ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางปรียา นามเหลา

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

สังกัด โรงเรียนบ้านกลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ปีที่พิมพ์ 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา และความต้องจำเป็นต่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2) เพื่อออกแบบ สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐานร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ 4) ประเมินผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น ดังนี้ 4.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน 4.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน 4.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 คน ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านกลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 เป็นหน่วยวิเคราะห์ ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : R1) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Design and Development : D1) : การพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 3 การนำไปใช้ (Implementation : R2) : การทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุง (Evaluation : D2) : การประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผู้บริหารครูผู้สอนสาระวิทยาศาสตร์และนักเรียนต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ครูมีความจำเป็นและมีความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การเรียนรู้แบบการนำตนเอง (Self-Directed Learning) ที่สอดคล้องกับทฤษฎีสร้างความรู้นิยม (Constructivism) ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา (Cognitive Constructivism) เพื่อส่งเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ผู้เรียนสามารถค้นพบความรู้ด้วยตนเอง

2. การออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มี 7 องค์ประกอบสำคัญ คือ (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3) เนื้อหาที่ใช้ในการเรียนการสอน (4) ขั้นตอนที่ใช้สอน 5 ขั้น ได้แก่ ขั้นให้ความรู้พื้นฐาน (Basic knowledge) ขั้นแสวงหาความรู้ (Information Search) ขั้นปฏิบัติการ (Taking action) ขั้นนำเสนอผลงาน (Presentation) ขั้นสรุปและประเมินผล (Summarizing and Assessing) (5) ระบบสนับสนุน (6) การประเมินผล (7) ผลของการนำไปใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสม และสอดคล้องขององค์ประกอบ อยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ไปใช้ พบว่า

3.1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการ เรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.57/83.80 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

3.2 ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.7698 ซึ่งหมายถึงว่าหลังเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.98

4. ผลประเมินการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ พบว่า

4.1 นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.2 นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้แบบนำตนเองเพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย บืนมอ : [22 ธ.ค. 2566 (22:35 น.)]
อ่าน [2074] ไอพี : 223.206.219.43
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,644 ครั้ง
เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก
เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก

เปิดอ่าน 11,449 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2012
กูเกิล เผยอันดับคำค้นสุดฮิตของไทย ประจำปี 2012

เปิดอ่าน 10,126 ครั้ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง
กินมะเขือเทศป้องกันเป็นอัมพาตได้ ยิ่งกินมากยิ่งหนีได้ห่างตั้งครึ่งต่อครึ่ง

เปิดอ่าน 106,561 ครั้ง
เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique)
เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique)

เปิดอ่าน 35,769 ครั้ง
เผยสำรวจพบ8อาชีพมีรายได้เกินแสน นักบิน เงินเดือนสูงสุด
เผยสำรวจพบ8อาชีพมีรายได้เกินแสน นักบิน เงินเดือนสูงสุด

เปิดอ่าน 30,261 ครั้ง
อากาศร้อนจัด นักวิชาการมหิดล เตือน ฮีทสโตรค อันตราย
อากาศร้อนจัด นักวิชาการมหิดล เตือน ฮีทสโตรค อันตราย

เปิดอ่าน 16,323 ครั้ง
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน

เปิดอ่าน 25,947 ครั้ง
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่

เปิดอ่าน 11,392 ครั้ง
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค
เตือนภัย : หนุ่มๆ ที่ชอบใช้โน้ตบุ๊ค

เปิดอ่าน 17,580 ครั้ง
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake
คลิป งูกินงู กินกลืนกันสดๆ งูหางกระดิ่ง VS King Snake

เปิดอ่าน 10,737 ครั้ง
คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
คู่มือการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน

เปิดอ่าน 10,638 ครั้ง
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ
คำเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ

เปิดอ่าน 4,256 ครั้ง
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก มีอะไรบ้างนะ
เทคโนโลยีทางเลือกสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก มีอะไรบ้างนะ

เปิดอ่าน 10,679 ครั้ง
ถ้อยคำกินใจ..จากแม่ผู้เป็นแม่ค้า ส่งเสียลูกเรียนมหาวิทยาลัย
ถ้อยคำกินใจ..จากแม่ผู้เป็นแม่ค้า ส่งเสียลูกเรียนมหาวิทยาลัย

เปิดอ่าน 20,049 ครั้ง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง
7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง

เปิดอ่าน 14,776 ครั้ง
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว
ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อรักยืนยาว
เปิดอ่าน 15,517 ครั้ง
ลายมือผู้วิเศษ
ลายมือผู้วิเศษ
เปิดอ่าน 10,523 ครั้ง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
เปิดอ่าน 9,170 ครั้ง
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี
ศัลยกรรมพลิกชีวิต ในรายการวีไอพี
เปิดอ่าน 60,019 ครั้ง
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ