ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานการวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวตรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม ด้วยแบบฝึก

รายงานการวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวตรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม ด้วยแบบฝึก

โดย นายเอนก บุญสวน โรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบูรณ์ พ.ศ. 2564

ความเป็นมาและความสำคัญของการวิจัย

ในการจัดการเรียนการสอน ครูจะต้องให้ความสำคัญกับผู้เรียน คำนึงถึงความต้องการของ

ผู้เรียน และพยายามสอนโดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาต่างๆ และได้ทำกิจกรรมร่วมกันในการ

เรียนการสอน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูจะต้องมีการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมใน

การเรียนมากที่สุด

แต่จากการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา

2563 เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวตรง นั้น นักเรียนจำนวนร้อยละ 50 คือ 67 คน จากทั้งหมด 134 คน ได้

คะแนนต่ำกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเต็ม อีกทั้งในสถานการณ์โควิด 19 ทำให้การจัดการเรียนการสอน

เป็นไปได้ยากกว่าปกติ

ผู้วิจัยจึงได้นำกฎการฝึกหัดมาใช้คือ การให้ผู้เรียนได้ทำซ้ำ ๆ กัน เพื่อช่วยสร้างความรู้ความ

เข้าใจที่แม่นยำจากปัญหา มาใช้ในการเรียนการสอนวิชา วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่

ในแนวตรง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และมีความคาดหวังว่า การวิจัยในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์

ในการพัฒนาการเรียนการสอน วิชา ฟิสิกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ในอนาคต และ เป็นแนวทางใน

การพัฒนานวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวตรง

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม โดยใช้แบบฝึก

สรุปและอภิปรายผล

ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง การเคลื่อนที่ใน

แนวตรง พบว่า คะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 12.10 คะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 3.10 และ ผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

ทั้งนี้อาจเป็นเพราะแบบฝึกเป็นสื่อการสอนที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา ทำความเข้าใจ และฝึกฝนจนเกิด

ความคิดที่ถูกต้องและเกิดทักษะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แบบฝึกเป็นเครื่องมือสำคัญที่ครูทุกคนใช้ในการ

ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะของผู้เรียน สอดคล้องกับผลการวิจัยของสอดคล้องกับ

ผลการวิจัยของวริศรา ศรีสวัสดิ์และคณะ (2559 : 24-26) ที่ได้ทำการวิจัย เรื่อง การพัฒนาแบบฝึกเสริม

ทักษะวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผลการวิจัยพบว่าแบบฝึกเสริมทักษะวิชาคณิตศาสตร์มี

ประสิทธิภาพ 77.32/79.20 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ก่อนและหลังเรียนของนักเรียน

ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกหัดเสริมทักษะมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย krubom : [15 ม.ค. 2567 (22:14 น.)]
อ่าน [65357] ไอพี : 171.96.234.251
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,344 ครั้ง
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ
ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ

เปิดอ่าน 99,254 ครั้ง
เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่
เสียงร้องทารก บอก"อะไร"คุณแม่

เปิดอ่าน 11,066 ครั้ง
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้
โด๊ปวิตามินหวังบำรุงร่างกาย อาจทำให้อายุสั้นได้

เปิดอ่าน 125,718 ครั้ง
ความเชื่อของชาวอีสาน
ความเชื่อของชาวอีสาน

เปิดอ่าน 10,776 ครั้ง
Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล
Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล

เปิดอ่าน 78,108 ครั้ง
การวาดภาพนกเบื้องต้น
การวาดภาพนกเบื้องต้น

เปิดอ่าน 32,569 ครั้ง
เทคนิคเพิ่มความเร็วในการอ่านภาษาอังกฤษ
เทคนิคเพิ่มความเร็วในการอ่านภาษาอังกฤษ

เปิดอ่าน 27,087 ครั้ง
แมลงมีพิษกัดต่อย
แมลงมีพิษกัดต่อย

เปิดอ่าน 2,774 ครั้ง
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด

เปิดอ่าน 10,496 ครั้ง
คลิปรวมยอดฮิต 2013 ของ YouTube
คลิปรวมยอดฮิต 2013 ของ YouTube

เปิดอ่าน 9,711 ครั้ง
การศึกษาไทยต้อง Change สถานเดียว
การศึกษาไทยต้อง Change สถานเดียว

เปิดอ่าน 8,852 ครั้ง
ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน
ธอส.เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี พิมพ์เขียว แบบ "บ้านรักษ์โลก" งบไม่เกิน 1-2 ล้าน

เปิดอ่าน 22,068 ครั้ง
ประวัติกระดาษห่อลูกอมฮาร์ตบีท
ประวัติกระดาษห่อลูกอมฮาร์ตบีท

เปิดอ่าน 20,305 ครั้ง
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน "บ้าน"
รู้จัก 3 แมลงร้าย..พาหะนำโรค ที่แฝงตัวอยู่ใน "บ้าน"

เปิดอ่าน 16,647 ครั้ง
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30

เปิดอ่าน 1,904 ครั้ง
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science  ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
เปิดอ่าน 21,819 ครั้ง
LearnSquare e-Learning Management System
LearnSquare e-Learning Management System
เปิดอ่าน 13,604 ครั้ง
อัลมอนด์และน้ำผึ้ง แก้เจ็บคอ
อัลมอนด์และน้ำผึ้ง แก้เจ็บคอ
เปิดอ่าน 21,645 ครั้ง
เคลียร์แล้วปัญหาโลกแตก "ไก่" เกิดก่อน "ไข่"
เคลียร์แล้วปัญหาโลกแตก "ไก่" เกิดก่อน "ไข่"
เปิดอ่าน 17,269 ครั้ง
รวม 10 อันดับขับรถสุดเห่ย ขอให้มีสตินะครับ
รวม 10 อันดับขับรถสุดเห่ย ขอให้มีสตินะครับ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ