

รวมทั้งหมด (๑๐๐ คะแนน) ๑๐๐

สรุปผลการประเมิน ระดับดีเด่นร้อยละ ๙๐-๑๐๐

จากตารางที่ 1 พบว่าการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีเขียว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน ด้านการป้องกัน ด้านการค้นหา ด้านการรรักษา ด้านการเฝ้าระวัง และด้านการบริหารจัดการ อยู่ในระดับดีเด่น (100) คะแนน ได้คะแนนเต็มทุกด้าน คือ ด้านการป้องกัน ได้คะแนน 45 คะแนน ด้านการค้นหาได้คะแนน 15 คะแนน ด้านการรักษาได้คะแนน 5 คะแนน ด้านการเฝ้าระวังได้คะแนน 5 คะแนน และด้านการบริหารจัดการได้ 5 คะแนน รวมทั้งหมด 100 คะแนน

๔.๓ ประโยชน์ที่ได้รับ

๑. นักเรียนโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานศึกษา

2. เด็กหญิงพัชรินทร์ มากบุญ และนางสาวศิระตา สามงามแก้ว นักเรียนโรงเรียน ควนสุบรรณวิทยา ได้รับโอกาสในการเข้าอบรมพัฒนาทักษะเก่งและดี เนื่องจากเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกกิจกรรมการประกวดต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 14 จังหวัด สุราษฎร์ธานี ในโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE IDOL ระดับจังหวัดสุราษฎร์ธานี

3. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีการพัฒนารูปแบบการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

4. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับโรงเรียนเครือข่ายที่ทำMOU เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานต่อไป

๕) ปัจจัยความสำเร็จ

1. นักเรียนมีเวทีในการร่วมกิจกรรมทางวิชาการ และได้แสดงศักยภาพในทางสร้างสรรค์

ตามความถนัด และความสนใจ

2. นักเรียนแกนนำทั้ง 4 ฝ่ายเข้าใจบทบาทหน้าที่ในภารกิจและดำเนินงานอย่างจริงจัง

เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ทั้ง 4 ด้านของกิจกรรมห้องเรียนสีขาว

3. ครูให้การดูแลช่วยเหลือนักเรียน พร้อมที่จะพัฒนานักเรียนในทุกๆ ด้าน และทุ่มเท

กำลังใจ กำลังกาย ในการปฏิบัติงาน

4. ผู้บริหารเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ให้การสนับสนุนด้านขวัญ กำลังใจ กำกับ ติดตามการ

และร่วมกันประเมินผลดำเนินงาน

5. ผู้บริหารมีการบริหารจัดการที่ดี มีการกำกับ ติดตาม และประเมินผล ส่งเสริมการส่วน

ร่วมในการปฏิบัติงานทุกกิจกรรม

6. ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการกำกับ ติดตาม และแก้ไข ปัญหาของบุตรหลาน

7. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีงบประมาณให้การสนับสนุน ในด้านการดำเนินงานโครงการ

สถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

8. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีจุดเน้นในการพัฒนานักเรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม

จริยธรรม ผ่านโครงการโรงเรียนวิถีพุทธและโรงเรียนคุณธรรม

9. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีภาคีเครือข่ายที่มีความเข้มแข็ง ช่วยเหลือสนับสนุนการ

ดำเนินกิจกรรม ต่างๆ ของโรงเรียนอ

10. ชุมชนหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ความร่วมมือและสนับสนุนโครงการ

สถานศึกษา

11. เครือข่ายให้ความร่วมมือ มีส่วนร่วม และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการขับเคลื่อน

ดำเนินงาน

๖) บทเรียนที่ได้รับ

ข้อสรุป

1. การดำเนินงานโครงการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข ต้องดำเนินการอย่าง

เป็นระบบและต่อเนื่อง อาศัยความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย

2. นักเรียนได้รับการพัฒนา ส่งเสริมคุณลักษณะนิสัยให้มีคุณธรรม จริยธรรมมากยิ่งขึ้นและ

ปลอดจากยาเสพติดและอบายมุข

3. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้พัฒนากิจกรรมห้องเรียนสีขาวและกิจกรรม TO BE

NUMBER ONE ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา

4. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยามีภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง เพื่อร่วมกันดูแล สอดส่อง ปกป้อง

คุ้มครองนักเรียน รวมทั้งให้การสนับสนุนนักเรียนในการทำกิจกรรม ด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ มุ่งเน้นผลประโยชน์ที่เกิดแก่ผู้เรียนเป็นสำคัญ

๕. นักเรียน คณะครู โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้รับรางวัลจากการประกวดและแข่งขันในระดับต่างๆ เพิ่มขึ้น

ข้อสังเกต

๑. ผู้บริหารสถานศึกษาควรศึกษาแนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพ

ติดและอบายมุขในสถานศึกษาให้เข้าใจและให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสติดและอบายมุขในสถานศึกษา

๒. ครูควรศึกษาแนวทางการดำเนินงานสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขให้

เข้าใจและให้ความสำคัญในการดำเนินงานสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขในสถานศึกษา

ข้อเสนอแนะ

รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสีเขียว (White School) เพื่อพัฒนาสถานศึกษาที่ปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างยั่งยืน มี 4 องค์ประกอบ ส่วนองค์ประกอบการบริหารจัดการหรือขั้นตอนการดำเนินงานอยู่ภายใต้บริบทของโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ซึ่งเป็นสถานศึกษาขนาดกลาง

ข้อควรระวัง

1. หากมีการนำนวัตกรรมไปใช้ควรปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งความร่วมมือ บทบาทหน้าที่ ขั้นตอน และการติดตามผล

2. ควรจัดให้มีการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถให้คำปรึกษา นักเรียนกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนกลุ่มที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้

๗) การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ

๗.1) การเผยแพร่

๑. การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการสู่เพื่อนร่วมวิชาชีพ ได้แก่ แบบตอบรับ 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านนาสาร โรงเรียนเวียงสระ โรงเรียนคลองฉนวนวิทยา และโรงเรียนพ่วงพรมครวิทยา

2. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาเผยแพร่กิจกรรมผ่านเฟสบุคของโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา

3. มีการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาวในที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและในการประชุมผู้ปกครอง

การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ

1. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้รับเกียรติบัตรเสมา ป.ป.ส. ประเภทผลงานดีเด่น ระดับ

ทอง ปีการศึกษา 2565 จากกระทรวงศึกษาธิการ

2. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้รับรางวัลทรงคุณค่า สพฐ. OBEC AWARDS ระดับชาติ

ครั้งที่ 11 รางวัลเหรียญทอง สถานศึกษายอดเยี่ยม ประเภทมัธยมศึกษาขนาดเล็ก ด้านการบริหารจัดการ

3. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้รับรางวัลผลงานที่มีคุณภาพระดับชมเชย ด้านการมีทัศนคติ

ที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ประเภทโรงเรียนขนาดกลาง ในการประกวดโรงเรียนที่มีแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ ระดับสำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

4. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาได้รับการประกาศ ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส

ในการดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ ประจำปีงบประมาณ 2566 ระดับ AA

5. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาเข้าร่วมการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน จำนวน 29

รายการ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 4 รายการ รองชนะเลิศอันดับสอง 5 รายการ เหรียญทอง 4 รายการ เหรียญเงิน 16 รายการ เหรียญทองแดง 5 รายการ และเข้าร่วม 1 รายการ

6. นางสาวอรชพร มีพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ได้รับรางวัลเชิดชู

เกียรติ เสมา ป.ป.ส.ประเภทผลงานดีเด่น ระดับทอง ปีการศึกษา 2565 จากกระทรวงศึกษาธิการ

7. นางสาวอรชพร มีพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนควนสุบรรณวิทยา ได้ผ่านการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารสถานศึกษาสู่การเป็นผู้นำทางนวัตกรรมและมีสมรรถนะภาษาตางประเทศเพื่อส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Innovative Leaders for Quality Education)

8. นางสาวกนกกร ทองเดช ครูผู้รับผิดชอบโครงการสถานศึกษา ปลอดยาเสพติดและ

อบายมุข ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ เสมา ป.ป.ส.ประเภทผลงานดีเด่น ระดับทอง ปีการศึกษา 2565 จากกระทรวงศึกษาธิการ

๙. นางสาวธัญรัตน์ ศรีรา ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัล SURATTHANI EDU 4.0

AWARDS ประจำปีงบประมาณ 2566 ในการประเมินผลงานแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการจัดการศึกษาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเภทครูผู้สอน ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ ระดับมัธยมศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 6 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศ

10. นางสาวนงนุช ทองเกิด ได้รับรางวัล ระดับดีเยี่ยม รางวัล SURATTHANI EDU 4.0

AWARDS ประจำปีงบประมาณ 2566 ในการประเมินผลงานแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการจัดการศึกษาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยุทธศาสตร์ที่ 7 การจัดการศึกษาเพื่อการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

11. นางสาวสโรชา แสงทอง ได้รับรางวัล ระดับดีมาก รางวัล SURATTHANI EDU 4.0

AWARDS ประจำปีงบประมาณ 2566 ในการประเมินผลงานแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการจัดการศึกษาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างโอกาสทางการศึกษาให้พลเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานีเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ

12. นายจุฑา พรหมดนตรี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้าน

การศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการปฏิบัติตน การปฏิบัติงาน เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน จาก สพม. สุราษฏร์ธานี ชุมพร

13. นางสาวฐิตินันท์ นพคุณ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้าน

การศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการปฏิบัติตน การปฏิบัติงาน เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน จาก สพม. สุราษฏร์ธานี ชุมพร

15. นางสาวธมลวรรณ ไหมละเอียด รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นครูที่ปรึกษา การประกวดสื่อสร้างสรรค์ต่อต้านการทุจริต ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (โครงการโรงเรียนสุจริต) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

16. นางสาวธมลวรรณ ไหมละเอียด ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลชนะเลิศ กิจกรรม

การประกวดคลิป TikTok หัวข้อ “นักเรียนยุคใหม่ ร่วมสร้างสถานศึกษาปลอดภัย” ประจำปีงบประมาณ 2566 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

17. นายจุฑา พรหมดนตรี ได้รับการเชิดชูเกียรติ เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษา จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

18. นางปริศนา ศรีหมุดกุล เป็นครูแกนนำ การใช้แหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นเป็นห้องเรียน

เพื่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) บูรณาการหลักสูตรสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ระดับ ดี จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

19.นางสาวธมลวรรณ ไหมละเอียด ได้รับคัดเลือกเป็นครูต้นแบบการจัดการเรียนรู้

ระดับสถานศึกษา กิจกรรมนิเทศด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

20. นางสาวกนกกร ทองเดช นายจุฑา พรหมดนตรี นางปริศนา ศรีหมุดกุล นางสาวธมลวรรณ ไหมละเอียด นางสาวสโรชา แสงทอง เป็นครูแกนนำกลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมนิเทศด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

21. นางสาวกนกกร ทองเดช เป็นครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง

กิจกรรมคัดลายมือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และเข้าร่วม ใจกิจกรรมการอ่านจับใจความสำคัญ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในการแข่งขันทักษะภาษาไทย โครงการรักษ์ภาษาไทย เนื่องในสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ ปีการศึกษา 2566 โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จังหวัดสุราษฏร์ธานี

22. เด็กหญิงรุ่งนะพา คำมี เด็กหญิงพัชรินทร์ มากบุญ เด็กชายนลธวัช มืดอินทร์ ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง กิจกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดับชั้น ม1 - ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ณ จังหวัดสตูล ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2566 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

23. นายกิตติศักดิ์ สกุลเผือก ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน กิจกรรมการแข่งขัน เขียนภาพไทยประเพณี ระดับชั้น ม4-ม.6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา2565 ณ จังหวัดสตูล ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2566 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

24. นางสาวอัยร์ดา ชาติเหน้ย นางสาวภัทสรีย์ วรรณวงษ์ นางสาวชาลิสา เจริญขุน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน กิจกรรมการแข่งขันโครงงานคอมพิวเตอร์ ประเภทซอฟต์แวร์ ระดับชั้น ม.4-ม.6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 70 ปีการศึกษา 2565 ณ จังหวัดสตูล ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2566 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

25. เด็กหญิงเอมวิกา เหียดขุนทด รางวัลเกียรติบัตร ระดับเหรียญเงิน กิจกรรมคัดลายมือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โครงการเทิดพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ ระดับจังหวัด

26. เด็กหญิงรุ่งนะพา คำมี เด็กหญิงพัชรินทร์ มากบุญ เด็กชายนลธวัช มืดอินทร์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น กิจกรรมการประกวดคลิป TikTok หัวข้อ “นักเรียนยุคใหม่ ร่วมสร้างสถานศึกษาปลอดภัย” ประจำปีงบประมาณ 2566 จากสำนักงานเขตพื้นที่การคึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

27. เด็กหญิงอัญชิสา ทิพย์เกิด เด็กหญิงพัชรินทร์ มากบุญ เด็กชายนลธวัช มืดอินทร์ เด็กชายหัสฐะกรณ์ เลิศไกร เด็กชายนวมินทร์ เหียดขุนทด ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น การประกวดสื่อสร้างสรรค์ต่อต้านการทุจริต ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (โครงการโรงเรียนสุจริต) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฏร์ธานี ชุมพร

28. นางสาวเอมวิกา เหียดขุนทด ได้รับรางวัลเหรียญทอง กิจกรรมคัดลายมือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ในการแข่งขันทักษะภาษาไทย โครงการรักษ์ภาษาไทย เนื่องในสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ ปีการศึกษา 2566 โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

29. เด็กหญิงอรวรรณ พรายพรรณ ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง กิจกรรมคัดลายมือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในการแข่งขันทักษะภาษาไทย โครงการรักษ์ภาษาไทย เนื่องในสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ ปีการศึกษา 2566 โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

30. เด็กหญิงพัชรินทร์ มากบุญ และนางสาวศิระตา สามงามแก้ว ผ่านการคัดเลือก กิจกรรมการประกวดต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 14 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE IDOL ระดับจังหวัดสุราษฏร์ธานี

การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ

• โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาเผยแพร่กิจกรรมผ่านวารสารโรงเรียน ผ่านกลุ่ม Line ของเขตพื้นที่การศึกษา เว็บไซต์ และfacebook

 

• รางวัลและผลงานต่างๆ

 

 

เอกสารอ้างอิง

กัญญารัตน์ นามวิเศษ. (2562). รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและ

อบายมุขแบบมีส่วนร่วม. วารสารวิชาการการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและ นวัตกรรม. 6(1), มกราคม – มิถุนายน, 17 – 28. คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.

รอง ปัญสังกา และคณะ. (2561). รูปแบบการพัฒนาสถานศึกษาสู่ความเป็นโรงเรียนสีขาว ตาม แนวทางศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 1. โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมแลกเป้า สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.

โรงเรียนเกล็ดแก้ว. (2566). การพัฒนาห้องเรียนสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขโดยใช้รูปแบบ

“P-I-CLEAN”.นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices ) สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด.โรงเรียนเกล็ดแก้ว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3.

โรงเรียนบ้านเนินดินแดง. (2566). “การพัฒนาโรงเรียนบ้านเนินดินแดง ให้เป็นสถานศึกษาสีขาว โดยใช้รูปแบบ 5 ดี MODEL ดีแผน ดีมาตรการ ดีคนทำงาน ดีประสานความ ร่วมมือ ดียึดถือคุณธรรม ”. นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices )

โรงเรียนบ้านวังช้าง. (ม.ป.ป.). “พัฒนาความรอบรู้…สู่วิถีสถานศึกษาสีขาว โดยใช้รูปแบบ “CHANG”. นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices ) สถานศึกษาสีขาวปลอด ยาเสพติด. โรงเรียนบ้านวังช้าง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1.

โรงเรียนบ้านห้วยบอน. (ม.ป.ป.). สุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี สู่วิถีโรงเรียนสีขาว โดยใช้รูปแบบ

BHB MODE. นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices ) สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด.โรงเรียนบ้านห้วยบอน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3.

โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม. (ม.ป.ป). การจัดกิจกรรมสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและ อบายมุข “ยางชุมน้อยพิทยาคม ดี - เยี่ยม โมเดล” YCP-D-YEAM MODEL.

นวัตกรรมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices ) สถานศึกษาสีขาวปลอด ยาเสพติด. โรงเรียนยางชุมน้อยพิทยาคม สำนักงายเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 28.

สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด. โรงเรียนบ้านเนินดินแดง อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด

ภาคผนวก

ภาคผนวก

การเผยแพร่และการได้รับการยอมรับ

1. ร่วมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายโรงเรียนในสหวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี 3

2. โรงเรียนควนสุบรรณวิทยาเผยแพร่กิจกรรมผ่านวารสารโรงเรียนผ่านเวบไซต์และเฟสบุค

3. การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการสู่เพื่อนร่วมวิชาชีพ ได้แก่ แบบตอบรับ 5 โรงเรียน (1) โรงเรียนบ้านนาสาร (2) โรงเรียนเวียงสระ (3) โรงเรียนคลองฉนวนวิทยา (4) โรงเรียนพ่วงพรมครวิทยา

 

• ร่วมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเครือข่ายต่างๆ 

• การเผยแพร่กิจกรรมผ่านวารสารโรงเรียน ผ่านเว็บไซต์และเฟสบุค

 

• แบบตอบรับการเผยแพร่นวัตกรรม/ผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice)

โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข

 

 

 

 

 

 

โพสต์โดย arachaporn : [17 ม.ค. 2567 (21:45 น.)]
อ่าน [1785] ไอพี : 118.173.171.59
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,588 ครั้ง
40 ปี โครงการหลวง สนุก ดี ใต้พระบารมีพ่อหลวง
40 ปี โครงการหลวง สนุก ดี ใต้พระบารมีพ่อหลวง

เปิดอ่าน 21,198 ครั้ง
บอกเล่า"ปาฏิหาริย์" สมเด็จพระสังฆราช
บอกเล่า"ปาฏิหาริย์" สมเด็จพระสังฆราช

เปิดอ่าน 1,064 ครั้ง
การใช้คลังข้อสอบมาตรฐาน (Standardize ltem Bank System : SIBS) เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
การใช้คลังข้อสอบมาตรฐาน (Standardize ltem Bank System : SIBS) เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)

เปิดอ่าน 20,720 ครั้ง
ประเพณีแห่เทียนพรรษา ปี 52 จังหวัดอุบลราชธานี
ประเพณีแห่เทียนพรรษา ปี 52 จังหวัดอุบลราชธานี

เปิดอ่าน 46,757 ครั้ง
140 ที่สุดในโลก
140 ที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 13,394 ครั้ง
ทำไมตัวอักษรในแป้นพิมพ์ถึงไม่เรียงเป็น A B C??
ทำไมตัวอักษรในแป้นพิมพ์ถึงไม่เรียงเป็น A B C??

เปิดอ่าน 64,237 ครั้ง
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย

เปิดอ่าน 25,318 ครั้ง
การ์ตูนเป็ดโดนัลด์ดั๊ก อายุ 75 ปีแล้วนะ
การ์ตูนเป็ดโดนัลด์ดั๊ก อายุ 75 ปีแล้วนะ

เปิดอ่าน 10,233 ครั้ง
วิธีรักษามะเร็ง แบบธรรมชาติ
วิธีรักษามะเร็ง แบบธรรมชาติ

เปิดอ่าน 8,944 ครั้ง
10 บัญญัติขจัดโรคน้ำท่วม
10 บัญญัติขจัดโรคน้ำท่วม

เปิดอ่าน 17,017 ครั้ง
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย
ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย

เปิดอ่าน 15,033 ครั้ง
ประโยชน์ของ ADSL
ประโยชน์ของ ADSL

เปิดอ่าน 20,640 ครั้ง
รวม ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิริมงคลคนไทยทุกคน
รวม ส.ค.ส.พระราชทานจากในหลวง อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสิริมงคลคนไทยทุกคน

เปิดอ่าน 25,793 ครั้ง
ราคามาตรฐานครุภัณฑ์
ราคามาตรฐานครุภัณฑ์

เปิดอ่าน 12,211 ครั้ง
"โสม" ราชาแห่งสมุนไพร
"โสม" ราชาแห่งสมุนไพร

เปิดอ่าน 8,608 ครั้ง
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เด็กรุ่นใหม่... เขาทำ (อาชีพ) อะไร
เปิดอ่าน 312,365 ครั้ง
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำของสกินเนอร์
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำของสกินเนอร์
เปิดอ่าน 26,826 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
เปิดอ่าน 108,416 ครั้ง
ความหมายของมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา
ความหมายของมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา
เปิดอ่าน 27,698 ครั้ง
สีเสริมมงคลปี 58 ! หมอช้างถอดรหัส 12 ราศี สีไหนใส่ดี สีไหนควรระวัง?
สีเสริมมงคลปี 58 ! หมอช้างถอดรหัส 12 ราศี สีไหนใส่ดี สีไหนควรระวัง?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ