ครูบ้านนอก

. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมที่นำเสนอ

จากสภาพสังคมที่ เปลี่ ยนแปลงไปอย่างมากในปัจจุบัน การสื่ อสารเทคโนโลยีต่ างๆ

ส่งผลกระ ทบต่อ ประชาชนทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่งปรากฏปัญหาให้เห็นมากมาย ทั้งทาง

ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด

อันนำมาซึ่งปัญหาครอบครัวที่เกิดความทุกข์ ความวิตกกังวล ความเครียด มีการปรับตัวที่ไม่เหมาะสม

หรืออื่น ๆ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนเกี่ยวข้องกับบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติดแลพอ

บายมุข ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะบุคลากรทางการศึกษาทุกคนใน

โรงเรียน ซึ่งมีครูเป็นหลักสำคัญในการดำเนินการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตของนักเรียนให้เติบโตงดงามและ

เป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคม การพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มี คุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และ

สติปัญญา มีความรู้ ความสามารถ และมีคุณธรรมจริยธรรม ดำเนินวิถีชีวิต ที่เป็นสุขตามที่สังคม

มุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการเรียนการสอนที่โรงเรียนต้องดำเนินการจัดการศึกษาตามนโยบายของ

กระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้เยาวชนเป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข นอกจากจัดกิจกรรม

ที่ ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนได้รับกระบวนการเรียนรู้แล้ว การป้องกัน และการช่วยเหลือแก้ไข

ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงรอบโรงเรียนที่มีพฤติกรรมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ติดเกม

การเข้าถึงสื่อ อิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อลามก การทดลองยาเสพติดบางชนิดจากการชักชวนของเพื่อน

หรือรุ่นพี่ เป็นปัญหาสังคมที่ผู้ปกครอง คุณครูทุกคนที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา

ไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งมาจาก ปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบจากแหล่งอบายมุข

จากนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ การพัฒนานักเรียน/นักศึกษาให้้มีีคุณลักษณะที่่พึงประ

สงค์์ เป็นคนที่่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจมีคุณธรรม จริยธรรม มีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถ

อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้้อย่างมีีความสุข ห่างไกลจากยาเสพติด การสูบบุหรี่่/บุหรี่่ ไฟฟ้า การบริโภค

เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ สื่อลามกอนาจาร การพนัน การทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นพฤติิกรรม เบี่ยงเบนที่

สังคมไม่่ยอมรับ ถือเป็นกลยุทธ์ สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการในการกำหนดนโยบายโครงการ

สถานศึกษา สีีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ให้้สถานศึกษาทุกแห่งดำเนินงาน มีีเป้าหมายการ

ดำเนินงาน

นอกจากนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการโรงเรียนวัดเขาสมอระบัง ตระนึกถึงความ

ปลอดภัยของนักเรียนในด้านยาเสพติด จึงได้มีการกำหนดนโยบายของสถานศึกษา โดยเริ่มจาก

การศึกษาสถานการณ์ยาเสพติดรอบสถานศึกษา ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้อำนวยการ

สถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู นักเรียน ภายใต้แนวการดำเนินการ 5 มาตรการ กล

ยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ ของศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับโทษ

ของยาเสพติดชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บุหรี่, ยาม้า, ยาบ้า เป็นต้น นอกจากนี้โรงเรียนต้องกำหนดแผน

ป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขของโรงเรียนขึ้น ตลอดจนการขับเคลื่อนโครงการ

ห้องเรียนสีขาว และสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข โรงเรียนได้ดำเนินการวาง

นโยบาย การทำงาน ด้านยาเสพติด โดยเริ่มจากการศึกษาสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน

แล้วนำมาวางแผนกำหนดขั้นตอนในการดำเนินงานและนิเทศ ติดตามเสนอแนะช่วยเหลือ จัดกิจกรรม

อย่างเป็นระบบ และมีความต่อเนื่อง และสร้างเครือข่าย โดยขอความร่วมมือจากบ้าน วัดและชุมชน

ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติงานด้านการป้องกันยาเสพติดของโรงเรียน โดยมีแนวดำเนินการ การ

ดำเนินการแบบมีส่วนร่วมของนักเรียน ครู ผู้ปกครองนักเรียน เครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชนหน่วยงาน

ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพหนองปลาไหล บ้านสมอระบัง วัดเขาสมอระบัง เป็น

ต้น

2. แนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนา

โรงเรียนวัดเขาสมอระบัง ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมคุณธรรมโดยส่งเสริมผ่าน

กิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนใช้เวลาให้เป็นประโยชน์และห่างไกลบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า

ยาเสพติดและอบายมุขภายใต้โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดบุหรี่และอบายมุข โดยใช้นวัตกรรม

ชื่อว่า No Drugs No Sad ขับเคลื่อนโดย SAMOR MODEL เพื่อปลูกฝัง ป้องกัน และสร้างภูมิคุ้มกัน

ที่ในการดำเนินชีวิตโดยไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุข

3. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์

1. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 85 คน ตระหนัก

ถึงโทษของบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติดและอบายมุข

2. เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 85 คน

ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติดและอบายมุข

เป้าหมาย

เชิงปริมาณ

1. นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 85 คน ได้รับการส่งเสริมและมี

ความตระหนักถึงโทษของบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติดและอบายมุข

2. นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 85 คน ได้รับการป้องกันไม่ให้ยุ่ง

เกี่ยวกับบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติดและอบายมุข

เชิงคุณภาพ

1. นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับการส่งเสริมและมีความตระหนัก

ถึงโทษของบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติดและอบายมุข อยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 100

นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับการป้องกันไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับ บุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า

ยาเสพติดและอบายมุข อยู่ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 100

เว็บน่าสนใจ