บทคัดย่อ
เรื่อง : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สของของสัตว์เลี้ยงลูกด้วย
นมโดยการจัดการเรียนรู้แบบทดลองทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย : ลัดดา ภูปัญญา
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
(2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน (3) ศึกษาความก้าวหน้าทางการเรียนและ
(4)ศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ระเบียบวิธีวิจัยประกอบด้วยการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการนำไปใช้กับกลุ่มที่ศึกษาซึ่ง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 ห้องเรียนจำนวน 31 คนเก็บข้อมูลจาก (1) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนซึ่งเป็นข้อสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 10 ข้อและ (2) แบบทดสอบเรื่อง โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (3) ใบกิจกรรมที่ 11.1 แบบฝึกหัดโครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (4) ใบกิจกรรม 11.2 ทดลอง อธิบายโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
ด้านความรู้(Knowledge)ผู้เรียนร้อยละ 100 สามารถทดลองอธิบายโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ประเมินจากการทำแบบทดสอบ เรื่องโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 10 ข้อ พบว่าผู้เรียนได้คะแนนร้อยละ 100 (10 คะแนน) จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 80.64 ผู้เรียนได้คะแนนร้อยละ 90 (9 คะแนน) จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 16.12 ผู้เรียนได้คะแนนร้อยละ 80
(8 คะแนน) จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ3.21 ประเมินจากใบกิจกรรมที่ 11.1 พบว่า ผู้เรียนได้คะแนนร้อยละ
9 คะแนน จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 100
ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process) ผู้เรียนร้อยละ 100 สามารถทดลอง อธิบายโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ประเมินจากใบกิจกรรมที่11.2 เรื่องทดลอง อธิบายโครงสร้างในการแลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พบว่าผู้เรียนที่อยู่ในระดับคุณภาพดีมาก จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ54.83 ผู้เรียนที่อยู่ในระดับคุณภาพดี จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 45.37
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude)ผู้เรียนร้อยละ 100 มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรมในการทำกิจกรรมของผู้เรียนจากแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พบว่าผู้เรียนที่อยู่ในระดับคุณภาพดีมาก จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 100