ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active
reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65
ผู้วิจัย นางหทัยรัตน์ แปงจิตร์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1
ปีที่ทำวิจัย 2566
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65 2) ทดลองใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65 และ 3) ประเมินผลรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Research: R1) ประกอบด้วย การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading ทฤษฎีการสอนภาษาไทย ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนารูปแบบการสอน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการสอนและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการสอน (Development: D1) ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการสอน (Research: R2) ขั้นตอนที่ 4 พัฒนา (Development: D2) โดยนำผล การประเมินในขั้นตอนที่ 3 มาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ได้รูปแบบการสอนที่สมบูรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65 แผนการสอน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ t - test และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบคือ หลักการของรูปแบบการสอน วัตถุประสงค์ของรูปแบบการสอน เนื้อหา กระบวนการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการสอนและการวัดและประเมินผล มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการสอน ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นกระตุ้นให้ระลึกถึงความรู้เดิม (A: Activate prior knowledge) 2) ขั้นการนำเสนอความรู้หรือคำศัพท์ใหม่ (C: Cultivate vocabulary) 3) ขั้นสอนอ่านจับใจความสำคัญ (T: Teach for reading comprehension) 4) ขั้นเพิ่มความคล่องแคล่วในการอ่าน (I: Increase reading rate) 5) ขั้นตรวจสอบกลวิธีการอ่าน (V: Verify reading strategies) และ 6) ขั้นประเมินความก้าวหน้าในการอ่าน (E: Evaluate progress) ซึ่งมีผลการประเมินคุณภาพรูปแบบการสอนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นมีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 1.00 และรูปแบบการสอน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.87 , SD = 0.82)
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65 หลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สูงกว่าก่อนเรียนด้วยรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการประเมินผลรูปแบบการสอนอ่านจับใจความสำคัญ ตามแนวการสอนแบบ Active reading และเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดตำหรุ มิตรภาพที่ 65 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.85 , SD = 0.78) และครูผู้สอนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.75 , SD = 0.58)